พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เกมดิ้นหนีตาย กับ “สัญญาณอันตราย” ของ “เนวิน”

ไม่แน่ใจ คำว่า “ปรองดอง” ที่พูดกันเปรอะอยู่ในเวลานี้ โดยเฉพาะจากคนวงการเมือง จะหมายถึง “ความสามัคคีกลมเกลียวกัน ไม่แก่งแย่งกัน พร้อมเพรียงกัน ตกลงกัน” ตามพจนานุกรมหรือไม่?

เป็นการปรองดองที่จริงใจ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาความแตกแยกภายในบ้านเมืองครั้งรุนแรงเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทยหรือเปล่า?

เพราะเท่าที่แต่ละฝ่ายที่เสนอเรื่องนี้ ต่างมีเป้าหมายแอบแฝง ซ่อนเงื่อนซ่อนปม
ปรองดองโดยมีวาระซ่อนเร้น!

“ปรองดอง” ในความหมายของฝ่ายทักษิณ ชินวัตร น่าจะหมายถึง การหาทางเจรจา รอมชอม เพื่อปลดชนักเคลียร์คดีให้ “พ้นผิด”
ส่วน“ปรองดอง ”ของฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา3 ที่มองอีกมุมก็ได้เช่นกันว่า เป็นการ “ซื้อเวลา” เพื่ออยู่ในอำนาจต่อไปให้ยาวนานที่สุด

แต่ “ปรองดอง” ที่น่าวิเคราะห์คือ พรรคภูมิใจไทย ที่นำโดยนายเนวิน ชิดชอบ ที่เอาจริงเอาจังในการประกาศเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยกโทษให้ทุกสีเสื้อ ไม่ว่าเหลือง แดง หรือสีกากีตำรวจ หรือเขียว–กองทัพ!

ข้อสงสัยในข้อเสนอของเนวินและภูมิใจไทย ได้ถูกเปิดแฉกันมาเป็นฉากๆ แล้วว่าการเอาจริงเอาจังเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าว มีวาระแฝง
ทั้งเพื่อเรียกคะแนนจากทุกสีเสื้อ โดยเฉพาะมวลชนรากหญ้า “เสื้อแดง” ในภาคเหนือและภาคอีสาน ฐานเสียงที่หนาแน่นของพรรคเพื่อไทย และ เนวิน-ภูมิใจไทย ยากที่จะเจาะได้

และเนื้อหาของกฎหมาย เป็นประโยชน์ของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการและปราบปรามม็อบ ทั้งสีเขียว-กองทัพ สีกากี-ตำรวจ ระดับบิ๊กที่เกี่ยวข้อง
ทั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ์ อดีต ผบ.ตร. ที่ติดบ่วงคดีความผิดการสลายม็อบเสื้อเหลือง และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่มีส่วนรับผิดชอบสั่งการจัดการกับการชุมนุมของม็อบทุกสีเสื้อมาตลอด4ปี

เป็น2บิ๊กในสาย “บูรพาพยัคฆ์” ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม แนวร่วมในเครือข่าย “แม่ทัพใหญ่สีน้ำเงิน” ที่ได้ประโยชน์ มีโอกาสพ้นผิด
เป็นข้อสงสัยที่ “เนวิน” และภูมิใจไทย ยังไม่มีคำแก้ต่างแก้ตัว!

แต่ยังมีปมที่ประเมินลึกไปกว่านั้น ที่ “เนวิน”เดินหมากตานี้ เพื่อยื้อแผนปรองดองของ2ค่ายใหญ่ ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย
สกัดพิมพ์เขียว “รัฐบาล2พรรค”

นอกจากนี้ วันนี้สิ่งที่ “เนวิน” และพรรคภูมิใจไทย เร่งรีบสุดแรงยังมาจาก “สัญญาณอันตราย” จากกรณีการแต่งตั้ง มงคล สุระสัจจะ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องสะดุดลง
ไม่เพียงเพราะ “ว่าที่ปลัด” ยังค้าง “มลทิน” คดีทุจริตเช่าคอมพิวเตอร์ แต่ที่มากกว่านั้นคือแรงต้าน จากอดีตข้าราชการกระทรวงมหาดไทย
โดยเฉพาะเป็นแรงต้าน “ทรงพลัง” จาก พงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัด มท. ที่มีสายสัมพันธ์แน่นปึ้กกับ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี
“เนวิน” รับรู้ดี ถึง “สัญญาณไม่ปกติ” ครั้งนี้ดี!

นอกจากเร่งรีบอย่างร้อนร้น สั่ง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ล่ารายชื่อประชาชนให้ได้ 1-3แสนคน ภายในเวลา2เดือนครึ่ง เพื่อสนับสนุนการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
อีกทางหนึ่ง นายใหญ่ภูมิใจไทยก็เลือกที่จะประคองตัวให้อยู่ในเกมต่อไป โดยไม่เลือกทาง “แตกหัก” กับผู้นำอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีท่าทีแข็งกร้าวใส่เขาอย่างชัดเจน
แต่ “ยอมงอ” ทั้งปล่อยให้มีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อกล่าวหานายมงคล โดยมีคนจากนอกกระทรวงมหาดไทยเข้าร่วม รวมทั้งยอมให้ตั้ง “รักษาการปลัด มท.” ที่ไม่ใช่นายมงคลตามที่ต้องการ แต่ชื่อ ขวัญชัย วงศ์นิติกร ก็คือคนมหาดไทยในเครือข่าย “ชิดชอบ”

การยอมอ่อนข้อก็เพื่อให้อยู่ในวงอำนาจ และตรึงกำลังพลพรรคภูมิใจไทย ที่หล่อเลี้ยงด้วยงบประมาณ และการอุ้มชูจากข้าราชการสายสีน้ำเงิน
ไม่ให้ไพร่พลแตกแถวแตกทัพก่อนเดินเข้าสนามรบในวันหน้า

อีกทางหนึ่ง ระหว่างเกมนิรโทษกรรมของนายเนวิน ประจวบเหมาะกับสถานการณ์การเมือง ที่เข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์งวดเข้ามา
ห้วงลุ้นระทึก ปชป.รอดหรือร่วง รัฐบาลอยู่หรือไป ก็มีประเด็น “นายกฯคนกลาง” ที่แต่ละฝ่ายตระเตรียมหากเกิดกรณีฉุกเฉิน หากเกิดกรณี “ยุบพรรค” ล้างกระดาน เลือกผู้นำกันใหม่
จุดนี้เอง ที่เนวินเร่งแสวงหา “แนวร่วม” เพื่อเพิ่มอำนาจการ “ต่อรอง”

นอกเหนือไปจากมีแนวร่วมชั้นดี “2ป.บูรพาพยัคฆ์” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ ที่แม้จะก้าวลงจากอำนาจ แต่ประกาศจะไม่ไปไหน
เป็น2ป.ที่มีชื่อลุ้นเก้าอี้ใหญ่ หากเกิด “จุดเปลี่ยนประเทศ” ในคดียุบ ปชป.

นักการเมืองผ่านศึกโชกโชนอย่างเนวิน ยังเดินเกมแตะมือสารพัดบิ๊กเนม เพื่อเป็นตัวเลือก ชูเป็นแคนดิเดต “นายกฯคนใหม่” ในสายตัวเอง
รวมทั้งการต่อสายไปยังคนในประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะที่มีชื่อ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นอีกหนึ่งแคนดิเดต “ผู้นำ” เสียงเชียร์จากค่ายภูมิใจไทยมีส่วนสำคัญ
แม้แต่ กรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ที่เริ่มมีสัมพันธ์ที่ดีกับเครือข่ายสีน้ำเงินในระยะหลัง

นอกจากนี้ การกลับไปผูกมิตรกับ บรรหาร ศิลปอาชา ที่ห่างไปหลังหลงจู๊ไปมีสัมพันธ์อันดีกับขั้ว3พี เพื่อแผ่นดิน นั่นก็เพราะ เนวินต้องการ แท็กทีมกับพรรคชาติไทยพัฒนา
นอกจากเกมการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยังมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรอง
ในพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ และยามต้องช่วงชิงในกลเกมตั้งรัฐบาลในอนาคต!
ไม่ว่ากรณีขั้วเก่าประชาธิปัตย์ยังคงอยู่ หรือยามต้องฟอร์ม ครม.กันใหม่ รวมทั้งหากเกิดเหตุพลิกขั้วกลับข้างไปที่พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เป็นการดิ้นสู้ของเนวิน ในยามสัญญาณอันตรายมาถึง ทั้งปม “แรงต้านทรงพลัง” ในการตั้งปลัดมหาดไทย และล่าสุดกับข่าวแกนนำประชาธิปัตย์ ต่อสายเตรียมดึงก๊วน “3พี เพื่อแผ่นดิน” พินิจ จารุสมบัติ-ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี-ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ กลับรัฐบาล
และเป็นจริง ก็ยากที่เนวินและภูมิใจไทย ที่เคยประกาศศึกเดือดกับ3พี จะอยู่เป็นสุข และโอกาสถูกดีดออกแทน มีอยู่ไม่ใช่น้อย

โดยเฉพาะข่าวไม่กรองที่กระตุกขวัญเนวินพอสมควร คือข่าวที่ว่า พรรคเพื่อแผ่นดินกลับร่วมรัฐบาลครั้งนี้ อาจพ่วง ส.ส.อีสานเพื่อไทยที่ “ผูกเสี่ยว” ไว้มาด้วย!
สัญญาณ “หายนะ” แรงจัด ที่ทำให้ “เนวิน” ภูมิใจไทย นิ่งไม่ได้ จากนี้ไปจึงต้องจับตา “นายใหญ่ภูมิใจไทย” จะคิดแผน วางเกม เดินหมากอีกสารพัด

ดิ้นสุดแรง เพื่อไม่ให้ค่ายสีน้ำเงินหลุดวงโคจร!!