หญิงชาวญี่ปุ่นวัย 60 ปี เสียชีวิตหลังฉีด “วัคซีนไฟเซอร์” รัฐบาลเล็งจ่ายชดเชย 14 ล้านบาท

ญี่ปุ่นฉีดวัคซีน
(Photo by Behrouz Mehri - Pool/Getty Images)
แผนฉีดวัคซีนสกัด COVID-19 ในญี่ปุ่นเริ่มสะเทือน หลังหญิงวัย 60 ปีเสียชีวิตหลังได้รับวัคซีนเพียง 3 วัน กระทรวงสาธารณสุขจะจ่ายค่าชดเชย ถ้าพิสูจน์ได้ว่าตายเพราะผลข้างเคียงจากวัคซีน

กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น รายงานกรณีหญิงช่วงวัย 60 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ของบริษัทไฟเซอร์ หญิงรายนี้ได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ 26 ก.พ. และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 มี.ค. จากอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง หญิงรายนี้ไม่มีโรคประจำตัว และไม่มีประวัติการแพ้ยา

กรณีนี้เป็นผู้เสียชีวิตรายแรกหลังญี่ปุ่นเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

แต่รายงานของกระทรวงสาธารณสุขย้ำว่า ณ ขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการเสียชีวิตนี้เกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่

ความเห็นจากแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชศาสตร์ที่ระบุในรายงานของกระทรวงสาธารณสุขชี้ว่า อาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลางเกิดขึ้นได้ง่ายในกลุ่มอายุ 40–60 ปี มักมีสาเหตุมาจากอาการหลอดเลือดโป่งพอง และในต่างประเทศก็ไม่เคยมีรายงานว่าอาการนี้สัมพันธ์กับการรับวัคซีนป้องกันไวรัส COVID-19 จึงอาจเป็นเรื่องบังเอิญ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อประเมินถึงความปลอดภัยและผลข้างเคียงของวัคซีน

รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีนโยบายว่า หากผู้ที่รับวัคซีนโควิดเสียชีวิตจากผลข้างเคียง จะจ่ายเงินชดเชยให้ครอบครัวเป็นจำนวนเงิน 44.2 ล้านเยน (ราว 14 ล้านบาท) และจะให้เงินช่วยค่าจัดงานศพอีก 209,000 เยน (ราว6 หมื่นบาท)

นอกจากนี้ หากมีอาการป่วย หรือมีผลกระทบทางสุขภาพจากวัคซีนก็จะได้รับเงินชดเชยเช่นกัน โดยจำนวนเงินจะขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี

ญี่ปุ่นเคยมีประวัติผลข้างเคียงจากวัคซีนหลายกรณี ที่ทำให้รัฐบาลต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพมาจนถึงทุกวันนี้ มีผลการสำรวจพบว่า ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากยังลังเลที่จะรับวัคซีน COVID-19 ยิ่งเมื่อมีข่าวการเสียชีวิตหลังได้รับวัคซีน ก็ยิ่งทำให้เป้าหมายที่จะให้วัคซีนแก่ประชาชนจำนวนมากที่สุด เพื่อหยุดยั้งการระบาดของ COVID-19 ให้ได้ก่อนมหกรรมโตเกียว โอลิมปิกในกลางปีนี้ เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง

Source