Salmon Chaos : คนไต้หวันเเห่เปลี่ยนชื่อเป็น ‘เเซลมอน’ เพื่อโปร ‘กินฟรี’ จนรัฐต้องขอร้องให้หยุด

ปรากฏการณ์คนเเห่เปลี่ยนชื่อเป็นเเซลมอนกำลังเป็นกระเเสเเรงในไต้หวัน จนทางการต้องออกประกาศขอร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าว หลังมีประชาชนนับร้อย ยื่นขอเปลี่ยนชื่อเพื่อให้ได้สิทธิ์โปรโมชันกินฟรีไม่อั้นที่ร้านซูชิเเห่งหนึ่ง

สื่อไต้หวันเรียกกระเเสเปลี่ยนชื่อนี้ว่า ‘Salmon Chaos’ หรือความโกลาหลเรื่องแซลมอน โดยคนวัยหนุ่มสาวราว 150 คนเดินทางไปที่หน่วยงานของรัฐในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อยื่นขอเปลี่ยนชื่อเป็นเเซลมอน อย่างเป็นทางการ

ต้นเหตุของปรากฏการณ์นี้ เกิดขึ้นจากร้านซูชิเเห่งหนึ่ง ออกโปรโมชันใหม่ เพื่อดึงดูดลูกค้าว่า หากลูกค้าท่านใด นำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงเเล้วในชื่อมีคำว่าว่า ‘Gui Yu’ (鮭魚) ที่หมายถึงแซลมอน จะได้รับสิทธิพิเศษทานซูชิฟรีเเบบไม่อั้น’ แถมยังพาเพื่อนมาทานฟรีได้อีกตั้ง 5 คน

เเม้ตามปกติเเล้ว ไต้หวันจะอนุญาตให้ประชาชนสามารถเปลื่ยนชื่อได้ไม่เกิน 3 ครั้ง เเต่กรณีนี้ ทางการเห็นว่าเป็นการเพิ่มภาระให้เจ้าหน้าที่

Chen Tsung-Yen รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยของไต้หวันให้ความเห็นกับสื่อมวลชนว่า การเปลี่ยนชื่อเพื่อจุดประสงค์เช่นนี้ นอกจากจะทำให้เสียเวลาเเล้ว ยังเป็นการเพิ่มงานเอกสารให้เจ้าหน้าที่โดยไม่จำเป็น’ เขายังขอให้ประชาชนช่วยกันใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และหวังว่าประชาชนจะมีเหตุผลมากขึ้นในเรื่องนี้ด้วย

ด้านสื่อไต้หวัน ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์คนที่ลงทุนไปเปลี่ยนชื่อจริงเพื่อให้ได้กินฟรี โดยนักศึกษาคนหนึ่งบอกว่า เขาเพิ่งไปเปลี่ยนชื่อมาเมื่อเช้า เป็นแซลมอนสุดหล่อเท่ระเบิดจากนั้นก็ได้รับสิทธิ์ทานอาหารฟรีไม่อั้นที่ร้านซูชิดังกล่าว คิดเป็นมูลค่า 7,000 เหรียญไต้หวัน (ราว 7,200 บาท)

ขณะที่วัยรุ่นสาวอีกคน บอกว่า เธอไปเปลี่ยนชื่อพร้อม ๆ กับเพื่อนอีก 2 คน เพื่อเข้าไปกินฟรี และจะกลับไปเปลี่ยนชื่อให้เป็นปกติในภายหลัง

นอกจากนี้ ยังมีคนไปเปลี่ยนชื่อใหม่ โดยมีคำว่าแซลมอนผสมอยู่อีกหลายชื่อ อย่างเช่น เจ้าชายแซลมอน , ราชาดาวตกแซลมอน และข้าวผัดแซลมอน

สำนักข่าว United Daily News รายงานว่า มีชาวไต้หวันคนหนึ่ง เพิ่มตัวอักษรในชื่อตัวเองอีกถึง 36 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวอักษรที่เกี่ยวกับอาหารทะเล เช่น เป๋าฮื้อ ปู ล็อบสเตอร์ เพื่อหวังจะมีโปรโมชันกินฟรีเช่นนี้อีก

Salmon Chaos กลายเป็นการออกโปรโมชันกินฟรีที่ได้รับกระเเสความสนใจอย่างมาก เเต่ก็ลำบากให้เจ้าหน้าที่รัฐเช่นกัน

 

 

ที่มา : AFPTaipeitimes