วิกฤต ‘ชิปขาดตลาด’ ที่สะเทือนหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกในตอนนี้ มีเเนวโน้มจะลุกลามต่อไปในระยะยาว
ล่าสุด TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกจากไต้หวัน ที่มีลูกค้าสำคัญอย่าง Apple ประกาศทุ่มเงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 ล้านล้านบาท) ในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ‘ชิป’ ที่กำลังขาดตลาดอยู่มาก
ในปีนี้ TSMC จะวางแผนจะใช้งบลงทุนราว 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.7 แสนล้านบาท) เพื่อขยายการผลิตและพัฒนา ‘เซมิคอนดักเตอร์’ และชิ้นส่วนไมโครชิป ‘ให้ทันกับความต้องการ’ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ TSMC ยังไม่เปิดเผยว่าจะมีการตั้งโรงงานเเห่งใหม่ที่ใดบ้าง
การที่เซมิคอนดักเตอร์เกิดปัญหาขาดตลาดดังกล่าว ส่งผลต่อการผลิตสินค้าหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน เเละอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
โดยอุตสาหกรรม ‘ยานยนต์’ ถือว่าได้รับผลกระทบมากที่สุด ทั้งเจ้าใหญ่อย่าง Volkswagen, Honda, Toyota และ General Motors ต่างก็ต้องลดจำนวนการผลิตลง
ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์เจ้าใหญ่ ก็ตัดสินใจส่งสินค้าให้กับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ก่อนที่จะผลิตให้กับค่ายรถยนต์
เพราะช่วงวิกฤต COVID-19 การเดินทางที่น้อยลง ทำให้ตลาดรถยนต์ซบเซา เเละความต้องการซื้อรถยนต์ก็ลดลงตามไปด้วย เเต่สินค้า ‘แกดเจ็ต’ เเละเครื่องเล่นเกม กลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะผู้คนต้องอยู่บ้าน ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) หรือออกกำลังกายที่บ้านกันมากขึ้น
TSMC ประเมินว่า ความต้องการของสินค้าเซมิคอนดักเตอร์จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกระเเส ‘megatrends’ ในโลกเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงเเละการมาของ 5G ขณะเดียวกันการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ก็เป็นตัวเร่งให้สังคมเปลี่ยนผ่านไปสู่ ‘ยุคดิจิทัล’ เร็วยิ่งขึ้นในทุกๆ ด้าน
ฝั่ง ‘Intel’ ก็ได้ประกาศว่าจะทุ่มเงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปใหม่ 2 แห่งในสหรัฐฯ และยุโรปเพิ่มอีก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ รวมไปถึงเพื่อแข่งขันให้ได้มากขึ้นในตลาดที่จะมีมูลค่าถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2025
“Intel เป็นและจะยังคงเป็นผู้พัฒนาชั้นนำของเทคโนโลยีผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่และเป็นผู้ให้บริการชั้นของโลก” ‘Pat Gelsinger CEO คนใหม่ของ Intel ระบุ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการผลิตชิปของไต้หวัน โดยรวมมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากอเมริกา ถือเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ เเต่ปัญหาการจัดการน้ำ ไฟฟ้าเเละเเรงงาน ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ต้องจับตาในระยะยาว