Bolt เปิดบริการเรียกรถเฉพาะ “คนขับหญิง” อุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

Bolt เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Bolt Ladies” ให้ผู้โดยสารหญิงเลือกเรียกรถเฉพาะ “คนขับหญิง” ได้โดยไม่เพิ่มค่าใช้จ่าย อุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหลังเมื่อเดือนก่อนมีเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้นกับผู้โดยสารหญิง ทั้งนี้ แอปฯ น้องใหม่จากเอสโตเนียรายนี้ยังมีจุดอ่อนคือการไม่มีระบบตรวจประวัติอาชญากรรมคนขับรถ แต่มีจุดแข็งคือราคาถูกสุดในตลาด 

Bolt บริการเรียกรถโดยสาร เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Bolt Ladies” ให้ผู้โดยสารหญิงสามารถเลือกเรียกรถเฉพาะที่เป็น “คนขับหญิง” เท่านั้นได้ โดยราคาโดยสารจะเท่ากับ Bolt ปกติ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ทั้งนี้ Positioning ตรวจสอบพบว่า Bolt มีตัวเลือกบริการที่ถูกที่สุดเรียกว่าแบบ Economy ซึ่งถูกกว่าปกติ 20-30% ทำให้การเลือก Bolt Ladies จะมีราคาสูงกว่าตัวเลือกถูกที่สุดที่แอปฯ Bolt มีให้เลือก

บริการนี้จะเป็นประโยชน์กับฝั่งคนขับหญิงด้วย เพราะถ้าหากคนขับหญิงพบว่าผู้โดยสารที่เรียกรถผ่านฟีเจอร์ Bolt Ladies เป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงจริงตามที่กรอกประวัติ คนขับสามารถปฏิเสธงานได้โดยไม่เสียค่าปรับ

ตัวอย่างราคาโดยสาร Bolt ประเภทต่างๆ

นอกจากนี้ Bolt ยังนำเสนอฟังก์ชัน ‘Share my ETA’ ในแอปพลิเคชันให้ผู้โดยสารกดคัดลอกลิงก์ส่งไปยังเพื่อนหรือญาติสนิท เพื่อให้บุคคลที่ไว้ใจติดตามการเดินทางของผู้โดยสารได้แบบเรียลไทม์ ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพื่อสร้างความสบายใจให้ผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว

การเปิดฟีเจอร์ Bolt Ladies ครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าเกิดจากแรงกดดันหลังผู้โดยสาร Bolt แจ้งความดำเนินคดีข่มขืนกับคนขับ Bolt ในพื้นที่เมืองพัทยา โดยผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม Positioning ได้สอบถามไปยังบริษัท Bolt ซึ่งระบุว่าบริษัททราบกรณีดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างการสืบสวนพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ และจะไม่อดทนต่อพฤติกรรมของคนขับในกรณีเช่นนี้

เหตุการณ์คดีข่มขืนดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงประมาณวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 และมีผู้ใช้ทวิตเตอร์เล่าเหตุการณ์ในวันที่ 21 มีนาคม 2564 ทำให้เกิดกระแสฮือฮาในอินเทอร์เน็ตว่าบริการ Bolt อาจไม่ปลอดภัย หลายคนแสดงความกังวลและระบุว่าจะเลิกใช้แอปฯ นี้ (อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้จาก BrightTV)

บางส่วนจากข้อความบนทวิตเตอร์ ขณะนี้คดียังไม่สิ้นสุด

Positioning จึงสอบถาม Bolt เพิ่มเติมเพื่อขอทราบขั้นตอนการตรวจสอบคนขับรถ โดยเฉพาะการตรวจประวัติอาชญากรรม ซึ่งบริษัท Bolt ชี้แจงมีการตรวจสอบเอกสารผู้สมัครขับรถ ได้แก่ ใบขับขี่ ข้อมูลทะเบียนรถ และบัตรประชาชน จากนั้นจะมีการอบรมมาตรฐานการขับขี่ โดยไม่ได้แจ้งว่ามีการตรวจประวัติอาชญากรรม

สำหรับ Bolt เข้ามาเปิดตัวในไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ปัจจุบันมีบริการอย่างเป็นทางการ 2 เมืองคือ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และ เชียงใหม่ ชูจุดเด่นราคาถูกกว่าบริการเรียกรถอื่น 20% บางกรณีอาจถูกกว่าแท็กซี่ปกติด้วย รวมถึงระยะแรกยังไม่เก็บค่าคอมมิชชันจากคนขับรถ ขณะที่ระยะต่อไปจะเก็บเพียง 10-20% ซึ่งน้อยกว่าบริการเรียกรถอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม การไม่มีระบบตรวจประวัติอาชญากรรมอาจเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่ไว้วางใจ เมื่อเทียบกับบริการอื่น เช่น Grab ซึ่งจะตรวจประวัติอาชญากรรมย้อนหลัง 7 ปี หากมีคดีร้ายแรงติดตัว เช่น ฆาตกรรม ข่มขืน ปล้นทรัพย์ เมาสุราขณะขับรถ ยาเสพติด ฯลฯ จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ผ่านเกณฑ์ร่วมขับขี่ หรือแท็กซี่ปกติที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกก็จะต้องผ่านการตรวจประวัติอาชญากรรมเช่นกัน

Bolt นั้นเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในเอสโตเนีย ปัจจุบันบริการอยู่ใน 40 ประเทศทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เปิดตัวในยุโรปและแอฟริกา ส่วนทวีปเอเชียนั้นมีบริการในไทย ศรีลังกา คาซัคสถาน อิรัก เลบานอน และซาอุดีอาระเบีย