‘ไบเดน’ ล้างข้อจำกัดรับผู้ลี้ภัยในยุคทรัมป์ ประกาศเพิ่มโควต้าขึ้น 4 เท่าเป็น 62,500 คน ในปีนี้ ตั้งเป้า 1.25 เเสนคนในปีหน้า
หลังจากที่นโยบาย ‘รับผู้ลี้ภัย’ ถูกกีดกันอย่างหนักในสมัยของโดนัลด์ ทรัมป์ เเต่ในสมัยของ ‘โจ ไบเดน’ ประธานาธิบดีสหรัฐคนล่าสุด ก็เริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้นอีกครั้ง
โดยไบเดน ได้ประกาศเพิ่มจำนวนการรับผู้ลี้ภัยเข้าสหรัฐฯ สูงสุดเป็น 62,500 คนต่อปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ตั้งเพดานการรับผู้ลี้ภัยไว้ที่สูงสุดเเค่ 15,000 คนต่อปี น้อยกว่าสมัยของบารัก โอบามาที่เปิดโควต้ารับผู้ลี้ภัยสูงถึง 1.1 แสนคนต่อปี
“นี่จะเป็นการลบล้างการรับผู้ลี้ภัยที่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ 15,000 คน ที่กำหนดโดยคณะบริหารชุดก่อน ซึ่งไม่ได้สะท้อนถึงค่านิยมของอเมริกา ในฐานะชาติที่ยินดีต้อนรับและสนับสนุนผู้ลี้ภัย” ไบเดนระบุ
เป้าหมายนี้ยังมีอุปสรรคหลายประการ ต้องใช้เวลาเเละอาจจะไม่สามารถบรรลุได้ในปีแรก เเต่ไบเดนยืนยันว่า คณะทำงานจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เพื่อแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
โดยจะพยายามใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีอยู่ เพื่อช่วยให้ผู้ลี้ภัยที่ได้รับการตรวจสอบ ให้หนีพ้นจากสภาพเเวดล้อมที่น่ากลัวในบ้านเกิดได้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งเป้าว่าจะสามารถขยายโควต้าการรับผู้ลี้ภัยเพิ่มเป็นได้เป็น 1.25 แสนคนต่อปี ในปีงบประมาณ 2022
ทั้งนี้ ปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งเริ่มมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยเพียง 2,000 กว่าคนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ย้ายถิ่นฐานในอเมริกา
- โปรตุเกสปลดล็อกให้ “ผู้อพยพ” ได้สิทธิเป็นผู้พำนักชั่วคราว เพื่อให้เข้าถึงระบบสาธารณสุข
- อเมริกัน ‘วัยผู้ใหญ่’ ครึ่งประเทศ ฉีดวัคซีนโควิดเเล้ว ท่ามกลางยอดติดเชื้อพุ่งทั่วโลก
โครงการนี้จะเปิดรับผู้ลี้ภัยที่ได้รับการคัดเลือกเเละตรวจสอบ ‘อย่างละเอียด’ จากสำนักงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และหน่วยข่าวกรองจากค่ายขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วโลก
สำหรับแผนงานปัจจุบันภายใต้การนำของโจ ไบเดนนั้น สหรัฐฯ จะรับผู้ลี้ภัยจากแอฟริการาว 22,000 คน จากเอเชียตะวันออก 6,000 คน จากยุโรปและเอเชียกลาง 4,000 คน จากละตินอเมริกาและเเถบแคริบเบียน 5,000 คน และจากเอเชียใต้อีก 13,000 คน นอกจากนี้ ยังมีโซนที่ยังรอการจัดสรรอีกราว 12,500 คน
อย่างไรก็ตาม หลังรับตำเเหน่งมาเกิน 100 วัน ไบเดนมีคะแนนนิยมต่ำสุดจากการสำรวจความคิดเห็นเรื่องการจัดการปัญหา ‘การอพยพ’ โดยเฉพาะปัญหาในชายแดนสหรัฐฯ–เม็กซิโก เเละชาวอเมริกันบางส่วนเห็นว่า การลดจำนวนคนการรับผู้ลี้ภัยในสหรัฐฯ การจัดการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้ รัฐยังต้องจัดการปัญหาการเกลียดกลัวคนต่างชาติเเละเหยียดเชื้อชาติ (xenophobic and racist) ต่างๆ ด้วย
ที่มา : BBC , Reuters , theguardian