การเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์คนเดียว อาจไม่มีพลังพอสำหรับโฆษณายุคนี้ ยามาฮ่า ฟีโน่ จึงต้องใช้พรีเซ็นเตอร์ถึง 9 คน จาก 3 ค่าย ดารา นักร้องวัยรุ่น สังกัดเรียลลิตี้ดัง เอเอฟ-เดอะสตาร์-เคพีเอ็น ที่กำลังอินเทรนด์สุดๆ ออกอากาศสั้นๆ แค่ 7.5 วินาที ออนแอร์บ่อยๆ และเยอะๆ กลายเป็น 3 ส่วนผสมที่ลงตัวในการสร้างพลังให้แคมเปญโฆษณาชุด “We Love Fino” ของยามาฮ่า อาศัยพลังแฟนคลับของศิลปินวัยรุ่น ขยายกลุ่มเป้าหมายของ “ฟีโน่” ให้กว้างขึ้น
นอกจากค่ายน้ำดำอย่าง “เป๊ปซี่” ที่อินเทรนด์กับกลุ่มวัยรุ่น เลือกใช้ดาราวัยรุ่นกำลังได้รับความนิยมมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ จนกลายเป็นแบรนด์ที่บอกถึงดารานักร้องใครกำลังดังได้แล้ว ค่ายมอเตอร์ไซค์ “ยามาฮ่า” ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ต้องทำตลาดวัยรุ่น ด้วยการเลือกดารานักร้องดังที่กำลังอินเทรนด์สุดๆ มาใช้เพื่อให้แบรนด์ครองใจวัยรุ่นอยู่เสมอ
ครั้งนี้ ฟีโน่ของค่ายยามาฮ่า ไม่ได้ใช้พรีเซ็นเตอร์เพียงคนเดียว แต่ทีเดียว 9 คน ซึ่งล้วนแต่เป็น ดารา นักร้องวัยรุ่นคนดังในหมู่วัยรุ่น เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้าง
ทั้ง 9 ศิลปินที่มาบอกเหตุผลที่รักฟีโน่ ยามาฮ่าหวังว่าคงจะมีสักเหตุผลหนึ่งที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายใดกลุ่มหนึ่ง หากพรีเซนต์ยาวๆ ด้วยศิลปินคนเดียวทีวีซีชุด “We love Fino” อาจทำได้แค่ออนแอร์ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
การเป็น First Mover ในตลาดรถจักรยานยนต์ออโตเมติก ดีไซน์สไตล์เรโทร ของยามาฮ่า เมื่อปี 2549 ทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ถูกกระตุ้นให้สดใส และถูกใจกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น และคนทำงานรุ่นใหม่ ที่เป็น Trend Setter จนปี 2551 มีผู้เล่นมากขึ้น ทั้งฮอนด้า ที่ส่ง Scoopy i และซูซูกิ ส่ง เจลาโต้ มาแข่ง ด้วยรูปแบบการทำตลาดที่เดินตามกันมาอย่างกลยุทธ์” พรีเซ็นเตอร์” ที่เมืองไทยถือว่าได้ผลอย่างยิ่งสำหรับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นแบรนด์วัยรุ่น กลยุทธ์การใช้พรีเซ็นเตอร์ของฟีโน่ที่ผ่านมาจึงเป็นศิลปินที่วัยรุ่นกรี๊ดอย่าง “สิงโต เดอะสตาร์” “กอล์ฟ ไมค์” และศิลปินเกาหลี อย่างซูเปอร์จูเนียร์ ตามเซ็กเมนต์หลักที่ฟีโน่เริ่มทำตลาด แม้ ”ฟีโน่” จะมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 เพราะมาก่อน จนแซงหน้าไปไกล แต่ก็ไม่อาจนิ่งเฉย โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งเดินตาม ครั้งนี้จึงหวังให้พรีเซ็นเตอร์ 9 คน ช่วยสร้างจุดต่างออกจากคู่แข่งให้ชัดขึ้น และขยายไปยังกลุ่มเป้าหมายหลากหลายมากขึ้น
“สรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล” ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโฆษณาและส่งเสริมการขาย บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด บอกว่า ในปีแรกๆ ของการเปิดตัวฟีโน่เมื่อปี 2549 เซ็กเมนต์หลักของฟีโน่อยู่ที่กลุ่มวัยรุ่นที่ชอบความแตกต่าง และมีความเป็น Trend Setter แต่ตอนนี้กลุ่มลูกค้าของฟีโน่ได้ขยายวงกว้างขึ้น เป็นรถยอดนิยมสำหรับคนทุกกลุ่ม ทุกวัย และทุกจังหวัด ยามาฮ่าจึงไม่แบ่งเซ็กเมนต์ให้ลูกค้าฟีโน่อีกต่อไปว่าเป็นใครบ้าง
จากทิศทางธุรกิจที่ขยายเซ็กเมนต์วัยรุ่นมาเป็น Mass ทำให้เมื่อถึงเวลาการสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายในแคมเปญนี้ จึงมุ่งแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของลูกค้าฟีโน่ทั้งหมด ที่แต่ละคนมีเหตุผลหลงรักฟีโน่ไม่ซ้ำกัน
“หนังโฆษณาชุดนี้ ตั้งใจทำให้เป็นหนังสั้นมากๆ เพียง 7.5 วินาทีต่อเรื่อง เพื่อจะได้นำเสนอความหลากหลายของคำตอบที่แต่ละคนอยากจะสื่อสารออกมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราก็เชื่อว่า น่าจะมีบางเหตุผลที่ตรงกับใจผู้ชมอยู่เหมือนกัน”
สำหรับการเลือกพรีเซ็นเตอร์ ทั้ง 9 คนของฟีโน่ได้เลือกจากแต่ละคนมีบุคคลิกโดดเด่นต่างกัน จุดหนึ่งที่เหมือนกัน คือมีความเป็นตัวของตัวเองและมีสไตล์ที่แตกต่าง ซึ่งจุดนี้ก็คือจุดที่เป็น Brand Positioning ของยามาฮ่า ที่สร้างความแตกต่างทั้งในตัวสินค้า และในความรู้สึกของลูกค้า ความแรงคือทั้ง 9 เป็น Idol ของคนยุคนี้ เช่น “เก้า จิรายุ” มีความมั่นใจสูงและเป็นมิตร “ณเดชน์” หนุ่มหล่อแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน หรือ ”โตโน่” เดอะสตาร์ ที่มีความสามารถและเสน่ห์
ดาราพาเหรดกันดัง โอกาสแบรนด์เจาะเซ็กเมนต์
แคมเปญนี้ยังสะท้อนถึงการใช้กระแสมาเข้ากับยุทธศาสตร์ของธุรกิจได้อย่างลงตัว เพราะปรากฏการณ์หนึ่งในวงการบันเทิง มีศิลปินเกิดขึ้นจำนวนมาก แต่ใครจะดังจริง มีที่ยืนในสปอตไลต์ ต้องเป็น ”โปรดักต์” บันเทิงที่แตกต่างทั้งบุคคลิกและไลฟ์สไตล์ เพื่อหาแฟนเฉพาะกลุ่มหรือเซ็กเมนต์ชัดเจน จนนึกไม่ออกว่าในช่วงหลังมีใครบ้างที่เกิดขึ้นมาแล้วกลายเป็นซุป’ตาร์ที่ Mass รัก
การแจ้งเกิดของศิลปินยุคนี้ยังมาจากเวทีการแข่งขันทั้งการประกวด และเรียลลิตี้โชว์ ที่ทำให้ศิลปินดังจากความผูกพันของผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นเดอะสตาร์ และเอเอฟ ที่เมื่อเวทีปิดฉากลง ก็ยังมีแฟนคลับขาประจำอยู่ นอกจากนี้ศิลปินหน้าใหม่ ยังมีช่องทางสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ไม่ยากโดยเฉพาะโซเชี่ยลมีเดีย ที่ทำให้แฟนๆ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ต่อเนื่อง
ศิลปินแต่ละคนในยุคนี้จึงมีแฟนเฉพาะกลุ่ม และกลายเป็นตัวสะท้อนหรือตัวแทนของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันไปแล้ว จนรักกันเป็นแฟนคลับ ศิลปินที่ฟีโน่เลือกจึงมีทั้งมาจากค่ายเอเอฟ เวทีประกวดร้องเพลงเคพีเอ็น เดอะสตาร์ สาวหวาน หรือกลุ่มศิลปินเพลงร็อก นี่คือสิ่งที่สินค้าหรือแบรนด์ต้องการเมื่อต้องการเจาะกลุ่มเซ็กเมนต์เฉพาะกลุ่ม แต่สิ่งที่ฟีโน่กำลังไปอย่างชัดเจนคือเก็บเซ็กเมนต์ต่างๆ ไว้ให้ได้จนกลายเป็นการรวบ Mass ไว้ได้ทั้งหมดในที่สุด
- 9 Idol 9 กลุ่มเป้าหมาย “ฟีโน่”
- ณเดชน์ คูกิมิยะ บุคลิกสนุกสนาม ร่าเริง ถ่ายทอด We love Fino ด้วยภาษาท้องถิ่นอีสาน เพราะเป็นคนขอนแก่น
- ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ บุคลิกพูดน้อยแต่โดน
- พลอย หอวัง ตัวแทนของสาวทันสมัย ชอบแฟชั่น
- เก้า จิรายุ วัยรุ่นที่มีความเป็นตัวเองสูง สนุกสนาน
- ซานิ AF6 นักดนตรีสไตล์ร็อก สไตล์การแต่งตัว บุคคลิกเด่นและแรง
- มิน พีชญา วัฒนามนตรี นางเอกสาวหวานน่ารักสดใส
- อาร์ต เคพีเอ็น เป็นคนที่มีไอเดียสร้างสรรค์ในงานศิลปะ
- โตโน่ เดอะสตาร์ มีบุคลิกขี้เล่น กวนๆ หลากหลายอารมณ์ ชื่อพ้องกับฟีโน่
- Slot Machine ศิลปินร็อก ความมุ่งมั่น และตั้งใจ
Credit | |
Advertiser | ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ |
Category | รถจักรยานยนต์ |
Product | ฟีโน่ |
Title | We love FINO |
Length | 7.5 วินาที |
Launching Date | 2 ตุลาคม 2553 |
Advertising Agency | DENTSU (THAILAND) LTD |
Production House | MATCHING STUDIO |
3 ค่ายกับกลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ | |
ค่าย/กิจกรรม ปี 2553 | พรีเซนเตอร์ |
เอ.พี.ฮอนด้า /เปิดตัวรุ่นใหม่ Scoopy i Fun Unlimit | The Richman Toy, Thaitaniumหนูนา นางเอก ”กวน มึน โฮ” และ มาริโอ้ เมาเร่อ |
ไทยซูซูกิมอเตอร์/เปิดตัวรุ่นใหม่ เจลาโต้ 125 | นิชคุณ วง 2PM เกาหลี |
ไทยยามาฮ่า มอเตอร์/แคมเปญ We love Fino | 9 คนตั้งแต่ค่ายเพลง นักแสดง รุ่นใหม่ที่มีบุคลิกเฉพาะตัว |
Timeline พรีเซ็นเตอร์ฟีโน่ | |
ปี | พรีเซ็นเตอร์ |
2549-2550 | เริ่มเปิดตัว ”ฟีโน่” บุกตลาดรถจักรยานยนต์สไตล์เรโทร “กอล์ฟ ไมค์” นักร้องคู่พี่น้องค่ายแกรมมี่เป็นพรีเซ็นเตอร์ |
2551 | “กอล์ฟ ไมค์” และเสริมทัพด้วย ”ซูเปอร์จูเนียร์ จากเกาหลี |
2552 | สิงโต เดอะสตาร์ หลังจากฮอนด้าและซูซูกิเริ่มเข้ามาแข่งขัน |
2553 | 9 ศิลปินรุ่นใหม่ |