OR ไฟเขียวต่อสัญญาร้านสะดวกซื้อ ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ ในปั๊มน้ำมัน PTT Station อีก 10 ปี

เป็นไปตามคาด บอร์ด OR ต่อสัญญาร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น’ (7-Eleven) ในปั๊มน้ำมัน PTT Station อีก 10 ปี

บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ได้ต่อสัญญาหลักความร่วมมือการดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมันเครือข่ายของ OR กับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เพื่อดำเนินการร้านค้า 7-Eleven (ในประเทศไทย)

โดยครั้งนี้เป็นการต่ออายุสัญญาจากสัญญาเดิม ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 10 ปี เพื่อให้การดำเนินงานในส่วนของธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ 7-Eleven ในสถานีบริการน้ำมันเครือข่ายของ OR มีความต่อเนื่องและสอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจของ OR ทั้งนี้จะมีการเข้าทำสัญญาตามที่ได้ตกลงกับคู่สัญญาต่อไป

เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา OR เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2564 ระบุว่า มีกำไรสุทธิ 4,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,079 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36.9% จากไตรมาสก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.38 บาท สูงกว่าไตรมาสก่อน 0.06 บาท หรือเพิ่มขึ้น 18.8%

สำหรับผลการดำเนินงานของ OR ไตรมาสที่ 1 ปี 2564 มีรายได้ขายและบริการ 118,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,964 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.2% จากไตรมาสก่อน

โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มธุรกิจน้ำมัน ซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์น้ำมัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก สอดคล้องกับรายได้กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้น

ส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจ Non-Oil นั้นในไตรมาสที่ผ่านมา มีรายได้รวม 4,086 ล้านบาท ลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ระลอกใหม่ ส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคลดลง

ทั้งนี้ OR มีร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Eleven และภายใต้แบรนด์ Jiffy รวม 1,995 สาขา ทั้งในประเทศไทยและสปป.ลาว

ด้านผลประกอบการของ CPALL ในไตรมาส 1 ปี 2564 นั้น เเม้ไม่ได้หยุดให้บริการร้านสะดวกซื้อ ‘เซเว่น อีเลฟเว่นเเต่ก็มีรายได้และกำไรลดลง

โดยมีรายได้รวม 133,431 ล้านบาท ลดลง 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,599 ล้านบาท หรือ 0.26 บาทต่อหุ้น ลดลง 53.95% จากไตรมาส 1 ของปี 2563 ที่มีกำไร 5,645 ล้านบาท หรือ 0.60 บาทต่อหุ้น

เมื่อเจาะลงไปใน ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ ในไตรมาส 1/64 มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ รวม 70,450 ล้านบาท ลดลง 15% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 947 ล้านบาท ลดลงถึง 75.4%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

จำนวนลูกค้าลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ย 845 คนต่อวัน และมียอดใช้จ่ายต่อบิลประมาณ 77 บาท ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อร้านต่อวันอยู่ที่ 65,024 บาท และยอดขายเฉลี่ยของร้านสาขาเดิมลดลง 17.1%