FoodStory รับเงินลงทุน Series B รุกคืบวงการ “ร้านอาหาร” จากระบบ POS สู่การจัดส่งวัตถุดิบ

สตาร์ทอัพไทย “ลีฟวิ่ง โมบาย” เจ้าของระบบ FoodStory ประกาศระดมทุนรอบ Series B ได้สองผู้ลงทุนรายใหม่ “บีคอน VC” ในเครือกสิกรไทย และ “JWD” บริษัทโลจิสติกส์ โดยระบบของ FoodStory เป็นระบบบริหาร POS และข้อมูลหลังบ้านของธุรกิจ “ร้านอาหาร” จากการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทได้ขยายระบบนิเวศสู่บริการสั่งซื้อวัตถุดิบอาหารเข้าร้าน

บริษัท ลีฟวิ่ง โมบาย จำกัด เจ้าของระบบ FoodStory ประกาศรับเงินลงทุนรอบ Series B จาก บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) ในเครือกสิกรไทย และ บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD)

โดย FoodStory เริ่มก่อตั้งในปี 2555 เป็นผู้พัฒนาระบบ POS บน iPad หรือแท็บเล็ต ช่วยให้การรับออเดอร์และชำระเงินที่ร้านอาหารสะดวกขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์แบบเก่า และพนักงานร้านสามารถเข้าใจระบบได้ง่าย บริษัทค่อยๆ เติบโตจนปัจจุบันมีฐานลูกค้า 30,000 รายใน 11 ประเทศ และจากการระดมทุนรอบ Series A มี บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด (ไลน์แมนวงใน) ร่วมลงทุนด้วยเม็ดเงินประมาณ 30 ล้านบาท เมื่อปี 2561

บริการหลักของ FoodStory จึงเป็นระบบ POS มีทั้งแบบ “ทานก่อนจ่าย” และ “จ่ายก่อนทาน” และเชื่อมโยงไปถึงบริหารบุคลากรในร้าน ทำให้ตัวระบบเป็นเหมือน “ผู้เก็บดาต้า” ของร้าน สามารถหาอินไซต์ของแต่ละร้านได้แบบเชิงลึก เช่น เมนูใดที่ขายดีที่สุดและมีต้นทุนถูก เมนูใดที่ลูกค้านิยมสั่งคู่กัน เพื่อทำให้ร้านจัดโปรโมชัน ทำการตลาด หรือบริหารได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังขยายบริการใหม่เป็น FoodStory Market คือเป็นตัวกลางรับสั่งออเดอร์และจัดส่งวัตถุดิบให้ที่ร้าน โดยชูเรื่องความรวดเร็วในการส่ง สั่งภายใน 22.00 น. ได้รับสินค้าภายใน 8.00 น. ของวันรุ่งขึ้น การเป็นตัวกลางเรื่องรับสั่งซื้อวัตถุดิบจะทำให้ FoodStory เข้าไปอยู่ในระบบนิเวศของร้านอาหารมากยิ่งขึ้น

“ฐากูร ชาติสุทธิผล” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีฟวิ่ง โมบาย จำกัด เปิดเผยว่า การรับเงินลงทุนและเป็นพันธมิตรกับทั้งสองบริษัทครั้งนี้ จะทำให้ FoodStory ยิ่งพัฒนาทั้งส่วนบริการเดิมและบริการใหม่ให้สมบูรณ์ขึ้น

บีคอนจะมาเติมเต็มเรื่องบริการทางการเงิน การชำระเงินออนไลน์ที่จบได้ที่โต๊ะสำคัญมาก เราจะมีโปรดักต์ให้ลูกค้าสามารถสั่งและจ่ายเองที่โต๊ะได้เลย หรือพนักงานสามารถนำเครื่องไปให้จ่ายที่โต๊ะแล้วส่งใบเสร็จเข้าอีเมลลูกค้าก็ได้” ฐากูรกล่าว โดยขยายความว่าการรับชำระเงินยิ่งเร็วก็จะยิ่งทำให้โต๊ะนั้นว่างเร็วขึ้น มีการหมุนเวียนลูกค้าเข้าร้านในแต่ละวันได้มากขึ้น

“ส่วนทาง JWD นั้นทำ Cold Chain Logistics อยู่แล้ว ถ้าไม่มีเขาเราคงทำได้ยากมาก เพราะเราต้องการให้สั่งคืนนี้ได้ของพรุ่งนี้เช้า แปลว่าต้องจัดการประสิทธิภาพสูงสุด และร้านหนึ่งสั่งหลากหลาย SKUs อาจจะมีของ 10-20 อย่าง ถ้าไม่มีระบบที่ดีก็จะส่งตกหล่น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับร้านอาหาร” ฐากูรกล่าว

 

รับสั่งซื้อและส่งวัตถุดิบ หวังลดต้นทุนให้ร้านอาหาร

มุมมองของ FoodStory ในการก้าวสู่ระบบสั่งซื้อและส่งวัตถุดิบ มาจากการทำระบบ POS และเห็น pain point ของร้านอาหารว่า การสั่งซื้อวัตถุดิบยังทำเป็นระบบแมนนวลอยู่ บางร้านอาจไปตลาดเอง หรือถ้าเป็นการสั่งซื้อหลายร้านก็ยังพิมพ์คำสั่งใหม่ ส่งออเดอร์ใหม่ แม้แต่การส่งแฟกซ์บางร้านก็ยังทำอยู่

ทำให้บริษัทมองว่าระบบส่วนนี้ควรจะพัฒนาได้ ควรมีการสั่งซื้อที่ง่ายขึ้น เร็วขึ้น สามารถสั่งอัตโนมัติได้ และไว้ใจได้ว่าจะเป็นสินค้าคุณภาพดีที่มาส่งถึงร้าน ทั้งหมดมีเป้าหมายให้ร้านลดต้นทุน ไม่ต้องตุนวัตถุดิบไว้จนอาจจะเน่าเสียถ้าสั่งมาเกินพอดี และเจ้าของร้านได้มีเวลาเพิ่มในการคิดพัฒนาธุรกิจส่วนอื่น

ปัจจุบันบริษัทมีซัพพลายเออร์ร่วมงานกว่า 20 รายและยังคงเปิดรับเจ้าใหม่เพิ่ม แต่ซัพพลายเออร์ที่เข้ามาต้องยอมรับการปรับตัวทางเทคโนโลยีให้เข้ากับระบบของบริษัท และสามารถที่จะรับ Last Order เวลา 4 ทุ่ม เตรียมของให้ทันส่งตี 5 – 7 โมงเช้าได้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะหาซัพพลายเออร์ได้เหมาะสม

 

JWD บุกน่านน้ำใหม่

ด้าน “ธเนศ พิริย์โยธินกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการค้า พัฒนาธุรกิจ และการลงทุน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD อธิบายถึงธุรกิจของบริษัทว่าอยู่ในวงการมากว่า 20 ปี แต่ธุรกิจส่วนใหญ่จะเน้นในเชิง B2B คือการขนส่งส่วน Upstream ส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ผลิต ศูนย์กระจายสินค้า และรีเทล แต่การทำธุรกิจฝั่ง Downstream ซึ่งเป็นการขนส่งไปสู่ร้านค้าย่อยอย่างร้านอาหาร หรือเป็นกลุ่ม B2C นั้นเพิ่งเริ่มขึ้นไม่นาน และมองว่าการเป็นพันธมิตรกับ FoodStory จะทำให้บริษัทเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้ดีขึ้น

(จากซ้าย) “ธนพงษ์ ณ ระนอง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC), ฐากูร ชาติสุทธิผล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีฟวิ่ง โมบาย จำกัด และ “ธเนศ พิริย์โยธินกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการค้า พัฒนาธุรกิจ และการลงทุน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD

มุมมองของ JWD มองว่าร้านอาหารจะได้ประโยชน์จากการสั่งซื้อในระบบนี้ เพราะที่จริงแล้วร้านค้ามักจะสั่งวัตถุดิบ SKU เดียวกัน แต่ที่ผ่านมาแต่ละร้านต่างแยกกันเดินทางไปซื้อของที่ตลาด หากมีรถขนส่งมาให้ก็จะเป็นเหมือนการ ‘share cost’ หารต้นทุนกันไปกับร้านอื่นๆ

ธเนศระบุว่า บริษัทวางเป้าสำหรับธุรกิจฝั่ง Downstream ไว้ 100 ล้านบาทในปี 2564 และคาดว่าจะโตดับเบิลดิจิตทุกปี ทั้งนี้ เมื่อปี 2563 บริษัท JWD มีรายได้ 3,922 ล้านบาท และทำกำไร 290 ล้านบาท

 

“กสิกรไทย” ได้ฐานและข้อมูลลูกค้าเพิ่ม

ปิดท้ายที่ “ธนพงษ์ ณ ระนอง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) เปิดเผยว่า กสิกรไทยทำงานร่วมกับ FoodStory มานานประมาณ 5 ปี ทำให้ทราบการพัฒนามาโดยตลอด และการร่วมลงทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทได้ฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

“บีคอนจะลงทุนในรูปแบบที่แตกต่างจากคนอื่น เราไม่ค่อยเน้นลงทุนเทคโนโลยีสมัยใหม่มาก แต่เน้นเรื่องระบบนิเวศใหม่ที่ทำให้ธนาคารได้ดูแลลูกค้าเพิ่มหรือลึกขึ้น อย่าง FoodStory ก็จะทำให้ลูกค้าร้านอาหารรายเล็กมีข้อมูลขึ้นมาแล้วธนาคารก็จะเข้าถึงข้อมูลได้ ดูแลเขาได้” ธนพงษ์กล่าว โดยบริษัทนี้เป็นสตาร์ทอัพแห่งที่ 13 แล้วที่บีคอนร่วมลงทุน

ธุรกิจร้านอาหารในไทยนั้น FoodStory ประเมินว่ามีประมาณ 4-5 แสนแห่งในไทย การเข้าถึงร้านค้า 30,000 แห่งของบริษัทจึงถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ยังไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ บริษัทนี้จึงยังมีโอกาสที่จะแนะนำจุดเด่นของระบบเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้น