จอห์น แมคอาฟี ผู้ก่อตั้งโปรแกรมไวรัสดัง McAfee ฆ่าตัวตายในคุกสเปน หลังศาลสเปนตัดสินให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปสหรัฐฯ เพื่อรับโทษคดีหนีภาษี ประวัติชีวิตแมคอาฟีหลังขายบริษัทที่ก่อตั้งช่วงทศวรรษ 1990s โชกโชนไปด้วยคดีความผิดทางการเงิน ปืน ยาเสพติด ฯลฯ เขาเคยถูกจับรวม 21 ครั้งใน 11 ประเทศ
เมื่อวันพุธที่ 23 มิถุนายน 2021 รายงานข่าวสเปนหลายแหล่งเปิดเผยว่า “จอห์น แมคอาฟี” ผู้ก่อตั้งบริษัทโปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ McAfee วัย 75 ปี เสียชีวิตภายในเรือนจำเมืองบาร์เซโลนา โดยเห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำอัตวินิบาตกรรม
เขาเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากศาลสเปนตัดสินให้ส่งตัวเขาเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับสหรัฐฯ เพื่อไปรับโทษเกี่ยวกับคดีหนีภาษีซึ่งเขาอาจจะถูกตัดสินด้วยบทลงโทษสูงสุดคือจำคุก 30 ปี
กระทรวงยุติธรรมคาตาลันเปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่าความตายของแมคอาฟีเกิดจากการฆ่าตัวตาย และสำนักข่าว AP มีแหล่งข่าววงในระบุว่า หน่วยงานรักษาความปลอดภัยพยายามที่จะกู้ชีพแมคอาฟีกลับมาแต่ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การตายของแมคอาฟียังถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
แม้ว่าเขาจะมีสิทธิอุทธรณ์คำตัดสินให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน “ฮาเวียร์ บิลญาบา” ทนายความของแมคอาฟีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่า แมคอาฟีไม่สามารถอดทนกับการถูกจำคุกในสเปนได้อีกแล้ว
ชายผู้มีคดีทั่วโลก
แมคอาฟีถูกจับที่บาร์เซโลนาเมื่อเดือนตุลาคม 2020 ด้วยคดีหลบเลี่ยงภาษีที่ศาลรัฐเทนเนสซี สหรัฐฯ เขาถูกจำคุกในสเปนไว้ก่อนระหว่างรอการตัดสินเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยเขาพยายามต่อสู้กับการตัดสินใจส่งตัวกลับสหรัฐฯ ด้วยการอ้างว่าปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลมาจากอิทธิพลทางการเมือง
ประวัติชีวิตของแมคอาฟีนั้นโชกโชนไปด้วยคดีความ ย้อนกลับไปยุคทศวรรษ 1990s เขาเป็นยักษ์ใหญ่ในโลกเทคโนโลยีจากก่อตั้ง McAfee บริษัทโปรแกรมป้องกันไวรัส จากนั้นเขาได้ขายหุ้นที่มีในบริษัทจนหมด คิดเป็นมูลค่าราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,100 ล้านบาท)
ต่อมาการขายหุ้นเหล่านี้ถูกฟ้องร้องโดยศาลแห่งรัฐเทนเนสซีในข้อหาหลบเลี่ยงภาษี รวมถึงยังถูกฟ้องเรื่องหนีภาษีจากรายได้การโปรโมตสกุลเงินคริปโต และการขายสิทธิทำสารคดีเกี่ยวกับชีวิตของเขา
คดีภาษีเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการทำผิดกฎหมายของแมคอาฟี (ตัวเขาเองมักจะอวดอ้างบน Twitter บ่อยครั้งเรื่องที่ไม่ได้จ่ายภาษี และยกย่องสกุลเงินคริปโตว่าเป็นหนทางป้องกันไม่ให้รัฐบาลเก็บภาษีใครได้) หลังจากนั้นเขาเดินทางไปรอบโลกหลายทศวรรษและไปเกี่ยวข้องกับคดีมากมายทั้งคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์และฟอกเงิน โดยเขาใช้บัญชี Twitter ตัวเองหลอกลวงนักลงทุนไปได้หลายล้านเหรียญ
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมเพื่อนบ้านในประเทศเบลิซ (อยู่ในทวีปอเมริกากลาง) เมื่อปี 2008 แม้จะไม่เคยถูกจับกุมก็ตาม The Washington Post รายงานว่าตัวแมคอาฟีเคยนับคดีของตัวเองไว้ว่า ตนเคยถูกจับถึง 21 ครั้งใน 11 ประเทศ เกี่ยวกับพันกับคดีความรุนแรงจากอาวุธปืน ค้ายาเสพติด ฯลฯ
ทั้งที่มีคดียาวเป็นหางว่าว แต่เขาเคยมีแคมเปญสั้นๆ หวังจะขอสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 และอีกครั้งเมื่อปี 2020
After reports of John McAfee’s death, his social media team just posted a “Q” to his Instagram account.
McAfee has alleged a ton of global conspiracies against him in the past, and done plenty of media stunts.
It was announced today he would be extradited back to the U.S. pic.twitter.com/oUBZiFPRZa
— Ben Collins (@oneunderscore__) June 23, 2021
แม้จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่บัญชี Instagram ของแมคอาฟียังเคลื่อนไหว โดยล่าสุดทีมโซเชียลมีเดียของแมคอาฟีใช้บัญชีเขาโพสต์ภาพตัว “Q” ขนาดใหญ่สีดำบนพื้นหลังสีขาว ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นสัญลักษณ์หมายถึง “QAnon” (คิวอะนอน) ทฤษฎีสมคบคิดของฝ่ายขวาจัด ความเชื่อของกลุ่มนี้คือมองว่าสหรัฐฯ มีลักษณะของ “รัฐซ้อนรัฐ” (deep state) โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ พรรคเดโมแครต และเซเลบคนดังต่างรวมหัวกันสร้างภาพว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” และกลุ่มผู้ติดตามเกี่ยวพันกับการค้าโสเภณีระดับนานาชาติ ซึ่งแมคอาฟีแสดงออกว่าเชื่อในทฤษฎีรัฐซ้อนรัฐนี้ (ขณะนี้บัญชี Instagram ของเขาถูกปิดไปแล้ว)
แน่นอนว่าความตายของแมคอาฟีทำให้หลายๆ คนมีทฤษฎีสมคบคิดใหม่ขึ้นมาว่า เขาไม่ได้ฆ่าตัวตายแต่ถูกฆาตกรรม เช่นเดียวกับ “เจฟฟรีย์ เอปสตีน” อาชญากรคดีอาชญากรรมทางเพศที่ฆ่าตัวตายในคุกไปก่อนหน้านี้