“ห้างเซ็นทรัล” อิมพอร์ต “Augustinus Bader” จากเยอรมนี เติมพอร์ตบิวตี้แบรนด์แรก!

ตลาดบิวตี้ยังเติบโตท่ามกลางวิกฤต ห้างเซ็นทรัลมองเห็นโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงสบโอกาสนำเข้าแบรนด์ “Augustinus Bader” สกินแคร์จากเยอรมนี เติมพอร์ตบิวตี้เป็นแบรนด์แรกในเครือ

รู้จัก Augustinus Bader

Augustinus Bader (ออกัสตินัส บาเดอร์) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับเพรสทีจจากประเทศเยอรมนี ซึ่งความพิเศษของแบรนด์นี้อยู่ที่ต้นกำเนิดของการคิดค้นผลิตภัณฑ์ขึ้นมาจากผลงานการวิจัยด้านสเต็มเซลล์กว่า 30 ปีของ ดร.ออกัสตินัส บาเดอร์ ที่ได้คิดค้นเทคโนโลยีความงามอัจฉริยะเพื่อกระตุ้นการสร้างใหม่ของเซลล์ผิวหนัง และแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพ

กลุ่มสินค้าจะมีตั้งแต่บำรุงผวหน้า บำรุงผิวกาย บำรุงมือ มีราคาตั้งแต่ 1,200-8,800 บาท

การันตีผลลัพธ์ด้วยรางวัลผลิตภัณฑ์อันดับ 1 จากนิตยสารชั้นนำทั่วโลกกว่า 40 รางวัล ภายใน 37 เดือน และกระแสตอบรับจากผู้มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิคตอเรีย เบคแฮม, เดมี มัวร์, ไดแอน ครูเกอร์ และอีกมากมาย มียอดขายทั่วโลกที่เติบโตขึ้นถึง 3 เท่า หรือกว่า 70 ล้านดอลลาร์ในช่วงปีที่แล้ว

ทำไมห้างเซ็นทรัลต้องนำเข้ามา?

ก่อนจะกล่าวถึงแบรนด์นี้ ต้องเกริ่นไปถึงก่อนหน้านี้กลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ได้เปิดตัว KIS BEAUTY STORE” (คิส บิวตี้ สโตร์) เป็นมัลติแบรนด์สโตร์เมื่อเดือนกันยายน 2562 ปัจจุบันมีทั้งหมด 12 สาขา 

ในตอนนั้นเซ็นทรัล รีเทลมองเห็นเทรนด์การเติบโตของตลาดบิวตี้ ความสวยความงามที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เติบโตขึ้นทุกปี และปัจจุบันผู้บริโภคก็ดูแลตัวเองมากขึ้น ไม่จัดกัดแค่สาวๆ แต่ผู้ชายก็ดูแลตัวเองให้ดูดีตลอด และยังดูแลตัวเองเร็วขึ้น วัยรุ่นก็มองหาสกินแคร์ เครื่องสำอางกันแล้ว

โดยปกติทางห้างเซ็นทรัล เป็นอีกหนึ่งหน่วยธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทลจะมีแผนก “Beauty Galerie” (บิวตี้ แกเลอรี) อยู่แล้ว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแผนกที่สร้างรายได้สูง และแข็งแกร่งมาก แผนกนี้จะประกอบไปด้วยเคาท์เตอร์แบรนด์ชื่อดังต่างๆ จากต่างประเทศ

ลูกค้ากลุ่มนี้จะมีลอยัลตี้สูง เพราะมั่นใจว่าซื้อของแท้จากเคาท์เตอร์ ทางเซ็นทรัล รีเทลเคยเปิดเผยข้อมูลว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของแผนกนี้เป็นกลุ่มอายุ 30-45 ปี และ 45 ปีขึ้นไป มียอดการใช้จ่ายเฉลี่ย 4,000 บาท/บิล

ทางเซ็นทรัล รีเทลเองก็มีข้อมูลการจับจ่ายของลูกค้าอยู่เสมอ มองเห็นว่าตลาดบิวตี้แข็งแกร่งมาก จึงได้เปิดตัวร้าน KIS BEAUTY STORE วางจุดยืนเป็นมัลติแบรนด์สโตร์ เรียกว่าท้าชนกับร้านบิวตี้สโตร์อื่นๆ อย่างจัง

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดมัลติแบรนด์สโตร์มีการเติบโตอย่างมาก มีเจ้าใหญ่ๆ ที่แข็งแกร่ง และเจ้าใหม่เข้ามาต่อเนื่อง ได้แก่ Eveandboy, Beautium, SEPHORA และ HEJ Street Beauty รวมไปถึงร้าน Health & Beauty Store อย่าง Watsons, Tsuruha, Matsumoto Kiyoshi และ Boots อีกด้วย

ข้อดีของการมีร้านมัลติสโตร์เป็นของตัวเอง สามารถเลือกแบรนด์ที่มีศักยภาพสูงเข้ามาไว้ในร้าน รวมถึงปรับตามพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ ร้านนี้จับกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 18-30 ปี เรียกว่าขยายฐานลูกค้าจากแผนกบิวตี้เดิม

เมื่อมีร้านเป็นของตัวเองแล้ว ห้างเซ็นทรัลก็เดินหน้าเติมพอร์ตบิวตี้ของตัวเองมากขึ้น ล่าสุดได้นำเข้าแบรนด์ Augustinus Bader ถือว่าเป็นแบรนด์บิวตี้แบรนด์แรกในเครือของห้างเซ็นทรัล ด้วยเหตุผลที่ใกล้เคียงกับกับตอนเปิดร้าน KIS BEAUTY STORE นั่นเอง แต่เปิดเป็นช้อปในแผนกบิวตี้ ไม่ได้ขายในร้าน KIS

ทางเซ็นทรัลเองมีช่องทางการขาย ยิ่งตอนนี้มีหลายหลายช่องทางเป็นออมนิชาแนล เมื่อมีแบรนด์ในเครือเป็นของตัวเอง ย่อมมีรายได้ที่มากขึ้น

ประเดิมห้างเซ็นทรัลชิดลมแห่งแรก

Augustinus Bader ได้เปิดตัวช้อปอย่างเป็นทางการที่ห้างเซ็นทรัลชิดลมเป็นสาขาแรกในไทย สามารถซื้อผ่านทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ มีการตั้งเป้าว่าขึ้นขึ้นแท่นท็อป 10 แบรนด์ยอดนิยมให้ได้ ที่สำคัญคือห้างเซ็นทรัลเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยอีกด้วย

นันทวัลย์ เหล่าสินชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายบริหารสินค้า บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า

“ห้างเซ็นทรัลไม่เคยหยุดนิ่งในการเลือกเฟ้นสินค้าระดับโลกที่มีคุณภาพมาให้ลูกค้าได้เลือกช้อปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในแผนกเครื่องสำอางและความงาม ลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายภายในห้างเซ็นทรัลจะได้พบกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งจากแบรนด์ที่มีอยู่แล้ว และแบรนด์ที่คัดสรรมาใหม่อย่างต่อเนื่อง เพราะเราเล็งเห็นศักยภาพของการขยายตลาดเครื่องสำอางค์ที่ยังเติบโตได้อีก และวันนี้ห้างเซ็นทรัลพร้อมที่จะแนะนำ Augustinus Bader แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณภาพจากประเทศเยอรมนีให้ลูกค้าได้รู้จักกัน”

ห้างเซ็นทรัล ได้เริ่มจำหน่าย Augustinus Bader ที่แผนก Beauty Galerie ชั้น 1 สาขาชิดลม เป็นแห่งแรก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และยังมีแผนที่จะขยายไปในสาขาหลักอย่าง ลาดพร้าว และปิ่นเกล้า ภายในปีนี้