ยุคนี้ความสวยต้องด่วนถึงระดับไฮสปีด เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ไม่รีรอ มีความอดทนต่ำ เมื่อจ่ายเงินไปแล้วต้องการเห็นผลในทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้บริการ ไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่กลับมาใช้บริการซ้ำ หรือไม่เกิดการบอกต่อในทางบวก ที่สุดแล้วอาจทำให้เกิดผลลบกับคลินิกความงามที่ไม่แสดงประสิทธิภาพและประสิทธิผลในระยะเวลาที่พวกเขาพึงพอใจ ฉะนั้นโอกาสของคลินิกความงามจึงมีไม่มากนักที่จะพิสูจน์ตัวเอง
จะเห็นว่าก๊อบปี้ของคลินิกความงามในยุคนี้จะเน้นพิชิตใจผู้บริโภคด้วยระยะเวลา ด้วยความเร็ว อีกทั้งให้ความหวังกับผู้บริโภคว่าจะต้องสวย จะต้องหายจากอาการผิวหนังไม่พึงประสงค์ทั้งหลาย เช่น
วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก – เพราะความสวยรอไม่ได้
นิติพล คลินิก – ทุกความสวยเป็นไปได้
แพน คลินิก – สวยทันตา แก้ปัญหาทันใจ
นอกจากนี้สำหรับบางแบรนด์ที่มีความมั่นใจในความเชี่ยวชาญของแพทย์และตัวยาของตัวเองก็จะสื่อสารชัดเจนในเรื่องนั้น เช่น
พรเกษมคลินิก – ดูแลทุกปัญหาผิว ตั้งแต่สิวเม็ดแรก โดยแพทย์ผิวหนัง
รมย์รวินท์ – Innovative you can trust
เอเพ็กซ์ – The Result you can feel
นอกจากนี้กระแส “สวยด่วน” จะกระทบกับคลินิกความงามด้วยกันเองแล้ว ตลาดความงามอื่นๆ เช่น เครื่องสำอางประเภทต่างๆ ที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์ยาวนานกว่า ต้องออกโรงโฆษณาถึงประสิทธิภาพว่าสวยได้ภายใน 7-14 วัน และล่าสุด อาร์ทิสทรี อินเทนซีฟ ลดเวลากระชั้นลงมาเหลือเพียง 8 นาทีก็เห็นผลจากการใช้งาน
รวมถึงการใช้ Advertorial ที่มีแพทย์ผิวหนังมาการันตีถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือขึ้นอีกระดับ เช่น พอนด์ส โกลด์ เรเดียนซ์ ใช้ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน มาอธิบายถึงคุณค่าของทองคำต่อการปรนนิบัติผิว เป็นต้น
จากกระแสคลินิกความงามแรงกลบ ถล่มทุกเซ็กเมนต์ ทำให้ทั้งเครื่องสำอางระดับแมส เวชสำอาง และเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ อยู่เฉยไม่ได้ เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อในระดับเดียวกัน ต่างปรับตัวกันยกใหญ่ในเรื่องช่องทางจำหน่าย โดยเข้าไปตั้งบูธอยู่ในคลินิกหรือเปิดช็อปในโรงพยาบาลกันมากขึ้น เช่น คลินิกข์จากค่ายเอลก้าไปเปิดช้อปในพื้นที่ของโรงพยาบาลสมิตติเวช สุขุมวิท เป็นต้น