วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก คลินิกความงามเกรด C ถึง C+ ผู้จุดกระแสคลินิกความงามให้บูมอย่างเห็นได้เด่นชัดในช่วง 1-2 ปีมานี้ ทั้งโปรโมชั่นราคา “สวยด่วน” ไม่ถึงร้อยก็สวยได้ และยังใช้กระแส โคเรีย เทรนด์ และดารามาร์เก็ตติ้ง สร้างตลาดแมสอย่างเห็นผล
ขณะที่ภาพลักษณ์ของวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ถูกผูกติดกับดารา เป็นอย่างมากทั้งการใช้ดาราเกาหลี และไทยเป็นพรีเซ็นเตอร์ รวมถึงการจัดอีเวนต์แต่ละครั้งก็คับคั่งไปด้วยข้อเสนอราคาหลากหลาย ทั้งยังโฆษณาอย่างแจ่มแจ้งว่า เป็นคลินิกความงามอันดับ 1 ที่ดาราใช้บริการมากที่สุด ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ภาพลักษณ์ของคลินิกแห่งนี้จะไม่เด่นชัดในเรื่องความเชี่ยวชาญของแพทย์เมื่อเทียบกับคลินิกความงามอื่น
จากแพทย์ผิวหนังที่ประจำอยู่ในนิติพล คลินิกมาหลายปี จนเมื่อเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา นพ.วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช ได้แยกตัวออกมาเป็นคู่แข่งกับนิติพลคลินิกโดยตรง และโตเร็วกว่า ด้วยการเร่งขยายสาขา และโปรโมตแบรนด์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปี 2552 ที่กระบวนการทำตลาดแบบ 360 องศาของวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก สร้างแรงเขย่าตลาดจนทำให้ไม่ว่าจะเป็นนิติพล คลินิก พรเกษม คลินิก หรือแม้แต่แบรนด์ระดับบนๆ ต่างต้องปรับตัวก่อนที่ส่วนแบ่งตลาดจะหดหายไป
ก่อนหน้านี้วุฒิ-ศักดิ์ คลินิกไม่ได้มีเพียงโจทย์เดียวที่ต้องขบคิดและหาทางแก้ไขเหมือนคลินิกอีกหลายแบรนด์ที่มีจุดกำเนิดคล้ายคลึงกัน คือความเป็นคลินิกผิวหนังห้องแถวที่มีภาพลักษณ์บ้านๆ เท่านั้น แต่ปี 2550 วุฒิ-ศักดิ์ คลินิกต้องเจอกับสถานการณ์แบรนด์เสียหาย เพราะข่าวที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) บุกจับวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก กรณีที่รักษาผิวพรรณด้วยการนำสารกลูตาไธโอน (Glutathion) ซึ่งเป็นสารที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนยาในไทยมาบริการฉีดให้ลูกค้า พร้อมโฆษณาชวนเชื่อว่าจะช่วยให้ผิวขาวเรืองแสงเหมือนดารา แม้กระแสจะเงียบหายลงแต่ชื่อเสียคราวนั้นก็ยังเป็นที่จดจำอยู่
วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ตามกระแสผู้บริโภคยุคใหม่ที่ความสวยคือความจำเป็น และรอไม่ได้ “วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก” จึงลงทุนสร้างแบรนด์อย่างหนักในปี 2552 และผุดคอนเซ็ปต์กระชาก Consumer Insight ที่ว่า “เพราะความสวย…รอไม่ได้” และตอกย้ำโปรโมชั่น “เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก” เพื่อตอบสนองความต้องการ “สวยด่วน” ดังกล่าว จนทำให้แบรนด์อื่นต้องเน้นจุดขายอื่นแทน อย่างเช่นพรเกษม คลินิก หันไปเน้นเรื่องสิวกับวัยรุ่น ส่วนนิติพลคลินิกเน้นความน่าเชื่อ และการแก้ไขทุกข้อบกพร่อง
จากคลินิกห้องแถวกลายเป็นคลินิกความงามขึ้นห้าง การขยายสาขาของวุฒิ-ศักดิ์ สู่ศูนย์การค้าโดยเฉพาะเทสโก้ โลตัส เป็นเหมือนสปริงบอร์ด ที่ทำให้วุฒิ-ศักดิ์ คลินิกมี Brand Visibility lสูงและเกิด Brand Awareness มากขึ้น กอปรกับราคาที่เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มแมส ดังนั้นกลยุทธ์เปิดสาขาของวุฒิ-ศักดิ์ จะเน้นอยู่ในย่านชุมชนหนาแน่นที่มีหอพักนักศึกษา อพาร์ตเมนต์จำนวนมาก เช่น ย่านมหาวิทยาลัย ตลาดสด โมเดิร์นเทรดและศูนย์การค้า จนปัจจุบันแบรนด์ที่มีอายุเพียง 8 ปีนี้ มีสาขามากที่สุดถึง 97 สาขา มากกว่า QSR (Quick Service Restaurant) หลายแบรนด์ด้วยซ้ำไป
ขึ้นชื่อว่าเป็นคลินิกที่เกิดและเติบโตมากับกระแสโดยตลอด ดังนั้นในขณะที่กระแส K-Pop ที่ไม่เคยอ่อนแรง ขณะเดียวกันศิลปินคนไทยที่ดังก็มีไม่กี่คน ที่ดังก็ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าจนแทบจำไม่ไหว ที่สำคัญมีค่าตัวแพง ในปี 2552 วุฒิ-ศักดิ์ คลินิกจึงเลือกใช้ศิลปินเกาหลี ที่มีค่าตัวถูกกว่า แม้จะเป็นวงที่ยังไม่มีชื่อเสียงมาก มาทำ TVC ครั้งแรกในรอบ 8 ปี ในชุด The Girl Next Door 1 และ 2 นำแสดงโดย โซว จี วอน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เน้นคอนเซ็ปต์สวยอย่างปลอดภัย เพื่อแก้โจทย์แรกเรื่องปัญหาชื่อเสียงคลินิกที่ถูกตรวจจับไปก่อนหน้านี้
สิ่งที่ได้ตามมาคือความสดใสของแบรนด์ และความเป็นอินเตอร์ เพราะเกาะกระแสเกาหลีที่คนไทยโดยเฉพาะวัยรุ่นสาวไทยที่อยากสวยใสอย่างเกาหลี จึงเป็นเรื่องง่ายต่อการสื่อสารเพราะผู้บริโภคเข้าใจแล้วว่าสวยแบบเกาหลี คือมีใบหน้าเรียวได้รูป และผิวสวยใสอมชมพู
อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ของคลินิกแห่งนี้ก็ยังคงเป็นคลินิกระดับแมสที่มี Price Barrier ต่ำเช่นเคย แม้จะพยายามสื่อสารว่า “พบกับมาตรฐานความงามที่เหนือกว่า” ก็ตาม เพราะกลุ่มลูกค้าของวุฒิ-ศักดิ์ คลินิกคือกลุ่มแมสที่มี Price Sensitive สูง อ่อนไหวและตัดสินใจซื้อได้ง่ายด้วยโฆษณา
ต่อมาในปี 2553 ใช้ T-max ศิลปินเกาหลีเป็น Brand Ambassador และศิลปินไทยอีก 4 คน ไก่ วรายุทธ ปุ้ย พิมลวรรณ ลิเดีย ศรันย์รัชต์ และเค โอติก เป็นกลุ่ม Product Presenter เพื่อโปรโมตโปรแกรมความงามต่อต้านริ้วรอย
แม้จะเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายประกอบวิชาชีพเวชกรรม ในการใช้คนมีชื่อเสียงมารับรองสินค้า แต่วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ก็ยอมทุ่มเต็มที่อัดงบโฆษณาหนัก โดยใช้งบตลาดประมาณ 80-100 ล้านบาทในปี 2553 ที่ผ่านมา
สำหรับวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ดาราจึงเป็นธงนำ นวัตกรรมจึงเป็นเรื่องรอง การโปรโมตต่างๆ จะผ่านดารา เป็นหลัก ขณะที่โปรแกรมการรักษาความงามก็ไม่ได้หยิบยกเทคโนโลยีชั้นสูงที่เป็นสากลอย่าง Thermage หรือFraxel (ยกเว้น IPL) ตลอดจนเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยมาเอ่ยอ้าง แต่จะเลือกพูดถึงคุณสมบัติของโปรแกรมรักษาความงามนั้นไปเลย เช่น Ultra Deep Layer หรือ Super Lifting เป็นต้น
ปัจจุบันวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ออกผลิตภัณฑ์ “กลูตา เฮลติ” จำหน่ายทั้งภายในคลินิก และ 7-Eleven แตกไลน์เข้าสู่ตลาด Functional Drink ซึ่งเติบโตสูงสุดใน 7-Eleven กว่า 200% โดยอาศัยชื่อเสียงที่โด่งดังในหมู่แมสกรุยทาง เป็นการแตกไลน์สู่ช่องทางจำหน่ายใหม่ที่เหนือกว่าคู่แข่ง
ดังนั้นวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก จึงนับเป็นคลินิกความงามที่ทั้งข่าวคาวและข่าวคราวมากที่สุด อีกทั้งมีกลยุทธ์การตลาดที่เต็มไปด้วยความกล้า ดุเดือด และมีลูกล่อลูกชนเยอะที่สุด แต่จะเติบโตไปได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ และจะสาดกระสุนโฆษณาทำโปรโมชั่นหนักหน่วงได้นานถึงเมื่อไหร่ อนาคตคือคำตอบ โดยเฉพาะกับการเผชิญหน้ากับคำครหาในเรื่องความน่าเชื่อถือที่หลายคนอาจจะยังไม่ลืมเลือน
Profile | วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก |
สี | น้ำเงิน-ส้ม |
ก่อตั้ง | 2545 |
จำนวนสาขาในปัจจุบัน | 97 สาขา |
กลุ่มเป้าหมายหลัก | นักศึกษา วัยทำงาน |
ค่าใช้จ่าย | เริ่มต้น 60 บาท |
กลยุทธ์การตลาดเด่น | พรีเซ็นเตอร์เกาหลี ไทย โปรโมชั่นหนัก Entry Price Point ต่ำ เน้นขยายสาขาจำนวนมากโดยเฉพาะตามตลาดสดและเทสโก้ โลตัส |