“นิติพล คลินิก” สวยติดสปีด เร็วแรงทั่วไทย

“ถ้าไม่มีโฆษณาเลยจะมีปัญหา เพราะคนอื่นมีโฆษณา ไม่โฆษณาอาจตกขบวน และโฆษณาสร้างความแตกต่างของแบรนด์ได้” นี่คือคำพูดจาก นพ.นิติพล ชัยสกุลชัย ประธานบริษัทนิติพลกรุ๊ป ที่สะท้อนถึงการแข่งขันของธุรกิจคลินิกความงาม ที่ไม่อาจพึ่งพาแค่การบอกต่อกันได้เหมือน 10 ปีที่ผ่านมาได้อีกต่อไป แม้โฆษณาทีวีแต่ละนาทีหมายถึงเงินแสน และหลายวันหมายถึงเงินนับสิบล้านที่ทุ่มลงไป และคงไม่มีใครอยากใช้จ่ายเงินก้อนนี้ แต่ “นิติพล” ก็ไม่อาจปฏิเสธ และเมื่อเริ่มต้นแล้วก็ไม่อาจหยุดได้ เพราะธุรกิจนี้กำลังแข่งขันกันดุเดือดและแรงเกินกว่าจะถอยหลังกลับได้

จากเดิม ”นิติพล” เหมือนผู้เล่นรายเดียวที่ชนกับ”วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก” และเป็นที่จับตาของผู้ชมรอบข้าง เพราะศึกครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแข่งขันกันธรรมดา แต่หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของคือ นพ.นิติพล และลูกหม้อ คือ นพ.วุฒิศักดิ์ ลิ่มพาณิชย์ ที่วันหนึ่งลูกหม้อไปทำธุรกิจแข่งและแรงกว่า แต่ช่วงหลังของปี 2553 ทั้งพรเกษม คลินิก และราชเทวี คลินิก ต่างโดดลงมาออนแอร์ด้วย ทำให้ ”นิติพล คลินิก” ไม่โดดเดี่ยว และสงครามนี้กำลังปะทะกันระหว่าง 3 ต่อ 1 คือ นิติพล พรเกษม และราชเทวี กับ 1 เดียวคือ ”วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก”

แม้ นพ.นิติพล จะบอกว่าลูกค้าหลักที่มาใช้บริการมาจากการบอกต่อถึง 70% และมีแค่ 20% จากโฆษณา ที่ต้นทุนสูงกว่าการบอกต่อ แต่โฆษณาก็จำเป็นเพราะทำให้ลูกค้ารู้ว่าแบรนด์มีความต่างจากคู่แข่ง และทำให้คนตัดสินใจเร็วขึ้นที่จะมาใช้บริการ ที่นิติพล คลินิกพยายามสื่อให้เห็นตั้งแต่สีของแบรนด์ไปจนถึงบริการต่างๆ

“นิติพล คลินิก” ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2534 และใช้สีน้ำเงินเป็นสีของแบรนด์มานาน จนเมื่อเจอ” วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก”เดินตาม อัดโฆษณาอย่างหนักเมื่อปี 2552 และได้ผลที่แบรนด์เป็นที่จดจำ ลูกค้าส่วนหนึ่งไปหา ”วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก” สัญญาณเริ่มไม่ดีนักสำหรับแบรนด์อื่นๆ รวมทั้ง ”นิติพล คลินิก” “นพ.นิติพล” จึงตัดสินใจเริ่มต้นสร้างแบรนด์เมื่อกลางปี 2553 เปลี่ยนโลโก้จากสีน้ำเงินกลายเป็นสีชมพูสดใส นั่นคือสิ่งที่ ”นพ.นิติพล” เลือกยอมทิ้งสีเดิม เพื่อแยกตัวเองให้ต่างจาก ”วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก” อย่างเด็ดขาด จากที่ไม่เคยซื้อสื่อทีวีซี ก็ย่อมทุ่มเดือนแรกในหลักสิบล้านบาท จากที่ไม่เคยคิดใช้พรีเซ็นเตอร์ ก็มี ”น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์” ที่ต้องย่อมทุ่มค่าตัวให้ในหลัก 7 หลัก เพื่อให้คนจำแบรนด์ได้

วันนี้ ”นิติพล คลินิก” มีสาขาอยู่กว่า 70 สาขาทั่วประเทศ เฉลี่ยลูกค้าวันละ 50-100 คน จากวันแรกที่เปิดคลินิกย่านรามคำแหง มีลูกค้าแค่ 3 คน และนานหลายเดือนที่มีลูกค้าเพียงวันละ 10 กว่าคน จุดเปลี่ยนที่สำคัญคือการบอกปากต่อปาก และโอกาสของธุรกิจที่มาจากความต้องการของลูกค้าที่เศรษฐกิจเติบโต คนมีรายได้มากขึ้น จึงต้องการให้ตัวเองดูดี สวย จากการมาเพื่อรักษาผิวพรรณ โรคผิวหนัง จึงกลายมาเป็นเพื่อความงาม ไร้สิวฝ้า และขาวเด้งเนียนใส ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา และในช่วงหลังเป็นยุคที่ นพ.นิติพลบอกว่า MetroSexual มีมากขึ้น ทำให้คลินิกความงามทำรายได้สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการครึ่งหนึ่งคือรักษาปัญหาผิว เช่น สิว ฝ้า ซึ่งเป็นการเข้ารับรักษาของลูกค้าที่มีมานาน แต่เวลานี้มีส่วนอีกครึ่งหนึ่งผิวดีอยู่แล้ว แต่ต้องการให้ขาว ใส เด้งกว่าเดิม แก้ไขข้อบกพร่องให้ดูอายุน้อยลง และแนวโน้มที่ต้องจับตาว่าจะแรงขึ้นเรื่อยๆ

นับจากนี้ ”นิติพล คลินิก” จะอยู่จุดไหนในตลาด คำตอบที่ชัดเจนคือกลุ่มผู้ใหญ่วัยทำงานมีกำลังซื้อคือครีมในตลาดนี้ ขณะที่วัยรุ่นยังไม่มีปัญหาเรื่องผิว หรือริ้วรอย มีเพียงปัญหาเรื่องสิวเป็นหลัก นอกจากนี้วัยรุ่นยังไม่มีกำลังซื้อเพียงพอ และพฤติกรรมเปลี่ยนแบรนด์ได้ง่าย

ส่วนอาวุธที่สำคัญในการรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้นั้น นพ.นิติพลบอกว่าต้องขยายสาขา นั่นคือเป้าหมายที่นิติพล คลินิกจะเพิ่มจาก 70 เป็น 100 สาขาในปี 2554 อยู่ในต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ อย่างละครึ่ง เพื่อรักษาการเติบโตของรายได้เฉลี่ยปีละ 20-30% ไว้ โดย นพ.นิติพลยังคงมุ่งมั่นเกี่ยวในการรักษา และเสริมความงามด้วยการทรีตเมนต์ด้วยยาและเครื่องมือ และยังไม่เห็นโอกาสในการลงทุนเรื่องศัลยกรรม เพราะความเชี่ยวชาญต่างกัน เนื่องจากตั้งใช้แพทย์ด้านศัลยกรรมและอุปกรณ์ และลักษณะของคลินิกที่ต่างกัน

เวลานี้ใครที่อยู่ในธุรกิจนี้ต้องใส่แรงเต็มที่ หาจุดที่ยืนให้ได้ชัดเจน เช่นเดียวกับ ”นิติพล คลินิก” ที่มองว่าธุรกิจยังไม่เดือดถึงระดับ Red Ocean เพราะลูกค้าใหม่ยังมีอยู่อีกมหาศาล คือทั่วประเทศ ซึ่งหมายถึงใครขยายสาขาได้เร็วกว่ากัน คือผู้ที่จะได้ลูกค้าใหม่เข้ามา แต่โจทย์สำหรับทุกคนคือคุณภาพ บริการที่เป็นมิตรกับลูกค้า และยุคนี้คือแบรนด์ที่แข็งแกร่ง สำหรับแบรนด์เล็กๆ ก็อาจอยู่ได้ แต่ก็คงเหนื่อย

Profile นิติพล คลินิก
Positioning คลินิกความงามที่เน้นทรีตเมนต์ และเครื่องมือ สโลแกน ”ทุกความสวย…เป็นไปได้”
สี ชมพู สุขภาพ และสดใส
ก่อตั้ง ปี 2534 ที่อาคารพาณิชย์ย่านรามคำแหง
จำนวนสาขาปัจจุบัน 70 สาขา
จำนวนแพทย์/พนักงาน 110/1,400 คน
กลุ่มเป้าหมายหลัก ชนชั้นกลาง /First Jobber/แม่บ้าน เลือกสินค้าสุขภาพ กลุ่มอายุ 25-30 ปีมี 50-60% เฉลี่ยมาเดือนละ 2 ครั้ง
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 700-1,000 บาทต่อคนต่อครั้ง
กลยุทธ์การตลาดเด่น ปี 2553 รีเฟรชแบรนด์ เปลี่ยนสี โลโก้ สโลแกน เน้นสื่อทีวีซี สิ่งพิมพ์ เพื่อให้ต่างจากคู่แข่งหลัก คือ ”วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก”
งบการตลาด 2 เดือนสุดท้ายของปี 2553 ประมาณ 17 ล้านบาท
สื่อที่ใช้ ทีวีซี สิ่งพิมพ์ เว็บไซต์
กระบวนการสร้างแบรนด์”นิติพล คลินิก”
Brief ความสำเร็จของ ”วุฒิศักดิ์ คลินิก” จากการโฆษณาทางทีวี กระทบต่อยอดขายของ ”นิติพล คลินิก” เพราะทีวีซีทำให้วุฒิ-ศักดิ์ คลินิกมีชื่อเสียง ได้แบรนด์ และมีลูกค้าใหม่ไปทดลองใช้บริการ
Challenge การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์นิติพลคลินิกใหม่ เพื่อเป็น Top of mind brand ของคลินิกความงาม โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน วาง Positioning ให้เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญความงาม และน่าเชื่อถือ
Strategy – การสร้างแรงจูงใจ ทัศนคติเรื่องความงามในกลุ่มผู้หญิงรุ่นใหม่ ช่วยในเรื่องความสำเร็จด้านการงานและความรัก
– การใช้ลูกค้าที่เป็นเซเลบริตี้ที่เคยใช้บริการจริง ”น้ำชา” ตอกย้ำถึงผลความงาม และการบอกต่อ
Brand Idea “นิติพล คลินิก” ทุกความสวย เป็นไปได้
Result – 1 สัปดาห์หลังทีวีซีชุดแรกออกอากาศ ชุด Office Girl ติดอันดับโหวตสูงสุดอันดับ 2 ใน Ad in Trend
-ได้ยอดขายเพิ่มเป็นอันดับ 2 ในการทำตลาดกลุ่มพนักงานบริษัท