ครึ่งปีแรก’64 “ศุภาลัย” ยอดขายเข้าเป้า แต่ครึ่งปีหลังต้องจับตา แคมป์คนงาน-มู้ดผู้บริโภค

“ศุภาลัย” รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 รายได้-กำไรพุ่งจากการโอนคอนโดฯ มองบวกซัพพลายในตลาดเริ่มลด อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังผิดคาดจากวิกฤตการระบาดยืดเยื้อ แม้ปลดล็อก “แคมป์คนงาน” แล้วแต่ยังกลับมาทำงานได้ไม่ 100% จำนวนผู้บริโภคเยี่ยมชมโครงการน้อยลง

“ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2564 เป็นไปในเชิงบวก โดยทำยอดพรีเซลได้ 13,005 ล้านบาท โต 8% YoY ยอดรับรู้รายได้ 11,000 ล้านบาท โต 60% YoY และกำไรสุทธิ 2,472 ล้านบาท โต 111% YoY

สาเหตุที่รายได้และกำไรเติบโตดี เกิดจากช่วงเดือนมิถุนายน’64 บริษัทเริ่มโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร ทำให้มีรายได้เข้าบริษัทมากกว่าปีก่อนมาก

ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2564 บมจ.ศุภาลัย

ตลอดปี 2564 บริษัทยังคงเป้าหมายการดำเนินงานทั้งปีไว้ดังเดิม คือ เป้ายอดขาย 27,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 28,000 ล้านบาท และเป้าการเปิดตัวโครงการใหม่ 34,000 ล้านบาท โดยมีแบ็กล็อกที่จะโอนในปีนี้อีก 14,200 ล้านบาท ทำให้เชื่อว่ารายได้น่าจะเป็นไปตามคาด

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวโครงการใหม่มีการปรับแผนเล็กน้อย โดยขยับโครงการส่วนใหญ่ไปเปิดตัวช่วงไตรมาส 4/64 จากสถานการณ์การระบาดที่ยืดเยื้อ และการเปิดโครงการคอนโดฯ บางส่วนอาจจะขยับไปเป็นปี 2565 ได้ ถ้ามู้ดผู้บริโภคยังไม่ดีขึ้น

 

ข่าวดีครึ่งปีแรก ซัพพลายในตลาดลดลง

ภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีแรก 2564 ไตรเตชะอ้างอิงข้อมูลจาก AREA พบว่า ตลาดกรุงเทพฯ-ปริมณฑลปรับตัวดีขึ้นในแง่ซัพพลายคงเหลือที่ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 มียูนิตเหลือขายราว 210,000 ยูนิต โดยเกิดจากยอดขายใหม่ที่ทำได้มากกว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ แสดงให้เห็นการขายระบายสต็อกเดิมเป็นส่วนใหญ่

การเปิดตัวโครงการใหม่ ยอดขายใหม่ และซัพพลายคงเหลือในตลาดอสังหาฯ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล (ข้อมูล : AREA / ศุภาลัย)

ถ้าเจาะลึกแบ่งเป็นตลาดแนวราบกับคอนโดฯ ไตรเตชะระบุว่าตลาดแนวราบมีทิศทางที่ดีกว่า แม้ว่าการเปิดใหม่จะลดลงแต่ยอดขายครึ่งปีแรก’64 ที่จริงแล้วตลาดแนวราบดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งน่าจะเกิดจากผู้บริโภคพบว่าครอบครัวต้องการ “พื้นที่” ในบ้านเพิ่มขึ้นหลังล็อกดาวน์

ส่วนตลาดคอนโดฯ ซบเซาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนความต้องการ นักเก็งกำไรหายจากตลาด นักลงทุนต่างชาติก็เช่นกัน ตลาดจึงเหมือนกลับไปสู่ยุคที่คอนโดฯ มีผู้ซื้อเฉพาะเรียลดีมานด์ชาวไทยเท่านั้น

 

ครึ่งปีหลังเผชิญปัญหาแคมป์คนงาน

สำหรับมุมมองครึ่งปีหลัง 2564 ไตรเตชะเชื่อว่าการเปิดตัวจะไม่ได้มากเท่าที่คาดการณ์ไว้ และเป็นไปได้ที่จะลดลงจากปี 2563 ด้วย เพราะสถานการณ์ COVID-19 ระบาดยืดเยื้อ ซึ่งทำให้ธนาคารเข้มงวดการปล่อยกู้สินเชื่อพัฒนาโครงการยิ่งขึ้นไปอีก

COVID-19 ยังมีผลกระทบทางตรงกับทั้งอุตสาหกรรมนั่นคือการ “ปิดแคมป์คนงาน” ช่วงที่ผ่านมาต้องระงับการก่อสร้างและการเก็บงานซ่อมแซมก่อนโอนบ้าน/คอนโดฯ ให้ลูกค้า ทำให้โครงการจะดีเลย์ไปบ้าง แม้ช่วงนี้ภาครัฐจะปลดล็อกแคมป์คนงานแล้ว แต่การทำงานยังไม่กลับมาเต็มประสิทธิภาพ

ไซต์ก่อสร้าง (Photo : Shutterstock)

“ตอนปิดแคมป์คนงาน การทำงานลดจาก 100 เหลือ 0 ทันที ตอนนี้กลับมาเปิดแล้วแต่การทำงานไม่ได้กลับจาก 0 ไปที่ 100 ได้เลย เพราะคนงานบางส่วนที่ไม่ได้อยู่ในแคมป์แต่แรก อาจจะเป็นกลุ่มสัญญาจ้างต่อ (subcontract) ของผู้รับเหมาของเรา กลุ่มนี้กลับบ้านต่างจังหวัดไปแล้วและยังกลับมาทันทีไม่ได้ หรือตัดสินใจยังไม่กลับมาเพราะสถานการณ์การระบาดไม่แน่นอน ทำให้คนงานขาดแคลน” ไตรเตชะกล่าว

ประเด็นแคมป์คนงานเป็นหัวใจสำคัญมาก เพราะหากมีการระบาดอีกอาจจะทำให้แคมป์และไซต์ก่อสร้างถูกปิดอีกได้ ไตรเตชะกล่าวว่า บริษัทจึงมีมาตรการสั่งซื้อชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ล่วงหน้าสำหรับตรวจแคมป์ทุกสัปดาห์ โดยผู้รับเหมาที่เป็นซัพพลายเออร์ให้ศุภาลัยมีกว่า 10 แคมป์ คนงานรวมกว่า 6,000 คน

 

ลุ้นมู้ดผู้บริโภคดีดตัวกลับเมื่อทุกอย่างดีขึ้น

อีกประเด็นหนึ่งที่ตามมาจากการระบาดที่สาหัสขึ้นคือ ยอดวอล์ก-อินเยี่ยมชมโครงการลดลง ไตรเตชะเปิดกราฟให้เห็นว่า ตั้งแต่มีการระบาดของ COVID-19 ปีก่อน การเยี่ยมชมโครงการของลูกค้าจะดีดตัวขึ้นลงสูงตามสถานการณ์ระบาด ยกตัวอย่างเดือนเมษายน’63 จำนวนวอล์ก-อินดิ่งลง แต่ถึงเดือนพฤษภาคม’63 ยอดวอล์ก-อินที่อั้นมากลับดีดขึ้นไปสูงมาก ชดเชยกับที่ขาดหายไปได้

ยอดวอล์ก-อินชมโครงการของศุภาลัย จะเห็นว่าตั้งแต่มีการระบาด ยอดเยี่ยมชมแต่ละเดือนจะพุ่งขึ้นลงสูงมาก

เมื่อมาถึงการระบาดรอบนี้ ยอดเยี่ยมชมโครงการเริ่มลดลงตั้งแต่เดือนมิถุนายน’64 และเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาน่าจะเป็นจุดต่ำสุดที่เคยพบเรียบร้อยแล้ว โดยหวังว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย การวอล์ก-อินจะดีดกลับขึ้นไปเหมือนรอบก่อนๆ

ทั้งนี้ ศุภาลัยมีการปรับตัวเปิดช่องทางออนไลน์เต็มสูบให้กับลูกค้าด้วยโดยไตรมาส 4 นี้จะเปิดช่องทาง Online Booking ที่ใช้ได้ทุกโครงการ จากที่ผ่านมาเลือกเปิดใช้เป็นบางแห่ง และรองรับ Virtual Tour 360 องศา พร้อมกับระบบจอง Online Private Tour ให้พนักงานขายพาทัวร์โครงการผ่าน LINE เป็นมาตรการช่วยผลักดันการซื้อขายระหว่างที่สถานการณ์ยังไม่ปกติ

อนาคตของตลาดขณะนี้ผูกติดอยู่กับการระบาดและวัคซีน โดยไตรเตชะหวังว่าสถานการณ์ในกรุงเทพฯ และเขตจังหวัดสีแดงเข้มจะกลับเป็นปกติภายใน 6 เดือนข้างหน้า อยู่ในระดับใกล้เคียงกับภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ขณะนี้ที่สามารถใช้ชีวิตได้ แม้จะยังต้องใส่หน้ากากอนามัยก็ตาม