เวียดนามดึงนักลงทุนเข้า “นิคม” ได้มากกว่าไทย “คลังสินค้า” โตสวนทาง บูมจากอีคอมเมิร์ซ

คลังสินค้า
CBRE เปิดข้อมูลตลาดนิคมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ พบว่าการขายพื้นที่นิคมฯ ของไทยได้อานิสงส์จาก China Plus One น้อยกว่าเวียดนาม ซึ่งมีข้อได้เปรียบเรื่องแรงงานอายุน้อยและค่าแรงต่ำ แต่ที่โตสวนทางคือ “คลังสินค้า” เกิดดีมานด์สูงมากหลังอีคอมเมิร์ซโตพุ่ง 15-20%

“อาดัม เบลล์” หัวหน้าแผนกพื้นที่อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย (CBRE) เปิดเผยข้อมูลการขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมของไทยช่วงปี 2559-63 ประเมินว่าไทยไม่ได้อานิสงส์จากโมเดล China Plus One มากนัก โดยตลาดรวม 5 ปีมียอดขายสะสม 7,913 ไร่

โมเดล China Plus One ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิด COVID-19 ระบาด คือโมเดลการกระจายฐานผลิตและซัพพลายเชนออกจากประเทศจีน เพื่อกระจายความเสี่ยงหลังเกิดสงครามการค้า แต่เดิมคาดการณ์ว่าผู้ที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดคือ เวียดนาม ไทย และมาเลเซีย

CBRE มองว่า เวียดนาม กลายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จมากกว่าในการดึงดูดนักลงทุนให้ย้ายฐานเข้ามา โดยมีข้อได้เปรียบคือ แรงงานจำนวนมาก อายุน้อย ค่าแรงต่ำ ทำให้อุตสาหกรรมที่ต้องการแรงงานมากจะสนใจเวียดนามมากกว่าไทย

อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะแข่งขันเรื่องอัตราค่าแรงกับเวียดนามไม่ได้ แต่ไทยมีจุดแข็งมากกว่าเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน นิคมอุตสาหกรรมบริหารจัดการได้อย่างมืออาชีพ และมีแรงงานทักษะเฉพาะทางจำนวนมากกว่า

CBRE เชื่อว่า แหล่งนิคมฯ ที่เป็นที่ต้องการมากคือแถบอีสเทิร์นซีบอร์ด แต่เนื่องจากชาวจีนยังเดินทางเข้ามาชมพื้นที่ไม่ได้ ทำให้การขายหยุดชะงัก ประเทศไทยอาจต้องรอจนกว่าสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย ดีมานด์ที่ค้างอยู่นี้จึงจะเกิดเป็นยอดขายจริง

Bangkok Free Trade Zone (BFTZ) โครงการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าบริเวณถนนบางนา-ตราด กม.23

แต่ธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่กำลังบูมขณะนี้คือ “คลังสินค้า” ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องจากอีคอมเมิร์ซ และยิ่งบูมสุดขีดจากการระบาดที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายออนไลน์สูง

สำหรับคลังสินค้า อาดัมมองว่าทำเลทองที่มีดีมานด์สูงคือ ถนนบางนา-ตราด กม.18 – กม.23 เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมต่อได้ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิและท่าเรือแหลมฉบัง และเป็นโซนนิ่งให้พัฒนาคลังสินค้าขนาดใหญ่ได้ แต่ราคาที่ดินที่พุ่งสูงขณะนี้เริ่มสร้างความท้าทายต่อการพัฒนาคลังสินค้าเพิ่มบริเวณนี้

ก่อนหน้านี้ Shopline Thailand บริษัทระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ประเมินว่าปี 2564 จะเป็นปีทองของอีคอมเมิร์ซไทย คาดว่าตลาดจะโตถึง 15-20% เห็นได้ว่าการเติบโตของธุรกิจนี้โตทะยานสวนทางกับเศรษฐกิจ