แม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลานั่งเก้าอี้ซีอีโอดีแทค ที่กำหนดต้องเข้าประจำการในวันที่ 1 มีนาคม 2554 แต่“จอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์”ก็บินตรงจาก”เทเลนอร์ ปากีสถาน” มาโชว์ความพร้อมระหว่างร่วมงานแถลงข่าวผลประกอบการประจำปี 2553 และทิศทางธุรกิจปี 2554 ที่มี “ทอเร่ จอห์นเซ่น” ซีอีโอคนปัจจุบันนั่งกำกับอยู่
“วัฒนธรรมแบบองค์กรดีแทคที่มี Passion แบรนด์ที่แข็งแกร่ง และความพร้อมของเครือข่ายที่ดีแทคกำลังลงทุน โดยเฉพาะ 3 G เพื่อรองรับบริการสื่อสารข้อมูล” คือสองจุดแข็งของดีแทคที่”จอน เอ็ดดี้” มั่นใจว่าจะเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับเขาในการเข้าเป็นซีอีโอใหม่ของดีแทค แม้ว่าจะรู้สึกกดดันอยู่บ้าง ที่ผลประกอบการของดีแทคในปี 2553 ที่ทีมผู้บริหารเดิมทำได้ในระดับมาตรฐานที่สูง กำไรถึง 1.09 หมื่นล้านบาท
ความหวังของซีอีโอใหม่ในการโชว์ฝีมือ คือโอกาสในการทำตลาดลูกค้าสื่อสารข้อมูล ที่ตลาดเมืองไทยยังมีลูกค้าใช้อยู่น้อย เมื่อเทียบกับมาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง เมื่อตลาดยังไม่โต ก็มีโอกาสที่จะขยายธุรกิจนี้ได้
แต่ความพร้อม และเป้าหมายเหล่านี้อาจไร้ผล หาก”ดีแทค” ไม่สามารถเข้าถึงอำนาจรัฐ แก้เงื่อนไขสัญญาและข้อตกลง ที่เป็นอุปสรรคของดีแทคกับภาครัฐ เช่นการฟ้องร้องการจ่ายค่าเชื่อมโยงเครือข่าย สัญญาที่เสียเปรียบคู่แข่งในการขยายเครือข่าย 3 จีที่ยังจำกัดแค่ทดลองและพื้นที่ครอบคลุมน้อย โดยเฉพาะหลังจากที่ทรูมูฟสามารถเทคโอเวอร์ฮัทช์ได้สำเร็จ จนทำให้ทรูมูฟมีโอกาสให้บริการ 3 จีได้ก่อนใคร โจทย์ของ”จอน เอ็ดดี้” จึงไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่คือเคลียร์ทางให้ดีแทคไปต่อได้ในธุรกิจไร้สายที่ต้องมีเส้นสายนี้ได้
วิธีการคืออะไรสำหรับเขา? อาจจะเร็วเกินไปที่จะตอบ แต่”จอน เอ็ดดี้” ก็ตอบได้ด้วยทักษะความสามารถในการสื่อสารที่โดดเด่นทั้งที่แบ็คกราวด์ของเขาคือวิศวกร ซึ่งเขาเปรียบเทียบว่าประสบการณ์ 2 ปีครึ่งในปากีสถานที่ต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงในประเทศ ทั้งเรื่องความปลอดภัยและความพร้อมเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้เขาสามารถบริหารจัดการแบบ Crisis Management ได้ทุกวัน และเชื่อจะนำมาใช้ในการเป็นซีอีโอที่ดีแทคได้
อย่างไรก็ตามการประสานงานกับภาครัฐ กำลังเป็นวิกฤตของดีแทค และล่าสุด”ธนา เธียรอัจฉริยะ” ซึ่งเคยรับตำแหน่งรองซีอีโอดูงานด้านภาครัฐก็เพิ่งลาออกไปอยู่แม็คยีนส์ ณ เวลานี้สิ่งที่”จอน เอ็ดดี้” พูดได้ชัด ในการผ่านอุปสรรคนี้ คือความหวังที่จะได้กำลังใจจากพนักงานเป็นอันดับแรก
ขนาดเป็นการโชว์ตัวครั้งแรก และไม่กี่นาทีบนเวทีแถลงข่าวสำหรับ”จอน เอ็ดดี้” แต่ก็จัดได้ว่าเป็นซีอีโอที่”พูดเป็น” และ”ขอเป็น” ในนาทีนี้ที่ดีแทคต้องมีทั้ง Passion และ Connection เพื่อไม่ใช่แค่ให้ดีแทครอดจากวิกฤต แต่เพื่อธุรกิจที่เติบโตกว่าเดิม