กระเป๋า Louis Vuitton ยอดขายพุ่ง นักช้อปเอเชียเริ่มกลับมาซื้อเครื่องประดับหรูมากขึ้น

Photo : Shutterstock
สินค้าเเบรนด์เนมไฮเอนด์ขายดีต่อเนื่อง ความนิยมกระเป๋า ‘Louis Vuitton’ พุ่ง หลังคลายล็อกดาวน์ ขณะที่นักช้อปชาวเอเชีย ก็เริ่มกลับมาซื้อเครื่องประดับสุดหรูมากขึ้นเรื่อยๆ 

LVMH ยักษ์ใหญ่ธุรกิจลักชัวรี ที่มีเเบรนด์ในเครือกว่า 70 เเบรนด์ เเถลงว่า ยอดขายสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงไตรมาสของปีนี้ หลังร้านค้ากลับมาเปิดทำการตามปกติได้อีกครั้ง

โดยสินค้าหมวดแฟชั่นและเครื่องหนัง รวมถึงกระเป๋า ซึ่งมีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมดในเครือ LVMH มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 24% จากพลังความนิยมของเเบรนด์ Louis Vuitton และ Dior

LVMH มั่นใจว่าการเติบโตของบริษัทในปัจจุบัน จะดำเนินต่อไปตามเเนวโน้มการเติบโตโดยรวมของอุตสาหกรรมที่ยังคงเป็นไปในทางที่ดี ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดค่อยๆ คลี่คลายลง

เเบรนด์หรูต่างๆ ฟื้นตัวกลับมาได้รวดเร็วจากวิกฤตโควิด เเม้ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเเละการเดินทางต่างประเทศจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ ระบุว่า ยังมีความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อาจหยุดชะงักในตลาดใหญ่ๆ อย่างจีน เเละการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ รวมไปถึงนโยบายความรุ่งเรืองร่วมกัน” หรือ Common Prosperity ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ระหว่างคนรวยเเละคนจน จัดระเบียบธุรกิจเพื่อกระจายรายได้ซึ่งอาจกระทบถึงการใช้สินค้าหรูหราด้วย

เเต่ทาง LVMH มองว่านโยบายใหม่ของจีนนี้ ไม่ได้ส่งผลเสียต่อชนชั้นกลางระดับบนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเเบรนด์ในจีนมากนัก

Jean-Jacques Guiony ประธานเจ้าหน้าที่การเงินของ LVMH ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีนี้ว่า อาจเป็นผลดีต่อยอดขายด้วยซ้ำ เเละเราไม่ได้กังวลอะไรเป็นพิเศษ

Louis Vuitton เมืองเฉิงตู ประเทศจีน ภาพเมื่อเดือนมี.ค. 2019 (Photo : Shutterstock)

ตลาดเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่น นับเป็นภูมิภาคที่ทำเงินมากใหญ่ที่สุดให้เเบรนด์ในเครือ LVMH คิดเป็นกว่า 36% ของยอดขาย (ณ สิ้นเดือนกันยายน) ส่วนตลาดสหรัฐฯ ครองอันดับ 2 โดยมีสัดส่วนทำให้รายได้ราว 1 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมด

ส่วนตลาดตลาดยุโรป ถือว่ามีการฟื้นตัวที่ดีมาก ในช่วงไตรมาสที่ 3 จากการเที่ยวในประเทศในช่วงฤดูร้อน แม้จะไม่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเอเชียไปช้อปปิ้งก็ตาม

โดยแผนกแฟชั่นและเครื่องหนัง เติบโตขึ้นกว่า 38% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่ 3 หลังจากเติบโต 40% ในไตรมาสก่อนหน้า

ส่วนสินค้าประเภทนาฬิกาและเครื่องประดับ ซึ่งรวมถึงเเบรนด์ดังอย่าง tiffany & co.ในตลาดเอเชียนั้น อ่อนตัวลงมาในช่วงเดือนมการาคมสิงหาคม จากข้อจำกัดโรคระบาด แต่เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนกันยายนเป็นต้นมา สะท้อนให้เห็นว่าชาวเอเชียกระเป๋าหนัก เริ่มกลับมาช้อปปิ้งหลังผ่อนคลายมาตรการโควิด-19

ทั้งนี้ ยอดขายโดยรวมในเครือ LVMH เพิ่มขึ้น 20% เป็น 17,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาสที่ 3 (ณ สิ้นเดือนกันยายน)

 

ที่มา : Bloomberg , livemint