ส่อง 5 เทรนด์ดีไซน์ “ห้องน้ำ” จาก COTTO พร้อมลุยตลาดปี’65 สุขภัณฑ์-ก๊อกน้ำกลับมาโต 2%

COTTO (คอตโต้) เปิดเทรนด์ “ห้องน้ำ” ยุคใหม่ 5 ดีไซน์ ที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคหลัง COVID-19 พัฒนา Virtual Showroom ตอบรับผู้บริโภคยุคดิจิทัล-ระวังสุขอนามัย คาดการณ์ตลาดปี 2565 สุขภัณฑ์-ก๊อกน้ำกลับมาโต 2% แต่แบรนด์ขอโต 10% จากการโหมบุกตลาดอาเซียน และหมัดเด็ดสินค้ากลุ่ม “Smart & Hygiene”

ปี 2564 ตลาดสุขภัณฑ์-ก๊อกน้ำอาจจะแผ่วลงไป แต่หลังข่าวการเปิดประเทศและทยอยคลายล็อกดาวน์ทำให้ทุกธุรกิจต่างมีความหวังในการฟื้นตัว รวมถึง “COTTO” (คอตโต้) แบรนด์รายใหญ่ของตลาด

“อนุวัตร เฉลิมไชย” Head of Ceramics Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยว่า ปีนี้ COTTO มีการศึกษาวิจัยและจัดทำ Design Trend 2022 สำหรับ “ห้องน้ำ” ซึ่งเทรนด์เหล่านี้เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงในชีวิตผู้บริโภคหลังผ่านช่วง COVID-19 ทำให้มีความต้องการที่เปลี่ยนไป และห้องน้ำกลายเป็นมากกว่าฟังก์ชันการใช้งาน แต่ส่งผลในด้านอารมณ์ความรู้สึกของการอยู่อาศัยด้วย

จากการวิจัยของแบรนด์ ปัจจัย 4 ประการที่มีผลต่อการออกแบบห้องน้ำในยุคต่อไป คือ

1.ความไม่แน่นอน (uncertain) จากวิกฤตโรคระบาดทำให้ผู้คนสัมผัสถึงความไม่แน่นอนในชีวิต
2.ดิจิทัล (digital) ผู้คนเคยชินกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น เช่น การทำงานออนไลน์
3.จิตใจ (mind) ความเครียดมากขึ้นจากการล็อกดาวน์ พบปะเพื่อนฝูงน้อยลง
4.สังคม (society) ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยเป็นประเทศอันดับ 17 ของโลกที่มีคนสูงอายุมากที่สุด และทำให้สังคมเป็น multigeneration ครอบครัวอยู่ร่วมกันหลายวัย

ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ COTTO นำมาจับคู่และผสมผสานออกมาเป็นดีไซน์ที่มองว่าจะตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่สำหรับพื้นที่ “ห้องน้ำ” ภายในบ้าน ดังนี้

1.RE-VITAL เทรนด์ที่ผสานระหว่างเทคโนโลยีกับความเรียบง่าย ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เน้นดีไซน์ที่เป็นมิตร ลบเหลี่ยมมุมให้ปลอดภัย เหมาะกับทุกคนในครอบครัว

สินค้าแนะนำ เช่น สุขภัณฑ์ VERZO ที่มีนวัตกรรม ULTRA CLEAN+ ยับยั้งแบคทีเรียได้เอง 99% ใน 24 ชั่วโมง

Re-Vital

2.RE-BALANCE เทรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างการใช้งานของมนุษย์ เทคโนโลยี และธรรมชาติ การดึงสีเขียวและต้นไม้มาเป็นส่วนหนึ่งของจุดสนใจในห้อง เพราะพลังของสีเขียวทำให้ประสาทตาผ่อนคลายและความดันโลหิตลดลง

สินค้าแนะนำ เช่น อ่างล้างหน้าเฉดสีเขียว เฉดสีใหม่ที่ COTTO ออกแบบมาเพื่อตกแต่งห้องน้ำให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ

Re-Balance

3.RE-VIBE เทรนด์แห่งความเป็นอิสระในตัวเอง ฟุ้งฝัน และสร้างสรรค์ หลุดออกจากกรอบเดิมๆ มิกซ์แอนด์แมทช์ของสะสมหรือรสนิยมความชอบส่วนตัว ที่ ‘ต้องเลือกเอง’ เท่านั้น

สินค้าแนะนำ เช่น ก๊อกน้ำ Geo Series ซีรีส์ใหม่ สามารถ Mix & Match ส่วนประกอบต่างๆ ให้เป็นสไตล์เฉพาะของตัวเอง

Re-Vibe

4.RE-CO เทรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ใส่ใจโลก แต่ยังดูดี ดูเท่ ตามนิยาม Black is a New Green

สินค้าแนะนำ เช่น สินค้าที่ประหยัดน้ำแต่ยังมีดีไซน์อย่างสุขภัณฑ์ Simply Modish สีดำด้าน

Re-Co

5.RE-WILD เทรนด์แห่งการอยู่ร่วมสมัยกันระหว่างวัย ทำให้งานดีไซน์จะเน้นยุคที่มีจุดร่วมกันอย่าง Art Deo แต่ปรับให้ทันสมัยขึ้น ใช้รูปทรงอย่างทรงวงรีของอ่างอาบน้ำ หรือสุขภัณฑ์รุ่นฟรีเกทที่มีรูปทรงโค้ง และดูเป็นมิตร

สินค้าแนะนำ เช่น สุขภัณฑ์ตัวใหม่รุ่น Simply Modish – Waving Sensor ในกลุ่ม Touchless พร้อมฝารองนั่ง Slim Design ที่เพิ่มเรื่อง Comfort seat ช่วยให้นั่งสบายเหมาะกับหลากหลายสรีระ

Re-Wild

COTTO ยังออกแคมเปญดึงตัวแทนคนรุ่นใหม่ 5 คนเพื่อมาเป็นตัวแทนให้กับเทรนด์ห้องน้ำทั้ง 5 แบบ ได้แก่ นับเงิน ฉัตร์นลิน เจ้าของช่อง NUBNUBB channel เป็นตัวแทนเทรนด์ RE-VITAL, พลอย และเดย์ จาก THINKK STUDIO เป็นตัวแทนเทรนด์ RE-BALANCE, โบกี้ BOWKYLION ศิลปินไทยชื่อดัง เป็นตัวแทนเทรนด์ RE-VIBE, แก๊ป ธนเวทย์ ดีไซเนอร์ นักแสดง และ Content Creator เป็นตัวแทนเทรนด์ RE-CO และ แอร์ ภัณฑิลา นักแสดง และเจ้าของธุรกิจ เป็นตัวแทนเทรนด์ RE-WILD

“กิตติพงษ์ โพธิ์ธรานนท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด กล่าวต่อว่า การเปิดตัวเทรนด์ใหม่ครั้งนี้มาพร้อมกับ Virtual Showroom ที่จะตอบโจทย์ลูกค้าเรื่องสุขอนามัย และยังสะดวกมากขึ้น สามารถเลือกดูจากที่ไหนก็ได้ เวลาใดก็ได้ ฝั่งบริษัทเองก็อัปเดตสินค้าใหม่ได้ง่ายขึ้นบนดิจิทัล

 

ปี 2565 เชื่อตลาดกลับมาโต 2%

ด้านเทรนด์ตลาดสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำในไทย กิตติพงษ์ยอมรับว่าปีนี้ไม่ใช่ปีที่ดี ตลาดหดตัวลงมาเหลือมูลค่า 10,000 ล้านบาท แต่คาดว่าปี 2565 น่าจะกระเตื้องขึ้น เชื่อว่าจะกลับมาโต 2% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจหลังจากผ่านสองปีที่สาหัสมากมาแล้ว

สำหรับ COTTO เฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ คาดว่าปี 2564 จะทำยอดขายได้ 4,000 กว่าล้านบาท ซึ่งอาจจะโตขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย แต่หวังว่าปี 2565 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10%

เนื่องจากบริษัทจะกลับไปโหมบุกตลาดอาเซียนอย่างเต็มที่ จากก่อนหน้า COVID-19 เริ่มเข้าตลาดไปแล้วแต่เพราะโรคระบาดทำให้ตลาดสะดุด มีประเทศที่ให้การตอบรับดีและมีการเติบโตสูง เช่น อินโดนีเซีย

(ซ้าย) “กิตติพงษ์ โพธิ์ธรานนท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด และ (ขวา) “อนุวัตร เฉลิมไชย” Head of Ceramics Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี

รวมถึงสินค้ากลุ่ม Smart & Hygiene ปีหน้าเชื่อว่าจะโตถึง 20% สินค้ากลุ่มนี้มีการใช้เทคโนโลยีสร้างความสะดวกและลดการสัมผัส เช่น ก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์ ฝารองนั่งอัตโนมัติ สุขภัณฑ์ระบบ waving sensor เป็นต้น และ COTTO เป็นผู้นำตลาด มีมาร์เก็ตแชร์ถึง 40%

ปัจจุบันสินค้ากลุ่ม Smart & Hygiene มีสัดส่วน 7-8% ในยอดขายของ COTTO และคาดว่าปีหน้าจะไต่ขึ้นไปถึงสัดส่วน 10% ได้ จากความต้องการผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“ลูกค้ากลุ่มรีโนเวตเติบโตในช่วงหลัง COVID-19 และห้องที่ลูกค้ามักจะรีโนเวตก่อนคือ ห้องทำงานหรือมุมทำงาน เพราะมีความจำเป็นต้องใช้ รองลงมาคือ ห้องน้ำ เพราะปรากฏว่ากลายเป็นจุดที่ต้องใช้กันทั้งบ้านและทั้งวัน เมื่ออยู่บ้านกันมากขึ้น” อนุวัตรกล่าว

คลิกชมคอลเล็กชัน Design Trend ห้องน้ำของ COTTO ได้ที่นี่