ในขณะที่จีนพยายามแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ประเทศก็เดินหน้าเพิ่มการนำเข้าถ่านหิน โดยครั้งนี้หันไปหาถ่านหินจาก ‘รัสเซีย’ แทน โดยปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า จากเดิมที่จีนเคยมี ‘ออสเตรเลีย’ เป็นคู่ค้ารายใหญ่สุด
ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ปัญหาวิกฤตพลังงานของจีนยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น จนส่งผลให้จำเป็นต้องตัดไฟโรงงานทั่วประเทศจีน โดยปัญหาด้านพลังงานดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลพยายามที่จะสร้างสมดุลระหว่างความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาดังกล่าวทำให้การนำเข้าถ่านหินของจีนในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 76% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคิดเป็น 32.9 ล้านตัน โดยข้อมูลศุลกากรแสดงให้เห็นว่า ถ่านหินส่วนใหญ่มาจากรัสเซียและอินโดนีเซีย ไม่ใช่ออสเตรเลีย จากที่ในปี 2019 จีนนำเข้าถ่านหินความร้อนประมาณ 38% ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าจากออสเตรเลีย
‘จีน’ ยืดเวลาขึ้นภาษี ‘ไวน์’ จากออสเตรเลีย 218% ไปอีก 5 ปี
ทั้งนี้ จีนนำเข้าถ่านหินความร้อนจากรัสเซียประมาณ 3.7 ล้านตันในเดือนกันยายน ตามข้อมูลศุลกากรที่เข้าถึงผ่าน Wind Information ซึ่งเพิ่มขึ้น 28% จากเดือนสิงหาคมและเพิ่มมากกว่า 230% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยรวมแล้วการนำเข้าถ่านหินความร้อนของจีนจากรัสเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่านับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับปี 2020 และถือว่าสูงกว่าระดับก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19 ในปี 2019
ในส่วนของประเทศอินโดนีเซีย จีนนำเข้าถ่านหินเทอร์มอลเป็นจำนวน 3 ล้านตันเมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่มขึ้น 19% จากเดือนสิงหาคม และเพิ่มขึ้น 89% จากเดือนกันยายน 2020 ข้อมูลศุลกากรเผย
อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียเคยเป็นแหล่งถ่านหินนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของจีน แต่ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นหลังจากออสเตรเลียสนับสนุนการสอบสวนว่ารัฐบาลจีนจัดการกับการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ดังนั้น แม้ว่าจีนจะมีความต้องการถ่านหินเพิ่มขึ้น แต่ข้อมูลของหน่วยงานศุลกากรแสดงให้เห็นว่าการนำเข้าถ่านหินเทอร์มอลจากออสเตรเลียยังคงเป็น ศูนย์
ไม่ง้อ! ‘ออสเตรเลีย’ ได้ ‘อินเดีย’ ตลาดส่งออกใหม่หลังถูก ‘จีน’ กีดกัน