ในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าระดับโลก สินค้าที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดคือเทคโนโลยีและอุปกรณ์สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่ประเทศเจ้าของเทคโนโลยีต้องทำตลาดทั้งระดับรัฐต่อรัฐ และระหว่างเอกชนกับเอกชน
เหมือนอย่างเมื่อครั้งที่ผู้แทนการค้าของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งตัวแทนของบริษัทเวสติ้งเฮาส์เข้าพบ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรีของไทย “เวสติ้ง” ได้แสดงความพร้อมจำหน่ายอุปกรณ์และเทคโนโลยีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ไทย หลังจากทำตลาดได้แล้วในจีน หรือกรณีในเวทีการประชุมอาเซียนที่นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และญี่ปุ่นพบกันก็ได้พูดถึงโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ร่วมกัน
มหาอำนาจทางพลังงานในด้านนิวเคลียร์ต่างมองเห็นโอกาสของธุรกิจนี้ในการส่งออกมายังประเทศที่กำลังพัฒนา เพราะเชื้อเพลิงที่ใช้เริ่มจำกัดไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกมีมากขึ้น
ประเทศที่เป็นต้นตำรับของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นต้องยกให้กับฝรั่งเศส ฟินแลนด์ และรัสเซีย
เพราะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาแล้วหลายทศวรรษ ในเอเชียมีญี่ปุ่น และที่กำลังมาแรงคือเกาหลีและ จีน
ขณะที่ประเทศในแถบเอเชียต่างมีแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยเฉพาะใกล้ไทยอย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จึงเป็นวาระแห่งชาติของทั้งประเทศมหาอำนาจ และประเทศที่พร้อมจับมือกับพี่ใหญ่ของโลก ด้วยเม็ดเงินมหาศาลในการก่อสร้างไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท