ยุคนายใหญ่คนใหม่ของ “อสมท” วางโรดแมปสู่ปี 2568 เป้าหมายเป็น “หุ้นยั่งยืน” ทำรายได้มั่นคง ยั่งยืน และเติบโต ยังยึดจุดเด่นคอนเทนต์ “ข่าว” ชูโรง เสริมด้วยคอนเทนต์บันเทิง พัฒนาทีมภายในพร้อมหาพาร์ตเนอร์เชิงกลยุทธ์จากภายนอก ต่อยอดสินทรัพย์ที่มีทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ให้สร้างรายได้สูงสุด ปั้นธุรกิจคอนเทนต์ดิจิทัล “The Trusted” และธุรกิจใหม่ สัดส่วนเพิ่มจาก 6% เป็น 22% ใน 3 ปี
2564 นับเป็นปีที่ “อสมท” เริ่มหายใจได้อีกครั้ง หลังขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 โดยผลการดำเนินการสามไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) มีกำไรแล้ว 100 ล้านบาท และน่าจะจบปีด้วยผลกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
อย่างไรก็ตาม ไส้ในของการทำกำไรปีนี้ไม่ได้เกิดจากบรรทัดบนที่เพิ่มขึ้น แต่มาจากการตัดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่สูงเกินหน้าเพื่อนร่วมอุตสาหกรรม โดยบริษัทมีการเปิดโครงการ “ร่วมใจจาก” มาตั้งแต่ปีก่อน จนพนักงานองค์กรลดลงจากเกือบ 1,400 คนเหลือ 970 คน ณ ขณะนี้
หลังผ่านปีของการตัดต้นทุน เมื่อ 3 เดือนก่อนบริษัทได้นายใหญ่คนใหม่มานั่งตำแหน่ง คือ “รศ.เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และลงมือวางโรดแมปและกลยุทธ์อย่างรวดเร็ว
“เข้ามาถึงผมเหมือนมาทำวิจัยโฟกัสกรุ๊ปอยู่ประมาณ 2 เดือน จึงพบว่าจุดแข็งของเราคือ ‘ข่าว’ จริงๆ” รศ.เกษมศานต์กล่าว “จุดแข็งของ อสมท คือ ‘สำนักข่าวไทย’ ซึ่งคนมองว่าเราค่อนข้างเป็นกลาง ดังนั้นเราควรจะทำตรงนี้ให้ชัดว่าเราเชื่อถือได้ อ้างอิงได้”
นั่นทำให้ปี 2565 ซึ่งจะเป็นปีครบรอบ 70 ปี อสมท จะมีธีมการดำเนินงานเป็น “The Year of Trusted News and Smart Entertainment” ปูทางไปสู่เป้าหมายปี 2568
อสมท 2568 เป้าหมายขึ้นแท่น “หุ้นยั่งยืน”
รศ.เกษมศานต์ประกาศวิสัยทัศน์ปี 2568 ของบริษัทว่า ต้องการให้บริษัทขึ้นแท่นเป็น “หุ้นยั่งยืน” นั่นหมายถึงต้องทำกำไรต่อเนื่อง 3 ปี เมื่อถอดสมการย้อนกลับแล้ว ทำให้ อสมท ต้องหาเครื่องยนต์ทำรายได้เพิ่มขึ้น
หลังจากปี 2564 เป็นปีแห่งการ ‘Survival’ เอาตัวรอดได้สำเร็จแล้ว ลดต้นทุนจนคาดว่าปีหน้าจะไม่มีโครงการเลย์ออฟพนักงานอีก
ปี 2565 จะเป็นปีแห่งการสร้างความมั่นคง ต้อง ‘Stable’ และปี 2566-67 จะต้องเป็นปีที่รายได้เดินต่อแบบยั่งยืนและเติบโต ‘Sustainable & Growth’
ยกเครื่องเดิม เติมเครื่องยนต์ใหม่
จากโรดแมปดังกล่าว กลยุทธ์จะทำอย่างไร? รศ.เกษมศานต์ และทีม อสมท “สุนทรียา วงศ์ศิริกุล” ซีเอฟโอ และ “ผาติยุทธ ใจสว่าง” ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักโทรทัศน์ ร่วมกางกลยุทธ์สำคัญๆ ที่จะใช้เพื่อยกเครื่องภายในและเติมเครื่องยนต์ใหม่ในการทำรายได้ ดังนี้
- Reskill-Upskill คนในองค์กร – หลังผ่านช่วงที่ภายในองค์กรมี ‘ความเนือยและนิ่ง’ มาพักใหญ่ อสมท จะส่งเสริมให้พนักงานเพิ่มทักษะใหม่ให้ทันสมัย เพิ่มความเร็วมากขึ้นในระดับที่ไม่ใช่แค่ ‘speed’ แต่เป็น ‘sprint’ เหมือนการวิ่ง 100 เมตรก่อนเข้าเส้นชัย
- จับมือพันธมิตรภายนอกในระดับกลยุทธ์ – เจรจาพันธมิตรที่จะมา ‘collab’ ร่วมกันคิดสร้างสรรค์คอนเทนต์ในช่อง โดยต้องการให้เป็นความร่วมมือระยะยาวและคิดร่วมกัน มากกว่าเป็นพาร์ตเนอร์เช่าออกอากาศเท่านั้น ขณะนี้มีการเจรจาแล้ว 2-3 ราย เพื่อจะทำให้องค์กรโตเร็วจากการใช้กลยุทธ์ outside-in
- ต่อยอดสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้เป็นธุรกิจใหม่ – สินทรัพย์ของ อสมท ที่ยังสามารถหาผลประโยชน์ (monetize) ยังมีอีกมาก ตัวอย่างเช่น
– แพลตฟอร์ม The Shot ซึ่งจะรวมภาพถ่ายและวิดีโอนับแสนรายการตลอด 70 ปีของ อสมท มาขายลิขสิทธิ์ใช้งาน (แบบเดียวกับ Shutterstock) ขณะนี้เปิดหน้าเว็บไซต์แล้ว แต่จะเสร็จสมบูรณ์ราวไตรมาส 1/65
– รายการชัวร์ก่อนแชร์ ที่ได้รับความเชื่อถือสูง สามารถต่อยอดเป็นหลักสูตรฝึกสอนการตรวจสอบข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต กลายเป็นกิจการเพื่อสังคมในมุมการศึกษาได้
– NFT (non-fungible token) กำลังตั้งทีมศึกษาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจนี้ คาดจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 1/65
- ทำรายได้ประจำจากสินทรัพย์จับต้องได้ – ที่ดินในมือ อสมท จำนวนมากทั่วประเทศ มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสร้างแผนแม่บทในการหารายได้ประจำจากการ “ปล่อยเช่า” โดยมีที่ดินทำเลดีที่คาดว่าจะปล่อยเช่าได้ในปี 2565-66 คือ ที่ดินย่านรัชดา-พระราม 9 ขนาด 50 ไร่, ที่ดินบริเวณบางไผ่ 60 ไร่ และที่ดินบริเวณหนองแขม 40 ไร่
- ผลิตคอนเทนต์ดิจิทัลโดยเฉพาะ – ที่ผ่านมาบริษัทมีการนำคอนเทนต์จากรายการต่างๆ ในสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ตัดต่อขึ้นโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, YouTube ซึ่งสร้างรายได้เติบโตดี แต่ปีหน้าจะได้เห็นสื่อใหม่จากฝีมือสถานี เช่น “The Trusted” เป็นการรวมทีมจากทั้งวิทยุ-โทรทัศน์มาผลิตรายการแบบเจาะกลุ่มผู้ชมบนออนไลน์โดยเฉพาะ เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียของ The Trusted เริ่มจากรายการแนวข่าวและสาระก่อน
- เสริมความบันเทิงในตลาดแมส – ในสถานีโทรทัศน์จะมีการเสริมคอนเทนต์บันเทิงให้เหมาะกับตลาดแมส จากเดิมมีจุดแข็งที่รายการการ์ตูน ขณะนี้มีพันธมิตรเป็นสตรีมมิ่ง ได้แก่ Monomax, WeTV, iQiyi ที่จะนำคอนเทนต์ลงฉาย และมีความร่วมมือผลิตซีรีส์ไทยลิขสิทธิ์ร่วมกัน ฉายในช่อง อสมท และนำไปหารายได้ผ่าน OTT ด้วย
คอนเทนต์ดิจิทัล-ธุรกิจใหม่ แรงขับสำคัญ
จากแผนกลยุทธ์ทั้งหมด สุนทรียา ซีเอฟโอองค์กร รายงานตัวเลขสัดส่วนรายได้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนในอนาคต จากปัจจุบัน อสมท มีแหล่งรายได้แบ่งสัดส่วนดังนี้
- ธุรกิจโทรทัศน์และธุรกิจข่าว 33%
- ธุรกิจให้บริการโครงข่ายวิศวกรรม 30%
- ธุรกิจวิทยุ 27%
- ธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่ 6%
ภายในปี 2567 ธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 22% โดยมีแรงขับสำคัญจากการให้เช่าที่ดินที่ทำให้รายได้โตเร็ว ประกอบกับธุรกิจดิจิทัลที่จะเติบโต รวมถึงธุรกิจ Shop Mania ที่เป็นทีวีช้อปปิ้ง
“มีคนถามว่าช่อง 9 เราจะรีแบรนด์ไหม แต่เราพบว่า เราไม่ต้องเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ แต่เราต้องทำให้แบรนด์สดชื่นขึ้นใหม่” รศ.เกษมศานต์กล่าว