“ชินวัตร” ขอเกิดใหม่ เป็น “อินทัช”

แบรนด์ในความรู้สึกของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ หากแบรนด์ชื่อเสีย วิธีการแก้ไขหนึ่งคือการเปลี่ยนชื่อหรือปรับภาพลักษณ์ หากภาพลักษณ์ปรับยาก เปลี่ยนชื่อเรียกไปเลยอาจง่ายกว่า อย่างที่บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เลือกเปลี่ยนให้คนเรียกชื่อองค์กรใหม่เป็น INTOUCH

ความพยายามเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ”เทมาเส็ก” สิงคโปร์ ที่วิเคราะห์แบบ SWOT Analysis แล้วพบว่า แม้ชินคอร์ปจะมีจุดแข็งเรื่องฐานะการเงิน แต่มีจุดอ่อนที่สำคัญคือชื่อที่ย่อมาจาก ”ชินวัตร” เพราะเป็นนามสกุลของอดีตผู้ก่อตั้งบริษัท ”ทักษิณ ชินวัตร” ที่หันมาเล่นการเมือง เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีประเด็นขัดแย้งทางการเมืองและสังคม จนโยงมาสู่ภาพที่ตกต่ำสุดขององค์กรเมื่อเกิดเหตุการณ์เผาเมืองเมื่อเดือนพฤษภาคม 2553

ผู้บริหารชินคอร์ปได้พบกับผู้แทนของ ”อินเตอร์แบรนด์” เอเยนซี่โฆษณาและการสร้างแบรนด์จากอังกฤษที่เทมาเส็กจ้างมาเป็นที่ปรึกษาในการสร้างแบรนด์องค์กรใหม่ตั้งแต่ปลายปี 2553 เพื่อตอบคำถามความเห็นที่มีต่อองค์กร จน ”อินเตอร์แบรนด์” ได้ข้อสรุปและเสนอชื่อมาให้เลือก และ “INTOUCH” เป็นชื่อที่ถูกโหวตจากผู้บริหารกลุ่มชินคอร์ปมากที่สุด ส่วนชื่ออื่นๆ ที่ได้คะแนนรองลงมา เช่น Unity และ Connect

แม้เทมาเส็กจะอยากเปลี่ยนชื่อบริษัททันที เหมือนที่เคยเปลี่ยนชื่อบริษัทจากชินแซทเทลไลท์ มาเป็นบริษัทไทยคม แต่สำหรับชินคอร์ปไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะการเปลี่ยนชื่อบริษัทโดยทันทีจะยิ่งถูกวิพาษก์วิจารณ์หนักขึ้นว่าต้องการหลีกหนีภาพที่โยงจากการเมือง

การเปลี่ยนแปลงจึงเป็นไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยวันที่ 1 เมษายน 2554 ชินคอร์ปเริ่มสื่อสารกับสาธารณชนว่าได้เปลี่ยนโลโก้จากรูปโลกเป็นลายเส้นร้อยยิ้มที่สื่อถึงการสื่อสาร และมีตัวอักษรกำกับว่า INTOUCH และเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นว่า INTUCH (ไม่มีO เพื่อให้ไม่เกิน 6 ตัวอักษร เพื่อจดจำง่ายและเมื่อมีการซื้อขายวอแรนท์เติม w- ก็จะครบ 8ตัวอักษรตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์) ส่วน Tagline คือ ”เชื่อมคุณสู่โลกอนาคต” หรือ In Tune with your world จากเดิมที่เคยใช้ว่า ”สื่อสารกันได้…ใต้ฟ้าเดียวกัน”

นอกจากนี้แม้ชื่อบริษัทยังไม่เปลี่ยน แต่นามบัตรและอีเมลของพนักงานก็ได้เปลี่ยนทั้งหมดจาก @Shin.co.th มาเป็น @intouchcompany.com แล้วทั้งหมด หลังจากนี้ยังจะเห็นโลโก้เอไอเอสใหม่ที่ใช้โลโก้เดียวกับชินคอร์ปที่เป็นรูปโลก และถูกปรับมาใช้โลโก้รูปยิ้มด้วยเช่นกัน

นับเป็นฝันร้ายมานานกว่า 5 ปีแล้ว ที่ชินคอร์ปอยู่ในกระแสการเมืองเชิงลบ ทั้งที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นสิงคโปร์แล้วก็ตาม แม้การเปลี่ยนเรียกชื่อใหม่เป็น ”อินทัช” ชื่อ ”ชินวัตร” จะไม่ถูกลืมทันที แต่การเริ่มในวันนี้สำหรับ ”เทมาเส็ก” ก็คงดีกว่าปล่อยให้ชื่อนี้เป็นจุดอ่อนตลอดไป