4 รูปแบบ “ออฟฟิศ” ในยุคการทำงานแบบ “ไฮบริด” ที่เราจะได้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ

(Photo : Shutterstock)
“ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ” มองภาพอนาคตอันใกล้ของ “ออฟฟิศ” ในโลกยุคหลัง COVID-19 ที่คนจะทำงานแบบ “ไฮบริด” มากขึ้น ทำให้การดีไซน์ออฟฟิศและการร่วมงานกันเปลี่ยนแปลงไปเป็น 4 รูปแบบเหล่านี้

ดร.ภัณณิน สุมนะเศรษฐกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านการคาดการณ์อนาคต ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ ในเครือ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวในงานสัมมนา “Present (?) Perfect (?) Continuous (?)” จัดโดย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้

หัวข้อหนึ่งที่ ดร.ภัณณินกล่าวถึงและน่าสนใจ คือการจัดการ “ออฟฟิศ” รูปแบบใหม่หลังผ่านโรคระบาด COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา การระบาดของโรคบีบให้การทำงานต้องจัดเป็นแบบออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานออนไลน์ 100% หรือแบบ “ไฮบริด” มีทั้งออนไซต์และออนไลน์ เพื่อให้คนพบปะกันให้น้อยที่สุด

ถึงแม้ว่าโรคระบาดจะคลี่คลายลงแล้ว แต่บริษัท 51% พบว่าการทำงานแบบออนไลน์หรือไฮบริดในช่วงก่อนนี้ ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของงานลง ซึ่งทำให้เป็นไปได้ว่าหลายบริษัทจะเปลี่ยนมาทำงานแบบออนไลน์หรือไฮบริดถาวร

ข้อมูลที่ดร.ภัณณินรวบรวมจาก การ์ทเนอร์ และ Boston Consulting Group สรุปข้อมูลรูปแบบ “ออฟฟิศ” ยุคใหม่เป็น 4 แบบ ที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ดังนี้

1.Clubhouse
(Photo: Shutterstock)

รูปแบบออฟฟิศสำหรับการทำงานแบบไฮบริด พนักงานสามารถไปที่ออฟฟิศเฉพาะเมื่อต้องการการทำงานร่วมกันเป็นทีม ส่วนงานที่ทำคนเดียวได้สามารถอยู่ทำได้ที่บ้าน

ทำให้ออฟฟิศจะออกแบบใหม่ให้เป็นเหมือน ‘social hub’ เน้นส่งเสริมการทำงานเป็นทีม พูดคุย สานสัมพันธ์กัน แต่ละออฟฟิศมีความเป็นตัวเองสูงขึ้น เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกหรือฟังก์ชันจะแสดงออกถึงวัฒนธรรมขององค์กร

2.Activity-based Working

รูปแบบออฟฟิศที่ยังเน้นคนทำงานแบบเข้าออฟฟิศเป็นส่วนมาก แต่จะจัดออฟฟิศสมัยใหม่คือไม่มีที่นั่งตายตัว ทุกที่นั่งเป็น hot-desk นั่งตรงไหนก็ได้ และแยกโซนตามกิจกรรมที่ต้องทำในออฟฟิศ เช่น โซนที่นั่งทำงาน โซนห้องคุยโทรศัพท์ โซนห้องประชุม โซนนั่งเล่นพักผ่อน

การดีไซน์แบบนี้จะทำให้ออฟฟิศลดพื้นที่โต๊ะทำงานลง พนักงาน 10 คนอาจจะมีโต๊ะเพียงแค่ 5 ตัวก็พอ (เพราะระหว่างนั้นพนักงานคนอื่นก็หมุนเวียนไปอยู่ในจุดอื่น เช่น ห้องประชุม) ทำให้ต้นทุนการเช่าลดลง

3.Hub and Spoke
(Photo: Shutterstock)

คนตั้งคำถามมากที่สุดเกี่ยวกับ “ทำเล” ของออฟฟิศยุคใหม่ว่ายังจำเป็นไหมที่ออฟฟิศควรตั้งอยู่กลางซีบีดี ซึ่งแนวคิด ณ ตอนนี้มองว่าอาจจะยังมีอยู่บ้างเพราะคนรุ่นใหม่ก็ยังต้องการไปพื้นที่กลางเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีแหล่งแฮงเอาต์ไว้ไปต่อกับเพื่อนๆ แต่ไม่จำเป็นต้องไปทุกวันเพราะทำงานออนไลน์ได้แล้ว

ทำให้เกิดแนวคิดการกระจายออฟฟิศไว้หลายจุด มีออฟฟิศเล็กๆ ตามชานเมืองคู่กับออฟฟิศกลางเมืองด้วย ไว้สำหรับการนัดประชุมแบบเจอหน้ากันที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปถึงกลางเมือง

4.Fully Virtual

รูปแบบนี้คือการทำงานแบบออนไลน์ 100% พนักงานทุกคนทำงานจากบ้านได้ ไม่มีออฟฟิศถาวร ซึ่งทำให้บริษัทลดต้นทุนค่าเช่าออฟฟิศได้ทั้งหมด

บริษัทแต่ละแห่งมีวัฒนธรรมและวิธีทำงานที่เหมาะกับรูปแบบออฟฟิศแต่ละแบบแตกต่างกันไป รวมถึงการเลือกแบบออฟฟิศก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันด้วย

ตัวอย่างเช่น ข้อมูลจาก Beaux-Arts Group บริษัทสถาปนิกจากแทมปา ฟลอริดา พูดถึงการออกแบบสไตล์ Clubhouse ว่า ข้อดีคือทำให้ออฟฟิศมักจะเป็นแบบ open-plan เปิดโล่งสว่างไสว ทำให้พนักงานรู้สึกดี และทำให้เกิดการร่วมมือกันทำงาน ลดความต่างด้านยศตำแหน่งได้จริง แต่ข้อเสียคือกลายเป็นว่าประสิทธิภาพการทำงานลดลง 15-28% และการพูดคุยแบบตัวต่อตัวยากขึ้นจนต้องคุยผ่านอีเมลแทน

รูปแบบออฟฟิศสมัยใหม่จะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ต้องจับตามองจากนี้!