โตโยต้า (Toyota) หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่ สุดของโลก แต่ในแง่ของรถยนต์ไฟฟ้านั้น ยอดขายส่วนใหญ่ของบริษั ทมาจากรถยนต์ไฮบริดเป็นหลัก ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ แบตเตอรี่อย่างเดียวทำยอดขายได้ เพียงเศษเสี้ยวของยอดขายในปัจจุ บัน
ในที่สุด ‘โตโยต้า’ ก็พยายามรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว โดยกำลังวางแผนที่จะลงทุน 4 ล้านล้านเยน (3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่จำนวน 30 รุ่นภายในปี 2573 นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ทั่วโลก 3.5 ล้านคันต่อปีภายในสิ้นทศวรรษนี้
โดยโตโยต้า จะเพิ่มการลงทุนใหม่ในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่อีก 5 แสนล้านเยน (4.4 พันล้านดอลลาร์) รวมเป็น 2 ล้านล้านเยน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการใช้งบลงทุน 4 ล้านล้านเยนที่จะรวมทั้งรายจ่ายฝ่ายทุน ตลอดจนการวิจัยและพัฒนา รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ ทั้งไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งใช้ไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงาน
“ในยุคที่มีความหลากหลายและไม่อยู่ในกฎนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเปลี่ยนประเภทและปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้อย่างยืดหยุ่น ขณะเดียวกันก็จับตาดูแนวโน้มของตลาด เราเชื่อว่าการปรับตัวอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตมีความสำคัญมากกว่าการพยายามทำนายอนาคต ซึ่งไม่มีอะไรนอกจากความไม่แน่นอน เราต้องการให้ลูกค้ามีตัวเลือกต่างๆ จนกว่าจะรู้เส้นทางที่ถูกต้อง” อากิโอะ โทโยดะ ซีอีโอ กล่าว
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันของโตโยต้าส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ร่วมกัน ส่วนยอดขายรถ EV แบบใช้แบตเตอรี่เท่านั้นมีเพียงเศษเสี้ยวของยอดขายปัจจุบัน สำหรับแบรนด์หรูอย่าง Lexus โตโยต้าตั้งเป้าที่จะให้รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่คิดเป็น 100% ของยอดขายรถยนต์ในยุโรป อเมริกาเหนือ และจีน ภายในปี 2573 และทั่วโลกภายในปี 2578
แม้จะเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกรุ่นไฮบริด แต่โตโยต้าค่อนข้างช้าในการผลักดันไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% เมื่อเทียบกับคู่แข่งทั่วโลก เช่น General Motors และ ฟอร์ด และเมื่อเดือนที่ผ่านมา คู่แข่งอย่าง Nissan ประกาศว่า จะลงทุน 2 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.76 หมื่นล้านดอลลาร์) ในอีก 5 ปีข้างหน้าเพื่อเร่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 23 รุ่นภายในปี 2573 โดย 15 รุ่นจะเป็นระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ