รู้จัก ‘กฎ 20%’ ของ ‘Google’ กับการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อชิงความได้เปรียบในระยะยาว

คนส่วนใหญ่ใช้เวลาทุกวินาทีของวันทำงานเพื่อพยายามทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลา รวมถึงต้องเข้าร่วมการประชุม ตอบกลับอีเมล ฯลฯ ซึ่งแค่นั้นก็ทำให้หัวยุ่งจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว และด้วยการทำงานแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ยากต่อการจัดเวลาไปเรียนรู้สิ่งที่เราสนใจหรือรู้ทักษะใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญให้ได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว ดังนั้น ไปรู้จักกับ “กฎเวลา 20% ของ Google” กัน ว่าจะช่วยให้พนักงานพัฒนาทักษาของตัวเองได้อย่างไร

จริง ๆ แล้วกฎเวลา 20% ของ Google เคยถูกเผยแพร่สู่สาธารณะตั้งแต่ปี 2547 โดยกฎดังกล่าวเกิดขึ้นจาก ‘เซอร์เกย์ บริน’ และ ‘แลร์รี เพจ’ สองผู้ก่อตั้งของ Google โดยทั้งคู่ได้อธิบายว่า กฎ 20% คือการสนับสนุนให้พนักงานใช้เวลา 20% ของการทำงานไปลองทำโปรเจกต์ใหม่ ๆ ซึ่งจะช่วยให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ โดยทั้งคู่ระบุว่า ความก้าวหน้าหลาย ๆ อย่างของ Google ไม่ว่าจะเป็น AdSense และ Google News ก็เกิดจากกฎ 20% นี้

ดังนั้น ไปดู 5 ข้อ ของ ‘กฎ 20%’ ว่าต้องทำอย่างไรเผื่อใครจะลองเอาไปปรับใช้ในชีวิตการทำงานในยุคที่ยิ่งมีทักษะที่มากก็ยิ่งได้มีความได้เปรียบในการแข่งขัน

1. ระบุสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ให้ชัดเจน

สิ่งสำคัญในที่นี้คือ ต้องเจาะจงให้มากที่สุดเกี่ยวกับทักษะที่เราต้องการสร้าง ดังนั้น แทนที่จะเรียน 10 หลักสูตรใน 10 หัวข้อ แต่ให้เลือกมาแค่ ‘ข้อเดียว’ เพื่อพัฒนาจนเชี่ยวชาญ เมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง นั่นจะยิ่งกระตุ้นให้ทำต่อไป ซึ่งในอนาคตทักษะนั้น ๆ จะยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเอง การทำงาน รวมถึงรายได้เสริม

2. ชนะแม้ว่าจะแพ้

นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าเวลา 20% ของเราจะไม่สูญเปล่า ดังนั้น เราต้องคิดว่า ผลลัพธ์ขั้นต่ำสุด ที่จะได้จากการใช้เวลา 20% นี้ในการพัฒนาทักษะตัวเอง เช่น การพัฒนาดังกล่าวช่วยให้สามารถกล้าพูดในที่สาธารณะได้ดีขึ้น แม้อาจจะยังทำได้ไม่ดีเต็ม 100% แต่อย่างน้อยการพัฒนาดังกล่าวช่วยให้เราสามารถสื่อสารได้ดีมากขึ้น เป็นต้น

3. ยืดหยุ่นแต่มุ่งมั่น

การมีวินัยเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งเราก็จำเป็นต้องปรับกฎเกณฑ์และยืดหยุ่น เพราะหากเจอเหตุฉุกเฉินไม่ว่าจะเป็นงานด่วน, การประชุม หรือลูกค้าฉุกเฉิน ตารางงานแบบกะทันหันอาจทำให้เราไม่สามารถจัดเวลา 20% ไว้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้ แต่ไม่เป็นไร ตราบใดที่เราพยายามหาเวลาใหม่และรักษาความมุ่งมั่นนั้นไว้ เพราะประเด็นไม่ใช่ว่าต้องทำ 20% ตามกำหนดเวลาเป๊ะ ๆ แต่ต้องสม่ำเสมอ

4. หาวิธีที่จะทำให้สนุก

การเจียดเวลา 20% เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ว่ายากแล้ว แต่การจะรักษากำลังใจและความมุ่งมั่นนั้นยากยิ่งกว่า หากแค่เราเพียงทำมันด้วยตารางการฝึกที่เข้มงวด เราอาจจะเริ่มเบื่อและไม่อยากทำมัน จากนั้นก็จะหงุดหงิดและล้มเลิกไป ดังนั้น เราต้องสนุกไปกับมัน ซึ่งมีหลายวิธีมากที่จะทำให้เวลา 20% สนุกขึ้น เช่น การฟัง Podcast ขณะเดินเล่น, การพัฒนาทักษะร่วมกับเพื่อน เป็นต้น

5. ลงทุนระยะยาว

เช่นเดียวกับการลงทุนในอะไรสักอย่าง เมื่อเราลงทุนเวลาในโครงการ 20% ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ได้มาแบบก้าวกระโดด แต่จะเป็นเหมือน ดอกเบี้ย ที่อาจจะดูเหมือนเล็กน้อยและไร้ความหมายในตอนแรก แต่มันจะช่วยให้คุณสร้างระยะห่างมหาศาลระหว่างคุณกับคู่แข่งได้ในระยะยาว

เชื่อว่าหลายคนคงอยากเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ ในปีใหม่ ซึ่งใครยังไม่เริ่มตอนนี้ก็เหลือเวลาอีก 11 เดือนถึงจะหมดปี ดังนั้น คิดอะไรไว้ก็รีบลงมือทำเชื่อว่าการเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ ไม่มีคำว่าสายไป และแม้ว่าผลลัพธ์ของกฎเวลา 20% อาจไม่ได้เห็นอย่างรวดเร็วบางทีอาจใช้เวลาเป็น 10 ปี แต่อย่างน้อยผลสำเร็จเล็ก ๆ ก็อาจจะทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้นในอนาคตหรือสามารถต่อยอดไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้

Source