‘NetEase’ ค่ายเกมเบอร์ 2 จีนเปิดตัวสตูดิโอเกมใหม่ในญี่ปุ่นเสริมแกร่งตลาด ‘คอนโซล’

หลายคนน่าจะรู้กันดีว่าอุตสาหกรรม ‘เกม’ นั้นใหญ่และมีการเติบโตสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ทั่วโลกเจอการระบาดของ COVID-19 โดยข้อมูลจาก Newzoo มีระบุว่าในปี 2020 อุตสาหกรรมเกมมีทั่วโลกสามารถสร้างรายได้สูงถึง 1.8 แสนล้านดอลลาร์ และคาดว่าภายในปี 2023 จะมีมูลค่าถึง 2 แสนล้านดอลลาร์

NetEase บริษัทเกมอันดับ 2 ของจีน คู่แข่ง Tencent เจ้าของเกมดังอย่าง Onmyoji ล่าสุดได้เปิดสตูดิโอเกมอีกแห่งในโตเกียวประเทศญี่ปุ่นชื่อ Nagoshi Studio หลังจากที่ปี 2020 เคยเปิดตัวค่าย Sakura Studio เนื่องจากบริษัทต้องการขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดย NetEase ได้ Toshihiro Nagoshi อดีตผู้สร้างซีรีส์เกม ‘ยากูซ่า’ ของสตูดิโอ Sega มาดูแลสตูดิโอ โดยทาง NetEase ระบุว่าสตูดิโอดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา เกมคอนโซลคุณภาพสูง เพื่อวางจำหน่ายทั่วโลก

NetEase ตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากทั่วโลกเป็น 50% จากเดิมมีสัดส่วนเพียง 10% ส่วนที่เหลือมาจากตลาดจีน” Hu Zhipeng รองประธาน NetEase กล่าว

รู้จัก ‘NetEase’ คู่แข่งคนสำคัญของ ‘Tencent’ เตรียมเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง ลุยเกม Console เต็มตัว

ก่อนหน้านี้ช่วงเดือนตุลาคม 2021 ทาง NetEase ก็เพิ่งซื้อสตูดิโอ Grasshopper Manufacture ของนักสร้างเกมคนดัง “ซุดะ โกอิจิ” (Suda51) มาอยู่ใต้สังกัดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การรุกตลาดต่างประเทศของ NetEase นั้นยังน้อยกว่าคู่แข่งอย่าง Tencent ที่ได้เข้าซื้อกิจการและการลงทุนในบริษัทเกมขนาดเล็กหลายแห่ง ส่วน NetEase นอกจากจะตั้งสตูดิโอใหม่ก็มีแค่เข้าถือหุ้นเล็กน้อยในบริษัทอื่นเท่านั้น

 

หลายคนอาจไม่รู้ว่า ประเทศจีนเคยแบนเกมคอนโซลยาวจนถึงปี 2014 เป็นเวลาเกือบ 14 ปีที่จีนไม่ได้เล่นเกมคอนโซล ส่งผลให้ตลาดเกมคอนโซลในจีนมีขนาดเล็กลงมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่บริษัทเกมของจีนอย่าง NetEase และ Tencent ให้ความสำคัญกับการเล่นเกมบนพีซีและมือถือซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม ในต่างประเทศนั้นเกมคอนโซลค่อนข้างเป็นที่นิยม ทำให้ค่ายเกมจากจีนเริ่มหันมาผลิตเกมคอนโซลเพื่อดึงดูดเกมเมอร์นอกประเทศ ทั้งนี้ เกมคอนโซลคิดเป็นเกือบ 28% ของรายรับจากตลาดเกมทั่วโลก 1.8 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ตามรายงานของบริษัทวิจัยตลาด Newzoo

นอกจากนี้ หลายคนยังมองว่าการที่ค่ายเกมจากจีนเริ่มหันมาทำตลาดโลกมากขึ้นเป็นเพราะนโยบายของรัฐบาลจีนที่เข้ามาควบคุมตลาดเกมมากขึ้นเพื่อไม่ให้เยาวชนถูกมอมเมาจนเป็นเหตุให้ค่ายจีนรายย่อยต้องปิดตัวลงจำนวนมาก

บริษัท ‘เกม’ จีนตายนับหมื่น เหตุขายเกมไม่ได้ เพราะรัฐบาล ‘ไม่อนุมัติเกมใหม่’ ลงตลาด