ผลกำไรของ Sony (โซนี่) ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. เพิ่มขึ้น 32% จากยอดขายที่ดีจากแผนกภาพยนตร์ ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ ‘Spider-Man : No Way Home’ โดยปัจจุบันกวาดรายได้ทั่วโลกถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ฝั่งของ ‘เกม’ กลับมียอดขายต่ำกว่าที่คาด เนื่องจากข้อจำกัดของซัพพลายในการผลิต ‘Ps5’
Sony เผยถึงผลกำไรในไตรมาสที่สามของปีงบประมาณ (ต.ค.-ธ.ค.) ว่าแตะที่ 4.652 แสนล้านเยน (4.05 พันล้านดอลลาร์) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 3.516 แสนล้านเยน และเพิ่มขึ้นจาก 3.1 แสนล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมา จากรายได้รวมทั้งหมด 3 ล้านล้านเยน (2.6 หมื่นล้านดอลลาร์) เติบโต +13% จาก 2.7 ล้านล้านเยนในปีที่ผ่านมา
Sony กล่าวว่า ด้วยยอดขายจากอัลบั้ม “30” ของ Adele รายได้จากภาพยนตร์ โดยเฉพาะ “Spider-Man: No Way Home” และรายได้จากลิขสิทธิ์ซีรีส์ “Seinfeld” ช่วยเพิ่มรายได้ในส่วนนี้ โดยคาดว่าทั้งปีจะมีรายได้ 7.6 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +13% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ฝั่งของกล้องและเซ็นเซอร์ยังคงมีรายได้ที่มั่นคง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ วิดีโอเกม กลับมียอดขายลดลงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากปัญหาอุปทานชิ้นส่วน โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ที่ทำให้ยอดขายเครื่อง PlayStation5 ลดลง แต่จากการที่ Sony พึ่งซื้อสตูดิโอเกม Bungie เจ้าของเกม Halo และ Destiny ด้วยมูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในธุรกิจเกม
ทั้งนี้ Sony คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานทั้งปีจะเพิ่มขึ้น +26% เป็น 1.2 ล้านล้านเยน จากที่เคยคาดว่าจะเติบโต +9% มีกำไรสุทธิ 1.04 ล้านล้านเยน สูงกว่าค่าเฉลี่ยจากผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ในโพลล์ของ Refinitiv ที่คาดว่าจะอยู่มีกำไร 1.09 ล้านล้านเยน