ก้าวต่อไปของ ‘Rabbit Care’ โบรกเกอร์ประกันออนไลน์ หลังรีเเบรนด์ครั้งใหญ่จาก ‘Rabbit Finance’ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัลให้หลากหลายมากขึ้น พร้อมรุกประกันสุขภาพ ตั้งเป้าหมายเพิ่มมาร์เก็ตเเชร์เป็น 5-10% ให้ได้ภายใน 5-10 ปี เล็งบุกเวียดนาม-อินโดฯ
เเม้จะเจอความท้าทายจากวิกฤตโควิด เเต่ดูเหมือนว่าธุรกิจแพลตฟอร์มนายหน้าประกันภัย จะได้รับอานิสงส์ที่ดีจากการที่ลูกค้าเริ่มเห็นความสำคัญในการซื้อประกันมากขึ้น
ในปี 2564 ที่ผ่านมา Rabbit Care มีเบี้ยประกันภัยเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 700 ล้านบาทในปี 2563 เป็น 1.9 พันล้านบาทในปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 166% เป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันภัยที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ขยายทีมงาน 300 คนสู่ 700 คนในปัจจุบัน
โดยประกันภัยรถยนต์ของบริษัท มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 212% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนหนึ่งมาจากการเข้าซื้อกิจการของโบรกเกอร์ ‘Asia Direct’ ขณะที่กลุ่มประกันสุขภาพ เติบโตขึ้น 261% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมถึงด้านประกันภัยองค์กรที่เติบโต 63%
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ผู้ถือหุ้นรายใหม่ผ่านรอบการลงทุน Series B ได้แก่ Samsung Ventures และ Korea Investment Partners
รีเเบรนด์ให้เข้าถึงง่าย
Rabbit Finance (แรบบิท ไฟแนนซ์) เริ่มรีแบรนด์ดิ้งปรับภาพลักษณ์ใหม่เป็น Rabbit Care (แรบบิท แคร์) ตั้งเเต่ช่วงเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา
ไมเคิล มันเฟรด สไตลเบิล ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด เล่าว่า นับเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ผู้คนได้รู้จักเเบรนด์มากขึ้น ให้มากกว่าการเป็นมาร์เก็ตเพลสของผลิตภัณฑ์ประกัน ซึ่งได้ร่วมมือกับเอเยนซี่เจ้าใหญ่อย่าง ‘โอกิลวี่’ เพื่อสื่อสารเเบรนด์ในรูปแบบใหม่
โดยจะมุ่งเน้นไปยังการให้ ‘คำปรึกษา’ เเละนำเสนอโซลูชันการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ประกันและการเงินอย่างโปร่งใส ในขณะเดียวกันยังแสดงออกถึงความใส่ใจทุกความต้องการของลูกค้า
ในส่วนของการออกเเบบโลโก้ใหม่นั้นที่เป็น ‘รูปหัวใจ’ นั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากหูของมาสคอตกระต่าย รวมถึงการเปลี่ยนสีประจำองค์กรให้เป็น “Caring Blue” ที่สื่อถึงความสงบ และดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ตลอดจนการเปลี่ยนสโลแกนของแบรนด์เป็น “ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ” หรือ “Complete Care” ควบคู่ไปกับการนำเสนอมาสคอต “น้องแคร์” ในฐานะผู้จัดการความแคร์ สื่อให้เห็นถึงการดูแลและสนับสนุนลูกค้า
“เราอยากจะเป็นทางเลือกเเรกที่ให้คอยคำปรึกษา เมื่อผู้คนคิดจะซื้อประกันหรือผลิตภัณฑ์การเงินใดๆ สร้างความรู้เเละความเข้าใจ ให้สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ในราคาที่ดีที่สุด”
เป้าปี 65 เบี้ยประกันภัย 3 พันล้าน เล็งขยายอาเซียน
สำหรับภาพรวมของตลาดประกันภัยทั่วโลก และในประเทศไทย ปี 2565 คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวจากโควิด-19
โดยตลาดประกันภัยในไทย อยู่ในระดับที่ยังสามารถดำเนินการได้ดีเเละมีโอกาสขยายตัวได้สูง เนื่องจากสัดส่วนเบี้ยประกันรวมยังอยู่ที่ 5.3% ของ GDP ถือว่าต่ำกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อย่าง ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ เเละสิงคโปร์ ซึ่งมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 20.8%, 17.4% , 11.6% เเละ 9.5% ของ GDP ตามลำดับ
แนวโน้มของตลาดในเชิงบวกนี้ สอดคล้องไปกับแนวโน้มพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Rabbit Care คาดว่าการเติบโตของบริษัทในปีนี้ จะเเตะตัวเลข 2 หลัก ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยเติบโตเเตะ 3 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) เบี้ยประกันวินาศภัยในระดับ 5-10% ในช่วง 10 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันครองมาร์เก็ตแชร์เพียง 1% เพราะยังเป็นบริษัทขนาดเล็กที่มีโอกาสเติบโตต่อไป
นอกจากนี้ ภายใน 18 เดือนข้างหน้า Rabbit Care มีเเผนจะขยายธุรกิจออกไปยังอาเซียนอย่างเวียดนามและอินโดนีเซียด้วย
โดยในช่วงนี้จะมุ่งโฟกัสไปที่การสร้างเเพลตฟอร์มประกันเเละการเงินที่ครบวงจรให้เเข็งเกร่งก่อน ยังไม่ได้มองข้ามสเต็ปว่าจะขยายไปยังธุรกิจอื่น
พัฒนาระบบ ‘CareOS’ ช่วยลูกค้า ‘เปรียบเทียบ’ ได้ง่าย
กลุ่มลูกค้าหลัก Rabbit Care ส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงาน อายุ 30-50 ปีมีกำลังซื้ออาศัยในเมืองเเละเเถบชานเมืองซึ่งมักจะเป็นคนดูเเลการซื้อประกันให้คนในครอบครัว โดยบริษัทมีเเผนจะขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่เเละคนต่างจังหวัด
โจฮันเนส ฟริดริค วอน โรห์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์ธุรกิจในปีนี้ ว่าจะเน้นตลาดออนไลน์ โดยได้พัฒนาระบบ ‘CareOS’ ด้วยงบประมาณหลายสิบล้านบาท เพื่อเสนอดีลประกันภัยในราคาที่ดีที่สุดภายในเวลาไม่ภายใน 30 วินาที เชื่อมต่ออัตโนมัติกับระบบของพันธมิตรกว่า 70 รายเเละพร้อมมองหาพันธมิตรใหม่ๆ
ช่วยให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบและซื้อประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้สะดวกสบาย ตรงกับความต้องการแบบเฉพาะบุคคลและประหยัดเวลา
นอกจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่กว่า 300 คนให้คำปรึกษาผ่านการโทรและแชท ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Care Emergency บริการช่วยเหลือเร่งด่วนสำหรับผู้ซื้อประกันรถยนต์ เเละ Health Caresultant บริการรับคำปรึกษาจากแพทย์สำหรับลูกค้าประกันสุขภาพ
Rabbit Care เตรียมจะขยายข้อเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มการ ‘ประกันภัยรถยนต์’ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ตลอดจนการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพในราคาที่เข้าถึงได้ เเละวางแผนที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีความคุ้มครองทันทีภายในปีนี้
“พอร์ตการเติบโตหลักของเราในปีนี้ จะมาจากธุรกิจประกัยรถยนต์ ตามมาด้วยประกันสุขภาพและประกันชีวิต”
สำหรับการความท้าทายเเละการเเข่งขันในตลาด ผู้บริหาร Rabbit Care ยอมรับว่ามีการเเข่งขันสูงมากจึงต้องสร้างความเเตกต่างให้ได้เเละทำงานให้มีประสิทธิภาพ ทั้งการนำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วนชัดเจนโปร่งใส ง่ายต่อการเปรียบเทียบ นำมาสู่การเเข่งขันด้านราคา บริการเเละคุณค่าที่ให้กับลูกค้า โดยเร็วๆ นี้จะเปิดตัวโปรดักต์ใหม่มาลองตลาดด้วย
เร่งโปรโมตเเบบ 360 องศา
ขณะที่ ชยพัทธ์ สกุลร่มโพธิ์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเชิงพาณิชย์ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์การตลาดของ Rabbit Care ว่า จะมีการสื่อสารเเบบแบบครบวงจรบนแพลตฟอร์ม ‘ออมนิแชแนล’ ทั้งก่อนซื้อเเละดูเเลหลังการขายนำเสนอโปรโมชันต่างๆ ที่ดึงดูดใจ
อย่างในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ต้องทำให้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการเงินเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จึงได้จัดโปรโมชันด้วยข้อเสนอสุดคุ้ม ให้ลูกค้าได้ประหยัดสูงสุด 70% และ “ซื้อเลยจ่ายทีหลัง” กับโปรโมชัน ผ่อน 0% นาน 10 เดือนเป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาครั้งแรก ซึ่งจะโปรโมตผ่านทางทีวี สื่อนอกบ้าน ทางวิทยุ และออนไลน์ โดยเนื้อเรื่องจะเป็นการยกตำแหน่งให้บุคคลที่คอยทำหน้าที่จัดการเรื่องการประกันภัยและการเงินให้คนในครอบครัว เป็นเหมือน Chief Family Officer หรือ CFO
สำหรับเเนวโน้มการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจประกันในไทย เขามองว่า จากนี้จะมีการเปลี่ยนเเปลงพอสมควร หลังเจอกรณี ‘เจอ จ่าย จบ’ โดยเทรนด์ของธุรกิจประกันจะเน้นไปที่การรุกตลาดเรื่องรักษาพยาบาลมากขึ้น เเละประกันสุขภาพจะเป็นตัวชูโรงในตลาดไทย
- ‘เครือไทย โฮลดิ้งส์’ แจ้งเลิกกิจการ ‘อาคเนย์ประกันภัย’ หลังจ่ายสินไหมโควิด 9,900 ล้าน
- FWD กับ ‘เดวิด โครูนิช’ ซีอีโอสไตล์ Young At Heart เปลี่ยนภาพประกันชีวิตให้ ‘สนุก’