Fitch เเละ Moody’s หั่นเครดิต ‘รัสเซีย’ สู่อันดับ ‘ขยะ’ ความน่าเชื่อถือติดลบ ไม่น่าลงทุน

Photo : Shutterstock
ตลาดการเงินของรัสเซียทรุดตัวลงอย่างหนัก หลังใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน ชาติตะวันตกตอบโต้ด้วยการคว่ำบาตร สถาบันการจัดอันดับ ปรับลดความน่าเชื่อถือทางการเงินของรัสเซียเป็นอันดับขยะไม่น่าลงทุน ความน่าเชื่อถือติดลบ

Fitch Rating ปรับลดอันดับเครดิตของรัสเซียจากเดิมที่ระดับ BBB สู่ระดับ B และปรับลดอันดับความน่าลงทุนเป็นระดับติดลบ (Negative) เช่นเดียวกับ Moody’s ได้ปรับลดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือของรัสเซียจากระดับ Baa3 มาอยู่ที่ B3 พร้อมประเมินว่าอาจมีการปรับลดอีกในอนาคต เเละปรับลดอันดับความน่าลงทุนสู่ระดับขยะ’ (Junk) ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในช่วงสัปดาห์นี้

ความรุนแรงของการคว่ำบาตรจากนานาประเทศที่ตอบโต้การรุกรานยูเครนของกองทัพรัสเซีย เพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงินระดับมหภาค แสดงถึงความกังวลครั้งใหญ่ต่อปัจจัยพื้นฐานด้านสินเชื่อของรัสเซีย และอาจบ่อนทำลายความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาล” Fitch ระบุ

โดยการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่ห้ามการทำธุรกรรมใดๆ กับธนาคารกลางของรัสเซียนั้น ส่งผลกระทบอย่างมากต่อปัจจัยพื้นฐานด้านสินเชื่อของรัสเซียมากกว่าการคว่ำบาตรครั้งก่อนๆ เพราะทำให้เงินทุนสำรองของธนาคารกลางรัสเซียที่ส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ ไม่สามารถนำมาใช้แทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนได้ ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan และที่อื่นๆ ต่างมองว่า มาตรการคว่ำบาตรที่บังคับใช้กับรัสเซีย จะเพิ่มโอกาสที่รัสเซียจะผิดนัดชำระหนี้ดอลลาร์และหนี้รัฐบาลในตลาดต่างประเทศอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกัน ทำให้ก็ศักยภาพการเติบโตของ GDP ของรัสเซียอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด มีความเสี่ยงภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และยังมีโอกาสที่จะถูกคว่ำบาตรเพิ่มเติมหากสถานการณ์รุนเเรงมากขึ้น

ด้านธนาคารกลางรัสเซีย ตอบโต้ด้วยคำสั่งให้ภาคเอกชนในรัสเซีย ขายสกุลเงินต่างประเทศที่ถือครองอยู่ในอัตราส่วน 80% ของรายได้ที่ได้จากการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ เเละสั่งห้ามโบรกเกอร์ที่ขายหลักทรัพย์ให้กับนักลงทุนต่างประเทศทำธุรกรรมทุกประเภทอย่างไม่มีกำหนด พร้อมประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวดเดียวสู่ระดับ 20% จากเดิม 9.5% เป็นกรณีฉุกเฉิน 

ทั้งนี้ FTSE Russell เเละ MSCI ประกาศถอดหุ้นรัสเซียออกจากออกจากการคำนวณดัชนีเเล้ว

 

ที่มา : Reuters , Bloomberg