เนสวิต้าขยายพอร์ตใหม่ บุกตลาดพร้อมดื่ม เปิดตัว “เนสวิต้า ซีเรียล ดริ้งค์” เครื่องดื่มธัญญาหารแบบกล่อง UHT อุด Pain Point ในตลาดที่ต้องชงด้วยน้ำร้อน และต้องมีแก้วชง หวังจับตลาดกลุ่มวีแกน และ Plant-based
บุกตลาด UHT ครั้งแรกของโลก
ตลาดเครื่องดื่มธัญญาหารที่เป็นแบรนด์ใหญ่ถือว่าเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มากนัก ปัจจุบันมีมูลค่า 900 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 4% โดยที่เนสวิต้ามีส่วนแบ่งการตลาด 70% แต่ต้องยอมรับว่าเทรนด์การดูแลสุขภาพช่วยกระตุ้นการทานเครื่องดื่มธัญญาหารสูงขึ้น เนื่องจากมีประโยชน์ และช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี ทำให้ได้เห็นแบรนด์เล็กแบรนด์น้อยลงมาเล่นในตลาด อาจจะเป็นแบรนด์ SME เป็นส่วนใหญ่
นอกจากเทรนด์เรื่องสุขภาพแล้ว ยังมีกระแสเรื่องของ Plant-based เข้ามาอีก ทำให้เนสวิต้าขยับตัวครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี แตกไลน์กลุ่มสินค้าพร้อมดื่มเป็นครั้งแรกของโลก ด้วยการเปิดตัว “เนสวิต้า ซีเรียล ดริ้งค์” เป็นเนสวิต้าในรูปแบบกล่อง UHT สามารถแช่เย็นแล้วดื่มได้เลย
ไชยงค์ สกุลบริรักษ์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นม และโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เริ่มเล่าว่า
“เนสวิต้า ซีเรียล ดริ้งค์ใช้เวลาวิจัย และพัฒนาเป็นเวลากว่า 2 ปี และไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่เปิดตัวสินค้าตัวนี้ ความยากอยู่ที่กระบวนการในการหา Plant-based ประเภทไหนที่ตรงความต้องการของผู้บริโภค”
เนสวิต้าได้ทำตลาดในไทยได้ 25 ปี วางจุดยืนเป็นเครื่องดื่มธัญญาหารแบบชงร้อน ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะนิยมทานในตอนเช้าเพื่อรองท้อง หรือทานระหว่างช่วงพักเพื่อให้อิ่มท้อง แต่เทรนด์ของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ต้องการความสะดวกสบาย การชงร้อนมีข้อจำกัดที่ตองมีอุปกรณ์คือแก้ว และน้ำร้อน จึงต้องหานวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยตอบโจทย์
โดยปกติแล้วเนสวิต้าจะมีวงจรทำนวัตกรรมอยู่ช่วงระหว่าง 18-24 เดือน หรือประมาณช่วงปีครึ่ง – 2 ปี จะต้องมีสินค้าใหม่ออกมา ปัจจุบันมีสินค้าหลักได้แก่ รสดั้งเดิม, น้ำตาลน้อยกว่า 50%, ข้าวโพด, ข้าวกล้องงอกไรซ์เบอร์รี่ และน้ำเต้าหู้ ผสมเมล็ดเชีย การมีรูปแบบ UHT จะช่วยขยายฐานให้กว้างมากขึ้น
จับตลาดกลุ่มวีแกน
ไชยงค์เล่าเพิ่มเติมอีกว่า ในปัจจุบัน ผู้บริโภคไทยมีแนวโน้มหันมาใส่ใจสุขภาพและรักษ์โลกกันมากขึ้น เห็นได้จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทรนด์การบริโภคอาหารจากพืช (Plant-based Food) และการรับประทานมังสวิรัตแบบยืดหยุ่น (Flexitarian) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
จากการสำรวจพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคประเทศไทยโดย Mintel พบว่า 70% ของคนไทยรุ่นใหม่ รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์จากพืช (Plant-based product) ตรงกับความต้องการของพวกเขาเป็นอย่างมาก และมีผู้บริโภคเกือบ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศที่เลือกรับประทานอาหารแบบ Flexitarian โดยจัดเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพมากถึง 65%
แต่ในขณะเดียวกัน ยังพบอีกหนึ่งปัจจัยซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยที่ไม่ควรมองข้าม จากผลสำรวจโดย สสส. ระบุว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังคงบริโภคผักและผลไม้ต่ำกว่าเกณฑ์โดยเฉลี่ย ส่งผลให้ร่างกายไม่ได้รับใยอาหารอย่างเพียงพอ ประกอบกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตด้วยความเร่งรีบจากการเรียน หรือภาระงาน จึงเกิดเป็นความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพ และความสะดวกสบายมากขึ้นในผู้บริโภคกลุ่มนี้
การเปิดตัวเนสวิต้า ซีเรียล ดริ้งค์ หวังที่จับกลุ่มวีแกนมากขึ้นด้วย เพราะเป็นเครื่องดื่มธัญญาหารจากพืช (Plant-based) สูตรเจ ไม่มีส่วนผสมของนมวัว มี 2 รสชาติ ได้แก่ รสดั้งเดิม และรสโกจิเบอร์รี่ จำหน่ายราคา 14 บาท นำร่องที่เซเว่นฯ ก่อนเป็นที่แรก
หลังจากเปิดตัวสินค้าตัวนี้แล้ว ต้องดูผลตอบรับจากผู้บริโภคอีกทีว่ามีความชื่นชอบอย่างไร เพราะตลาด UHT เป็นตลาดที่ใหญ่พอสมควร มีผู้เล่นที่หลากหลาย การที่เครื่องดื่มธัญญาหารจะเข้ามาเล่นด้วย ก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้บริโภคตั้งตารอไม่น้อย