นับตั้งแต่ปี 2022 สถานการณ์ของ ‘Beyond Meat’ (บียอนด์ มีท) ก็ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเมนู plant-based ที่จับมือกับหลายแฟรนไชส์ดัง ๆ อาทิ McDonald’s ก็ไม่ปัง แถม ผู้บริหาร ก็แห่ ลาออก อีก และในปี 2023 บริษัทก็คาดว่ารายได้จะลดลงอีก ทำให้บริษัทเลือกจะเน้นไปที่การทำกำไรมากกว่ายอดขาย
Beyond Meat ได้รายงานผลประกอบการ Q4/2022 โดยมีรายได้ 79.9 ล้านดอลลาร์ ขาดทุนสุทธิ 66.9 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.05 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งน้อยกว่าผลขาดทุนสุทธิ 80.4 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.27 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีก่อนหน้า ขณะที่ ยอดขายลดลง -20.6% อย่างไรก็ตาม กำไรของบริษัทเติบโตขึ้น 14%
“จากการลดขนาดฐานการผลิตลง และจัดการระดับพนักงานฝ่ายผลิตได้ดีขึ้น ทำให้เรามีกำไรมากขึ้น” อีธาน บราวน์ ซีอีโอ บียอนด์ มีท กล่าว
บริษัท กล่าวว่า ความต้องการเนื้อสัตว์ทดแทนยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ผู้บริโภคเองกำลังเจอกับปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้บริษัทต้องดึงดูดใจลูกค้าโดยการ ลดราคา ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อน้ำหนักของสินค้า ลดลง 4.4% ทั้งนี้ เฉพาะยอดขายในสหรัฐฯ ของบริษัท ลดลง 20.9%
สำหรับภาพรวมปี 2023 บริษัทยังคาดว่า ยอดขายจะยังคงหดตัว โดยมีรายได้ประมาณ 375-415 ล้านดอลลาร์ ลดลง 1-10% ดังนั้น แทนที่จะเพิ่มยอดขาย เป้าหมายหลักทางธุรกิจของบริษัทคือการ สร้างกระแสเงินสดให้เป็นบวกในช่วงครึ่งหลังของปี โดยอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่เลขสองหลัก
หลังจากที่ความต้องการของเมนู plant-based พุ่งสูงขึ้นในช่วงแรกที่โควิดระบาด แต่มาในปี 2022 สถานการณ์กลับผลิกผัน เนื้องจากผู้บริโภคหันกลับไปบริโภคเนื้อสัตว์แบบปกติ เนื่องจาก plant-Based มีราคาที่สูงกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราเงินเฟ้อผลักดันให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้น
“เราเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจที่ชะลอตัว การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และพฤติกรรมลดการซื้อขายของผู้บริโภคในกลุ่มโปรตีน ล้วนส่งผลเสียต่อการเติบโตของหมวดหมู่และแบรนด์ของเรา แต่เราเชื่อว่านี่จะเกิดขึ้นชั่วคราว” Lubi Kutua ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินกล่าว
หลังจากที่ยอดขายร่วงอย่างหนัก ทำให้ Beyond Meat ได้เปลี่ยนจากกลยุทธ์ที่เน้น การเติบโตเหนือสิ่งอื่นใด กลายมาเป็นการรักษาเงินสด ลดสินค้าคงคลัง และมุ่งสร้างผลกำไร โดยปีที่แล้ว บริษัทได้มีการเลิกจ้างพนักงานไปแล้ว 2 รอบโดยลดจำนวนพนักงานลงกว่า 1 ใน 5
ไม่ใช่แค่ Beyond Meat แต่ผู้เล่นรายอื่น ๆ ในตลาด plant-based ก็ปรับกลยุทธ์ไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากความต้องการลดลง โดยมีรายงานว่า Impossible Foods กำลังลดพนักงานลง 20% หลังจากเลิกจ้างพนักงาน 6% ในปีที่แล้ว เป็นต้น