เป็นข่าวฮือฮาในสังคมเมื่อคนดังเล่านาทีหนีตายไฟไหม้ในวิลล่าหรูคืนละ 5 แสนที่ “โซเนวา คีรี เกาะกูด” ล่าสุดฝั่งรีสอร์ตหรูออกแถลงแสดงความเสียใจต่อผู้ประสบเหตุ แต่ยืนยันว่าวิลล่าทุกหลังติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟ ไปทำความรู้จักกันว่าแบรนด์ “โซเนวา” มีที่มาอย่างไร และใครเป็นเจ้าของ
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2565 “หมอโอ๋” เพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” ได้โพสต์เล่านาทีชีวิต เมื่อครอบครัวทั้ง 15 คนต้องหนีตายจากไฟไหม้ระหว่างพักผ่อนที่วิลล่าหรูแห่งหนึ่ง แม้จะรอดชีวิตทุกคน แต่หมอโอ๋เองกระดูสันหลังหักและบาดเจ็บศีรษะ ขณะที่สามีบาดเจ็บที่เอ็นข้อมือ
หมอโอ๋ยืนยันว่าในโรงแรมไม่มีเครื่องตรวจจับควัน ไม่มีสัญญาณเตือนภัย และไม่มีสปริงเกอร์พ่นน้ำ ซึ่งทำให้สังคมตระหนกว่าโรงแรมระดับ 5 ดาว และวิลล่าหลังดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายถึงคืนละ 5 แสนบาท เหตุใดจึงไม่มีระบบความปลอดภัยใดๆ
>> อ่านโพสต์จากหมอโอ๋ เลี้ยงลูกนอกบ้าน เล่านาทีระทึกหนีไฟไหม้
เวลาต่อมา “โซเนวา คีรี เกาะกูด” ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่ามีเหตุไฟไหม้ที่วิลล่า 63 เมื่อเช้าวันที่ 6 มี.ค. 2565 จริง ใจความสำคัญแสดงความเสียใจต่อแขกผู้เข้าพัก และกล่าวถึงระบบความปลอดภัยที่ครบถ้วนของรีสอร์ต มีเครื่องตรวจจับควันในทุกห้องนอน และมีทีมดับเพลิงที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทำให้ควบคุมเพลิงไม่ให้ลามไปยังส่วนอื่นๆ ของรีสอร์ตได้
สาเหตุของไฟไหม้ครั้งนี้และการทำงานของระบบป้องกันอัคคีภัยต้องติดตามการสืบสวนต่อไป แต่ในระหว่างนี้ มาทำความรู้จักกับแบรนด์ “โซเนวา” (Soneva) ซึ่งอาจจะไม่ใช่แบรนด์ที่มีพอร์ตโรงแรมจำนวนมาก แต่ถือเป็นแบรนด์รีสอร์ตหรูที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล
เปิดแห่งแรกที่ “มัลดีฟส์” ชูจุดขาย “สโลว์ไลฟ์”
เจ้าของแบรนด์ “โซเนวา” คือ Sonu Shivdasani นักธุรกิจชาวอินเดีย และ Eva ภรรยาของเขา (ชื่อของแบรนด์ Soneva มาจากชื่อของทั้งคู่ผสมกัน) พวกเขาเริ่มก่อตั้งโรงแรมแห่งแรกในมัลดีฟส์เมื่อปี 1995
โดย Sonu วางคอนเซ็ปต์เปลี่ยนนิยามของ “โรงแรมระดับลักชัวรี” ในขณะนั้นที่มักจะกำหนดให้แขก ‘ผูกไทใส่สูท’ แต่เมื่อเป็นโรงแรมลักชัวรีกลางมหาสมุทร โซเนวาจึงเปลี่ยนให้สตาฟแต่งตัวสบายๆ และไม่ใส่รองเท้า พร้อมกระตุ้นให้แขกใช้ชีวิต “สโลว์ไลฟ์” ในโรงแรม ตัดขาดเทคโนโลยีและโลกภายนอก เพื่อพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งยังคงเป็นคอนเซ็ปต์ของโซเนวาจนถึงปัจจุบัน
ปรากฏว่าคอนเซ็ปต์ของเขาประสบความสำเร็จ และบริษัทได้ขยายโรงแรมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแบรนด์มีโรงแรม 3 แห่งในมัลดีฟส์ (ไม่นับ 1 แห่งที่ถูกขายออกจากพอร์ตไปแล้ว) และอีก 1 แห่งในไทยคือ โซเนวา คีรี เกาะกูด ที่เปิดเมื่อปี 2009
ไม่เฉพาะแบรนด์โซเนวา ระหว่างเส้นทางการขยายธุรกิจ Sonu มีการเปิดแบรนด์ใหม่คือ เอวาซอน (Evason) และ ซิกเซ้นส์ (Six Senses) แต่ต่อมาในปี 2012 บริษัทตัดสินใจขายแบรนด์สองแบรนด์หลังนี้ออกไปให้ Pegasus Capital Advisors และมีการซื้อขายเปลี่ยนมือแบรนด์ ซิกเซ้นส์ อีกครั้งเมื่อปี 2019 ไปอยู่ภายใต้เครือ IHG
มีเฉพาะโซเนวาที่ยังเป็นลูกรักที่ Sonu ดูแลต่อเนื่อง โดยข้อมูลเมื่อปี 2019 เขาและภรรยายังถือหุ้นใน Soneva Holdings อยู่ 60-65% ส่วนอีก 35-40% ถือโดยไพรเวทอิควิตี้ 2 แห่ง คือ GIC กองทุนจากสิงคโปร์ และ KSL Capital Partners จากสหรัฐฯ
อนาคตของแบรนด์โซเนวามีแผนการขยายโรงแรมแห่งต่อๆ ไปแล้ว โดยจะมีโรงแรมเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่งในมัลดีฟส์ เริ่มก่อสร้างแล้วตั้งแต่ปี 2021 รวมถึงเปิดโลเคชันใหม่ทำเลเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น จะเริ่มก่อสร้างปี 2023
คอนเซ็ปต์ “รักษ์โลก” แต่เจอดราม่าถางป่า
ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุไฟไหม้ เมื่อไม่กี่ปีมานี้โซเนวา คีรีก็เคยเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นอื่นมาก่อนแล้ว เนื่องจากรีสอร์ตวางคอนเซ็ปต์ ‘eco-friendly’ รักษ์โลกและอยู่กับธรรมชาติ
จนกระทั่งเมื่อปี 2018 รีสอร์ตมีการเปิดสนามบินส่วนตัวบนเกาะไม้ซี้ใกล้เคียง เพื่อให้แขกสามารถใช้เครื่องบินขนาดเล็กบินมาลงได้ และต่อเรือสปีดโบ๊ทขึ้นบนเกาะกูดได้สะดวก แต่สนามบินดังกล่าวต้องถางป่าบนเกาะไม้ซี้เป็นบริเวณกว้าง ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตว่าคอนเซ็ปต์รีสอร์ตกับการก่อสร้างดูจะสวนทางกันหรือไม่
- โรงแรมฟื้นตัว! “เซ็นทารา” วางแผนเปิด 100 แห่งใน 5 ปี สงคราม “รัสเซีย” อาจกระทบระยะยาว
- 10 เรื่องน่ารู้กับตำนาน “โรงแรมนารายณ์” ก่อนพลิกโฉมสู่ “ตลาดลักชัวรี่”
ทั้งนี้ เหตุการณ์ไฟไหม้ทำให้ข้อครหาเรื่องการรุกป่าของโซเนวา คีรีกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเกาะช้างได้ย้ำว่า พื้นที่เกาะไม้ซี้ไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
ต้องติดตามต่อว่าเหตุไฟไหม้ครั้งนี้จะกระทบกับความเชื่อมั่นต่อโรงแรมหรือแบรนด์มากแค่ไหนในระยะยาว จากเดิมที่โรงแรมถือเป็นจุดหมายปลายทางสุดฮิตของเหล่าเซเลบ ดารา และกลุ่มเศรษฐีเมืองไทยมานาน
ที่มา: Soneva, Skift, Phuket News, IHG