ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่สร้างชื่อไปทั่วโลก ด้วยไอเดียแปลกใหม่ เมื่อ IKEA ประเทศไทย ถึงคิวของการเปิดรับสมัครพนักงาน ทั้งพาร์ทไทม์ และพนักงานประจำ สาขาในไทย ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554 นี้ งานจึงต้องไม่ธรรมดา ตั้งแต่เปิดรับสมัครพนักงานแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่จำกัดทั้ง วุฒิการศึกษา และอายุ ตั้งแต่18-60 ปี
การรับสมัครงานมีขึ้นวันเดียว 20 พฤษภาคม ที่ อาคารบางนาทาวเวอร์ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ โดยอิเกีย เรียกการเฟ้นหาคนในแบบฉบับอิเกียว่า “แวลลู แอนด์ คัลเจอร์” การคัดเลือกบุคคล ที่เน้นทัศนคติเชิงบวก การทำงานแบบทีมเวิร์ค ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ตรง
ทีมงาน Positioning ที่ไปปักหลักสังเกตการณ์ตั้งแต่เช้า พบว่า การรับคัดเลือกเป็นไปอย่างเรียบง่ายโดยผู้สมัครรับฟังรายละเอียดจากทีมงาน บอกเล่าถึงตำแหน่งต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นระดับปฏิบัติการ จากนั้นกรอกใบสมัคร เข้าสู่กิจกรรมกลุ่มที่ให้ผู้สมัครเลือกเข็มกลัดที่มี Value ต่างๆของIKEA ติดอยู่ และให้บรรยายความรู้สึก เพื่อตรวจสอบทัศนคติ เช่น การเป็นคนเรียบง่ายแต่มีสไตล์ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ ต่อด้วยการสัมภาษณ์เบื้องต้น สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบนี้จะเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์อย่างเข้มข้นกับหัวหน้าในแต่แผนกต่อไป
งานนี้คลาคล่ำไปด้วยคนหลากหลายช่วงวัย ตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน ผู้ใหญ่ผู้สูงอายุ มีทั้งนักศึกษา พนักงานออฟฟิส แม่บ้าน ฯลฯ โดยกลุ่มอายุที่มีจำนวนมากที่สุดคือ 28-35 ปี บางรายมาตั้งแต่ 8.00 น.ก่อนเวลารับสมัครที่กำหนดไว้ 9.00-20.00 น. ซึ่งกินระยะเวลาถึง 11ชั่วโมง เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่สนใจสมัครงานได้จัดสรรเวลาของตัวเองให้ลงตัว
ที่กลายเป็นเรื่องสร้างรอยยิ้มภายในงานคือ มีกลุ่มพนักงาน Indexlivingmall ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ของไทย ที่จะเป็นคู่แข่ง ใส่ชุดยูนิฟอร์มมายื่นใบสมัครกันหลายสิบชีวิต
โดยวาสนา นาคถาวร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท อิคาโน่(ประเทศไทย) จำกัด เชื่อว่า “สวัสดิการ” ที่เหนือกว่าค้าปลีกแบรนด์อื่นๆ เป็นจุดสำคัญที่ทำให้นักล่างานเดินทางมายังบางนา ทาวเวอร์ ในวันนี้และคาดว่าจะมีผู้สมัครกว่า 5,000 คน
คนเหล่านี้ หรือที่ IKEA เรียกว่า Co-worker ถือเป็น “หัวใจ” ดวงใหญ่ที่จะนำปรัชญาของ IKEA ในเรื่องการสร้างสรรค์ชีวิตทุกวันให้ดีขึ้นไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่เป็น”Many People “จะได้รับสวัสดิการที่เท่าเทียมกัน เช่น สามารถลาพักร้อนได้ 10 วันต่อปี ค่ารักษาพยาบาลของตนเองและบุตร (0PD ครั้งละ 2,000 บาท จำนวน 30 ครั้งต่อปี) สิทธิในการลาคลอด 120 วัน และอื่นๆ ที่ทำให้บริษัทนี้ กลายเป็น Top Employer of choice ระดับโลก
ดังนั้นตั้งแต่สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป พนักงาน IKEA ในไทยจะเพิ่มจาก 70 คน ในปัจจุบัน เป็น 520-570 คน และพนักงานใหม่ จะเข้าสู่การฝึกอบรมอย่างเข้มข้นเป็นระยะเวลา 2 เดือนก่อนจะให้บริการจริงในเดือนพฤศจิกายน 2554
การจัด Mass Recruitment ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงไอเดียและนวัตกรรมที่แตกต่างของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน อันดับ 1ของโลก และเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้าง Brand Awarenessให้กับลูกค้าคนไทยที่จากผลสำรวจของ IKEA กับคนไทย 500 คน พบว่ามีเพียง 5% ซึ่งเป็นกลุ่ม Trend setter ที่เคยเดินทางไปต่างประเทศหรือร่ำเรียนด้านการตลาด ขณะที่ 95% ไม่เคยรู้จักแบรนด์นี้มาก่อน
แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคที่จะหยุดยั้ง IKEA ได้ เพราะ Lars Svenssonผู้จัดการฝ่ายการตลาด บอกว่า เป็นตัวเลขที่ไม่น่าประหลาดใจและมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในไทย เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก เพราะตัวเลขดังกล่าวก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในหลายประเทศที่ IKEA ไปลุยตลาด