“อิเกีย สุขุมวิท” มาแล้ว! คาดทราฟฟิกเท่าฝั่ง “บางนา” สาขา “รังสิต” ยังอยู่ในแผน-ประเมินขยายพื้นที่ “ภูเก็ต”

อิเกีย สุขุมวิท
“อิเกีย สุขุมวิท” เหมาชั้น 3 ภายในศูนย์การค้า EMSPHERE พร้อมพงษ์ เตรียมเปิดบริการวันแรก 1 ธันวาคมนี้ นับเป็นสาขาที่ 4 ในไทย คาดทราฟฟิกปีแรก 4 ล้านคนเทียบเท่าสาขา “บางนา” ด้านแผนเปิดสาขาต่อไป “รังสิต” ยังอยู่ในไปป์ไลน์ ขณะที่ “ภูเก็ต” อาจขยายพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้น

สาขาที่หลายคนเฝ้ารอคอย “อิเกีย สุขุมวิท” กำลังจะเปิดตัววันที่ 1 ธันวาคมนี้ โดยความพิเศษของอิเกียสาขานี้คือ เป็นสาขาแบบ “City-Centre Store” ตั้งอยู่กลางใจเมือง ทำให้พื้นที่มีขนาดเล็ก 12,000 ตร.ม. เทียบกับสาขาบางนาที่ใหญ่ 44,000 ตร.ม. หรือบางใหญ่ที่กว้างกว่า 50,000 ตร.ม. ที่นี่จะกะทัดรัดกว่ามาก

อย่างไรก็ตาม หลัง​จาก “อิเกีย” เปิดรอบสื่อมวลชนให้เข้าไปชมก่อน บอกได้เลยว่า ตัวจริง “ไม่เล็ก” ขนาดนั้น อิเกียสามารถย่อส่วนประสบการณ์การเดินชมสินค้าเพื่อรับแรงบันดาลใจมาไว้ที่นี่ได้ครบถ้วน และมีของครบทุกประเภทให้เลือก

อิเกีย สุขุมวิท
(ซ้าย) “ศิรินทร์ อาศน์ศิลารัตน์” ผู้จัดการสโตร์ อิเกีย สุขุมวิท และ (ขวา) “ลีโอนี่ ออสกิ้น” ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกียประเทศไทยและเวียดนาม

ภายในสาขานี้มีครบทั้ง 4 ส่วน คือ

  • โชว์รูม” 2,276 ตร.ม. พื้นที่ตกแต่งเป็นห้องเสมือนจริง สร้างแรงบันดาลใจ
  • “มาร์เก็ตฮอลล์” 3,565 ตร.ม. พื้นที่ขายสินค้าชิ้นเล็กต่างๆ เช่น เครื่องครัว เครื่องนอน ต้นไม้ ของประดับตกแต่ง
  • “เซลฟ์เสิร์ฟ” 895 ตร.ม. พื้นที่โกดังสินค้า สามารถยกสินค้ากลับไปได้เลย
  • “ร้านอาหาร” 858 ตร.ม. พื้นที่ร้านอาหารและคาเฟ่พร้อมที่นั่ง

 

เน้นของชิ้นเล็กเข้าคอนโดฯ-หิ้วไม่ไหวมี “รถ EV” ไปส่ง

ในโซนโชว์รูมจะเห็นความต่างชัดจากสาขาใหญ่ คือ ห้องจำลองต่างๆ จะเน้นสไตล์คอนโดมิเนียม มีทั้งแบบห้องขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ช่วยจินตนาการในการตกแต่ง

อิเกีย สุขุมวิท
โชว์รูมเน้นห้องคอนโดฯ สอดคล้องกับผู้บริโภคในย่าน

“ลีโอนี่ ออสกิ้น” ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกียประเทศไทยและเวียดนาม กล่าวว่า การออกแบบโชว์รูมเป็นห้องชุดคอนโดฯ เป็นหลัก เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะที่อยู่อาศัยโดยรอบสาขาที่ทางอิเกียพบว่า 65% ของครัวเรือนในย่านนี้อาศัยอยู่คอนโดฯ มีไลฟ์สไตล์คนเมือง และหลายคนอาศัยอยู่คนเดียว รวมถึงมี ‘expat’ จำนวนมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น

ด้านจำนวนสินค้าจากปกติอิเกียมีขายประมาณ 9,500 รายการ ที่อิเกีย สุขุมวิทจะคัดมาเหลือ 8,200 รายการ ในจำนวนนี้มี 4,000 รายการที่ซื้อกลับบ้านได้เลย (ส่วนใหญ่เป็นของชิ้นเล็กในมาร์เก็ตฮอลล์)

อิเกีย สุขุมวิท
โซนมาร์เก็ตฮอลล์ ของครบทุกประเภท

จากการเปรียบเทียบกับสาขาใหญ่ จะเห็นว่าส่วนที่หายไปเยอะสักหน่อยคือ “เซลฟ์เสิร์ฟ” เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ที่ยกกลับได้เลยจะมีไม่มากเท่าสาขาใหญ่ หากไม่มีของที่อิเกีย สุขุมวิท ลูกค้าจะต้องสั่งซื้อจัดส่ง ซึ่งสินค้าจะส่งมาจากสาขาบางนา

แต่ถ้าใครพบของชิ้นใหญ่ถูกใจ หรือของชิ้นเล็กแต่มีจำนวนมาก หิ้วขึ้น BTS กลับบ้านไม่ไหว สามารถใช้บริการ “Same Day Delivery” จัดส่งให้ในวันเดียวกันด้วย “รถ EV” ของอิเกียได้ ระยะบริการ 8 กม.รอบสาขา และราคาขนส่งเริ่ม 129 บาท

รถ EV จัดส่งแบบ Same Day Delivery

ส่วนใครที่สมัครใจจะขับรถมาเพื่อขนของเอง อิเกียแนะนำว่าให้ใช้ที่จอดรถชั้น 4 เพื่อขนของจากอิเกียไปได้สะดวกที่สุด

ด้านการชำระเงิน ที่นี่จะเน้นจุด “Self-Checkout” มีถึง 16 เคาน์เตอร์ ส่วนเคาน์เตอร์พนักงานบริการจะมีเพียง 3 เคาน์เตอร์

“ศิรินทร์ อาศน์ศิลารัตน์” ผู้จัดการสโตร์ อิเกีย สุขุมวิท กล่าวว่า เหตุที่เน้นการชำระเงินด้วยตนเองเพราะอิเกียมองว่าคนในย่านนี้เคยชินกับระบบนี้แล้วและถนัดกว่า น่าจะช่วยให้คิวจ่ายเงินคล่องตัวขึ้น ทั้งนี้ อิเกียมีการจัดพนักงาน 1 คนต่อ Self-Checkout 4 เครื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าด้วย

Self-Checkout รวม 16 เครื่อง

 

จุดขาย “ร้านอาหาร” วิวสวนเบญฯ – เป้าทราฟฟิก 4 ล้านคน

อีกส่วนหนึ่งที่คนไทยนิยมมากในอิเกียคือ “ร้านอาหาร” ที่สาขาสุขุมวิทก็จัดเต็มไม่แพ้สาขาอื่น โดยมีอาหาร-เครื่องดื่มครบ พร้อมที่นั่งรองรับ 530 ที่นั่ง และยังตั้งอยู่ในมุมที่สวยที่สุดของศูนย์ฯ รับวิวสวนเบญจสิริ รถไฟฟ้า และ EmQuartier ฝั่งตรงข้าม

อิเกียเชื่อว่าจะมีผู้ใช้บริการร้านอาหารเป็นจำนวนมาก เพราะศูนย์การค้า EMSPHERE ตั้งอยู่ในย่านแหล่งงาน โดยร้านอาหารนี้จะเปิดตั้งแต่ 09:30 น.

ร้านอาหารอิเกีย วิวสวนเบญจสิริ รองรับ 530 ที่นั่ง

สำหรับช่วงแกรนด์โอเพนนิ่งสาขาสุขุมวิทนี้ อิเกียจะมีสินค้าคอลเล็กชันพิเศษ 2 คอลเล็กชันมาจำหน่ายด้วย ได้แก่

  • “IKEA Sukhumvit” เครื่องใช้ลายตารางหมากรุกที่ดีไซน์ให้สาขาสุขุมวิทโดยเฉพาะ มีขายที่นี่ที่เดียว โดยในคอลเล็กชันจะมีสินค้า 16 รายการ เช่น ถุงเท้า สายคล้องบัตร เข็มกลัด ถุงผ้า
  • “AURTIENDE” (ออเทียนเด) คอลเล็กชันไลฟ์สไตล์ที่จะจำหน่ายทั่วโลก แต่เปิดตัวและเปิดขายสาขาแรกที่สุขุมวิท ในคอลเล็กชันมีสินค้าหลายอย่าง เช่น หมวก เสื้อ ร่ม กระบอกน้ำ
“AURTIENDE” (ออเทียนเด) จะเปิดตัวที่แรกที่สาขาสุขุมวิท

จากจุดขายทั้งทำเลกลางเมือง เฟอร์นิเจอร์ที่ชาวไทยชื่นชอบ และร้านอาหารวิวสวย ลีโอนี่คาดว่า อิเกียสาขาสุขุมวิทน่าจะดึงดูดลูกค้าได้ “4 ล้านคน” ภายในสิ้นปี 2567 ซึ่งจะทำให้ทราฟฟิกเทียบเท่ากับสาขาบางนาเลยทีเดียว

ส่วนการเพิ่มฐานลูกค้าสมาชิก ปัจจุบัน IKEA Family มีฐานลูกค้าอยู่ 1.5 ล้านคน อิเกียเชื่อว่าสาขาสุขุมวิทจะดึงสมาชิกเพิ่มได้อีก 30,000 คน

 

สาขาต่อไป “รังสิต” ยังอยู่ในแผน

สำหรับแผนการขยายสาขาในอีก 3-5 ปีข้างหน้าของอิเกีย ลีโอนี่กล่าวว่า น่าจะมีอย่างน้อย 1 สาขาในไทย ซึ่งความเป็นไปได้สูงสุดขณะนี้คือ “โซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ” และหากจะมีการพัฒนาจริงก็จะเลือกแปลงที่ดินใน​ “รังสิต” ที่อิเกียลงทุนซื้อไว้มานานแล้ว

เหตุที่ยังไม่ตัดสินใจเดินหน้าทันที ลีโอนี่แจกแจงว่าต้องการจะรอจังหวะตลาดที่เหมาะสมก่อน โดยจะรอให้หมู่บ้านในย่านกรุงเทพฯ ตอนเหนือมีจำนวนมากขึ้น และมีชนชั้นกลางมากขึ้นซึ่งจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายของอิเกีย

ส่วนอีกโครงการที่กำลังพิจารณาอยู่คือ การขยายสาขา “ภูเก็ต” ให้ใหญ่ขึ้น จากปัจจุบันเป็นสาขาศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้า พื้นที่ขนาดเพียง 2,000 ตร.ม.

ด้านทำเลต่างจังหวัดอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา ลีโอนี่มองว่ายังมีดีมานด์ไม่สูงพอที่จะไปเปิดสาขา แต่บริษัทก็ไม่ได้ทิ้งตลาด เพราะที่ผ่านมามีการปรับราคาโลจิสติกส์ให้เหลือ 590 บาทในการจัดส่ง จากเดิมราคาสูงถึง 3,000 บาท เพื่อให้ชาวไทยในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือได้ซื้อสินค้าของอิเกียกันมากขึ้น

อิคาโน่ รีเทล ผู้ถือสิทธิแฟรนไชส์อิเกียในไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเม็กซิโก รายงานรายได้รอบปีบัญชีเดือนกันยายน 2565 – สิงหาคม 2566 เฉพาะรายได้ในประเทศไทยทำได้ 10,220 ล้านบาท เติบโต 4.4% จากรอบก่อนหน้า