COVID-19 ทำให้ความเหลื่อมล้ำยิ่งถ่างออกทั่วโลก “คนรวย” เพิ่มจำนวน “คนจน” ก็เช่นกัน

Photo : Shutterstock
Oxfam รายงานว่า “คนรวย” ทั่วโลกเพิ่มจำนวนขึ้น 573 คนหลัง COVID-19 โดยกลุ่มมหาเศรษฐีมีสินทรัพย์รวมกันกว่า 12.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 14% ของจีดีพีโลก ขณะที่คน 263 ล้านคนเสี่ยงที่จะเข้าสู่ระดับ “ยากจนสุดขีด” ภายในปีนี้ แนะเก็บ “ภาษี” เศรษฐีเพิ่มและนำไปช่วยบรรเทาค่าครองชีพคนจน

วันแรกของการประชุม World Economic Forum ที่ดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ องค์กรไม่แสวงหากำไร “Oxfam” รายงานสถิติพบว่า หลังจากโลกเผชิญโรคระบาด COVID-19 ทุกๆ 30 ชั่วโมงจะมี “มหาเศรษฐีพันล้าน” เพิ่มขึ้น 1 คน ในขณะที่มี “คนจน” เกือบ 1 ล้านคนเสี่ยงเข้าสู่ภาวะยากจนสุดขีดในช่วงเวลาเดียวกัน

หรือเท่ากับมีคนรวยเพิ่มขึ้น 573 คนนับตั้งแต่เกิด COVID-19 (ข้อมูลเก็บสถิติเมื่อเดือนมีนาคม 2022) ขณะที่มีคน 263 ล้านคนกำลังจะยากจนสุดขีด

ณ เดือนมีนาคม 2021 (หลังผ่านโรคระบาดมาแล้ว 1 ปี) มหาเศรษฐีทั่วโลกมีสินทรัพย์รวมกันกว่า 12.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 14% ของจีดีพีโลก

สาเหตุเป็นเพราะเศรษฐกิจตกต่ำหลังจากเผชิญโรคระบาด ซ้ำร้ายยังมีสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ทำให้ราคาอาหารพุ่งสูง ความเหลื่อมล้ำยิ่งถ่างออก

Photo : Shutterstock

กาเบรียลล่า บูเชอร์ ผู้อำนวยการบริหาร Oxfam International กล่าวว่า เศรษฐีทั่วโลกมารวมกันที่ดาวอสเพื่อ “เฉลิมฉลองให้กับสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ของตนเอง”

“โรคระบาด และราคาพลังงาน-อาหารที่พุ่งสูงขึ้นกลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์สำหรับพวกเขา” บูเชอร์กล่าว “ขณะที่หลายทศวรรษแห่งความพยายามที่จะกำจัดความยากจนสุดขีดกลับเดินถอยหลัง และกำลังเผชิญค่าครองชีพที่พุ่งสูงจนแทบเป็นไปไม่ได้แม้เพียงแค่จะมีชีวิตรอด”

 

บุญหล่นทับจากโรคระบาด

Oxfam กล่าวต่อว่า อุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์มากที่สุดคือกลุ่มอาหาร พลังงาน และยา มหาเศรษฐีในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 4.53 แสนล้านเหรียญในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา หรือเท่ากับมีสินทรัพย์เพิ่ม 1 พันล้านเหรียญทุกๆ 2 วัน

ตัวอย่างเช่น Cargill ยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมอาหาร เป็น 1 ใน 4 บริษัทที่ควบคุมตลาดเกษตรกรรมทั่วโลกมากกว่า 70% บริษัทนี้ยังบริหารโดยครอบครัว Cargill สามารถทำกำไรสุทธิเกือบ 5 พันล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว เป็นกำไรที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ ทำให้ครอบครัว Cargill มีมหาเศรษฐีพันแล้วถึง 12 คน เพิ่มจากจำนวน 8 คนเมื่อก่อนเกิดโรคระบาด

Cargill Food

ส่วนอุตสาหกรรมยา มีมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 40 คน เพราะเป็นผู้ควบคุมผูกขาดการผลิตวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อจากบริษัทของตัวเอง

เพื่อป้องกันไม่ให้ความเหลื่อมล้ำมากไปกว่านี้ Oxfam แนะนำให้รัฐบาลแต่ละประเทศเก็บภาษีเพิ่มจากกำไรที่ได้เพิ่มพิเศษเพราะโรคระบาด และนำไปช่วยเหลือคนจนที่ต้องประสบปัญหาค่าครองชีพสูงทั้งจากค่าพลังงานและอาหาร

 

จุดจบการทำกำไรจากวิกฤต?

องค์กรไม่แสวงหากำไรรายนี้ยังแนะให้รัฐบาล “หยุดการทำกำไรจากวิกฤต” โดยให้เก็บภาษีกำไรส่วนเกินที่ได้มาเพราะวิกฤต COVID-19 เป็นการชั่วคราว โดยเน้นเก็บกับองค์กรขนาดใหญ่ทุกอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์

ส่วนกรณีมหาเศรษฐี ผู้กุมอำนาจผูกขาดคลาด และกลุ่มคนรวยที่ปล่อยคาร์บอนสูง แนะนำให้เก็ฐภาษีเพิ่มแบบถาวร

องค์กรระบุว่าการเก็บภาษีคนรวยโดยเริ่มต้นเพียง 2% สำหรับกลุ่มเศรษฐีร้อยล้าน (สินทรัพย์ประมาณ 3 พันล้านบาท) และ 5% สำหรับกลุ่มเศรษฐีพันล้าน (สินทรัพย์ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท) จะทำให้โลกนี้เก็บภาษีคนรวยเพิ่มได้ 2.52 ล้านล้านเหรียญต่อปี

เมื่อนำภาษีไปช่วยคนจน จะทำให้คน 2.3 พันล้านคนทั่วโลกพ้นขีดความยากจน สามารถแจกจ่ายวัคซีนได้เพียงพอแก่คนทั้งโลก และสร้างระบบสาธารณสุขให้กับคนที่อาศัยในประเทศยากจนและประเทศระดับกลางล่างได้ทั้งหมด

Source