‘UK’ เริ่มแล้ว! ทดลองให้พนักงานกว่า 3.3 พันคน ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ ‘สเปน-สกอตแลนด์’ เล็งเริ่มสิ้นปี

Photo : Shutterstock
พนักงานในสหราชอาณาจักรหลายพันคนเริ่มทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ ผ่านโครงการนำร่องของรัฐบาลที่จะทดลองเป็นเวลา 6 เดือน นอกจากนี้ สเปน และ สกอตแลนด์ มีแผนจะเอาบ้างโดยคาดว่าเริ่มก่อนสิ้นปีนี้
โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยองค์กรไม่แสวงผลกำไร ได้แก่ 4 Day Week Global, Autonomy, Think Tank และ 4 Day Week UK Campaign และได้ความร่วมมือจากนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และวิทยาลัยบอสตัน
โดยโครงการนี้มีระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งจะเริ่มทดลองใช้กับ 70 บริษัท มีพนักงานเข้าร่วมรวม 3,300 คน ตั้งแต่ผู้ให้บริการทางการเงิน ไปจนถึงพนักงานร้านอาหาร โดยระหว่างโปรแกรม ผู้ปฏิบัติงานจะได้รับค่าจ้าง 100% สำหรับการทำงานเพียง 80% ของสัปดาห์ปกติ แต่ต้องรักษาประสิทธิภาพการทำงานไว้ได้ 100% เหมือนการทำงาน 5 วัน/สัปดาห์
Sienna O’Rourke ผู้จัดการแบรนด์ที่ Pressure Drop Brewing ซึ่งเป็นโรงเบียร์อิสระในลอนดอน กล่าวว่า เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทคือการพัฒนาสุขภาพจิตและสวัสดิภาพของพนักงาน
“โรคระบาดได้ทำให้เราคิดมากเกี่ยวกับงานและวิธีที่ผู้คนจัดระเบียบชีวิตของพวกเขา เรากำลังทำสิ่งนี้เพื่อปรับปรุงชีวิตพนักงานของเราและเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้าในโลก”
ไอซ์แลนด์ ถือเป็นอีกประเทศที่ได้ดำเนินการนำร่องที่ใหญ่ที่สุดในการลดวันทำงานลงเหลือ 4 วัน/สัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2015-2019 โดยมีพนักงานภาครัฐ 2,500 คนที่เกี่ยวข้องกับการทดลองขนาดใหญ่สองครั้ง โดยการทดลองพบว่าประสิทธิภาพการทำงานไม่ลดลงในกลุ่มผู้เข้าร่วม และความสุขของพนักงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการเรียกร้องให้ลดระยะเวลาการทำงานในหลายประเทศ ในขณะที่พนักงานหลายล้านคนเปลี่ยนไปทำงานทางไกลในช่วงการระบาดใหญ่ ซึ่งลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ยุ่งยากลง การเรียกร้องความยืดหยุ่นที่มากขึ้น และรัฐบาลหลายประเทศเริ่มตอบรับ เช่น สเปนและสกอตแลนด์ ที่จะเริ่มทดลองภายในปลายปีนี้
Joe O’Connor ซีอีโอของ 4 Day Week Global กล่าวว่า คนงานได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถทำงานได้ “สั้นและฉลาดขึ้น”
“เมื่อเราออกจากการแพร่ระบาด มีบริษัทจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ตระหนักว่าพรมแดนใหม่สำหรับการแข่งขันคือคุณภาพชีวิต และการทำงานที่เน้นเอาท์พุตที่ลดชั่วโมงทำงานเป็นพาหนะที่จะทำให้พวกเขาได้เปรียบในการแข่งขัน”