เดี่ยว9 วันเดียว 100 ล้าน

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์คนต่อคิวที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ยาวกว่าที่เคย และเริ่มมายืนรอคิวตั้งแต่ตี 4 เว็บไซต์จองตั๋วล่ม ส่วนคอลเซ็นเตอร์ก็รับสายไม่ได้หยุด ทั้งหมดนี้เป็นเพราะการแสดงไลฟ์ทอล์ก “เดี่ยว 9” ของชายหนุ่มที่ชื่อว่า โน้ส-อุดม แต้พานิช

ผลของการแย่งกันจองตั๋ว เดี่ยว 9 ทำให้บัตรการแสดงทั้ง 18 รอบ 54,000 ที่นั่ง ขายหมดภายใน 10 ชั่วโมง คิดเป็นเงินหมุนเวียนประมาณ 100 ล้านบาท จนกระทั่งต้องเพิ่มรอบการแสดงขึ้นอีก 1 รอบ แล้วปรากฏการณ์ต่อคิวจองตั๋วตั้งแต่ห้างพารากอนยังไม่เปิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

จากการสอบถามพนักงานจองบัตรของไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สาขาสยามพารากอน พบว่า ในการจองตั๋วครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ซึ่งมีการเพิ่มรอบพิเศษช่วงบ่ายของวันที่ 12 สิงหาคม พบว่าเพียงแค่ 20 นาทีแรกบัตรทั้งหมดก็ขายเกลี้ยง จนเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่มีการแสดงครั้งไหนสร้างกระแสได้มากขนาดนี้ และใครที่จองตั๋ว เดี่ยว 9 ของโน้สได้สำเร็จ ก็ต้องเอามาโพสต์อวดคนอื่นในเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ ว่าจองได้แล้ว จำนวนเท่าไหร่ ต้องใช้ความพยายามแค่ไหนกว่าจะทำได้ การจองตั๋วเดี่ยว 9 ได้สำเร็จกลายเป็นเรื่องที่เอามาโชว์ได้

กระบวนการตลาดของโน้ส-อุดม เริ่มจากการออกสื่อที่เขามีความสนิทสนมเป็นพิเศษ รายการตีสิบ เป็นรายการที่โน้สจะมาร่วมรายการเพื่อชิมลางเป็นรายการแรกๆ นอกจากมาโปรโมตไลฟ์ทอล์กโชว์ของเขาแล้ว เหมือนการทดลองเอามุกที่จะปล่อยบนเวทีมาทดลองเล่าเพื่อเรียกน้ำย่อยและดูฟีดแบ็กของผู้ชม ซึ่งในปีนี้ โน้ส จูงมือ ตัน ภาสกรนที มาร่วมรายการด้วย ดังนั้นจึงเป็นพลังที่สร้างความแปลกใหม่ในรายการ อีกทั้งยังจับกลุ่มคนกลุ่มใหม่ที่มอง ตัน เป็นไอดอลให้หันมาสนใจ เดี่ยว 9 มากขึ้น

ที่เด็ดสุด คือ เดี่ยว 9 ได้รับการโปรโมตในรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” รายการเล่าข่าวอันดับหนึ่งของประเทศไทย โน้สทำท่าแพลงกิ้งอยู่บนโต๊ะอ่านข่าวของสรยุทธ สุทัศนะจินดา ต่อเนื่องด้วยการปรากฏตัวนั่งอ่านข่าวในรายการ “ผู้หญิงถึงผู้หญิง” และ “แจ๋ว” เรียกได้ว่าเช้าวันเดียว แฟนช่อง 3 ต้องเห็นหน้าโน้สต่อเนื่อง 3 รายการรวด ดีลการปรากฏตัวในรายการเช้าของช่อง 3 ได้นานขนาดนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ตันและโน้สลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกับช่อง 3 ผ่านโครงการ “ประตูใจ” ในปีที่แล้วทำให้ โน้ส-ตัน-สรยุทธ-ช่อง 3 กลายเป็นพาร์ตเนอร์ที่ให้ความช่วยเหลือกันเรื่อยมา

สื่อโซเชี่ยลมีเดีย เป็นเครื่องมืออีกอย่างที่โน้สใช้สื่อสารกับแฟนของเขา ในเฟซบุ๊กของโน้ส-อุดมปัจจุบันมีแฟนกว่า 1 แสนคนติดตามความเคลื่อนไหวของเขา

ปิดท้ายด้วยสื่อเอาต์ดอร์ ไล่ตั้งแต่โปสเตอร์แบบดั้งเดิมตามริมถนน, หุ่นของโน้ส-อุดม ในย่านช้อปปิ้งที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ใครต่อใครมาถ่ายรูปคู่ด้วย ปิดท้ายช่วงใกล้วันจองบัตรก็มีการแจกกระดาษทิสชูโปรโมต เดี่ยว 9 ด้วย ก๊อบปี้ “มั่นใจว่า คนไทยเกิน 1 ล้านคน ซื้อบัตรไม่เคยทัน” ประโยคเดียวกับที่เขาใช้ในหน้าแฟนเพจ ท้าทายให้คนอยากดูไปต่อคิวหรือนั่งหน้าจอกดจองตั๋วให้ได้

16 ปีที่แล้ว โน้ส-อุดม เริ่มทดลองโชว์เดี่ยว ไมโครโฟน จนประสบความสำเร็จเป็นคนแรกในประเทศ “เดี่ยว 9” ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงที่มีจำนวนผู้ชมมากที่สุดของเขา คือความท้าทายที่โน้ส-อุดมต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ว่าจะสามารถสร้างคำที่คนฮิตกันทั้งเมืองได้เหมือน “ลำปาง หนาวมาก” เพราะสำหรับเจ้าพ่อเอนเตอร์เทนเนอร์อย่างเขาแล้วการรักษาระดับแบรนด์ด้วยเสียงฮาในการแสดงยังไม่พอ แต่ต้องเป็น Trend Setter ทำให้การแสดงของเขาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเด็กแนวจนถึงวัยทำงานให้ได้