Amazon นำ “หุ่นยนต์เดินได้” มาใช้ในคลังสินค้า ช่วยยกย้ายของหนักแทนมนุษย์

Amazon หุ่นยนต์เดินได้
Amazon เปิดตัวหุ่นยนต์อัตโนมัติโดยสมบูรณ์ เป็น “หุ่นยนต์เดินได้” ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ยกของหนักภายในคลังสินค้า หุ่นยนต์นี้ชื่อว่า “Proteus” ซึ่งถูกพัฒนาจนสามารถทำงานร่วมกันในพื้นที่เดียวกับมนุษย์ได้ เพราะมีเซ็นเซอร์ในการหลบหลีก

หุ่นยนต์ Proteus ที่ Amazon คิดค้นขึ้นนี้ มีเทคโนโลยีด้านการเคลื่อนที่ที่ทำให้มันปลอดภัยสูงต่อมนุษย์ โดยหุ่นยนต์จะมีไฟสีเขียวด้านหน้าเพื่อตรวจสอบเส้นทางเมื่อเคลื่อนที่ หากมนุษย์เดินตัดหน้าหุ่นยนต์ มันจะหยุดการเคลื่อนไหว และเริ่มเดินต่อเมื่อมนุษย์ออกไปพ้นทางแล้ว

Proteus ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยยกของหนักและนำไปจัดเก็บในที่ที่ต้องการ โดยมันสามารถยกตะกร้าพัสดุได้ ทำให้มนุษย์ไม่ต้องออกแรงเพื่อยกของหนักซึ่งเสี่ยงทำให้พนักงานบาดเจ็บ และสามารถเดินเคลื่อนที่ไปเองได้

เมื่อมันสามารถหยุดให้มนุษย์ไปก่อนได้แบบนี้ ก็จะทำให้คลังสินค้ามีมนุษย์กับหุ่นยนต์เดินได้ทำงานพร้อมกันได้อย่างปลอดภัย จากก่อนหน้านี้หุ่นยนต์เดินได้จะต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด มีกรงกั้น เพื่อไม่ให้มีการรบกวนทางเดินของหุ่นยนต์

ไม่ใช่แค่หุ่นตัวนี้เท่านั้น Amazon มีโครงการพัฒนาหุ่นยนต์อีกหลายรูปแบบที่ตอบจุดประสงค์เพื่อทำให้พนักงานปลอดภัยขึ้น เช่น หุ่นยนต์ Cardinal ซึ่งเป็นแขนยนต์ที่สามารถยกและหมุนย้ายพัสดุไปรอบตัวมันได้ โดยรับน้ำหนักได้ถึง 22.7 กิโลกรัม และสามารถกล่องที่วางซ้อนๆ กันได้ด้วย แขนยนต์ตัวนี้ บริษัทคาดว่าจะนำมาใช้ในคลังสินค้าได้ในปีหน้า

ก่อนหน้านี้ ซีอีโอของ Amazon เคยให้สัญญาว่าระบบการทำงานจะให้ความสำคัญกับอัตราการบาดเจ็บของพนักงานในคลังสินค้าให้มากขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยยอมรับตัวเลขรายงานจากภายนอกว่า พนักงานคลังสินค้าของบริษัทประสบการบาดเจ็บสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมเป็นเท่าตัวก็ตาม โดยเขามองว่ารายงานดังกล่าว “เป็นเรื่องเข้าใจผิด” แต่การพัฒนาหุ่นยนต์มาใช้แทนก็น่าจะช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้

นอกจากเทคโนโลยีเพื่อลดการยกของหนักของมนุษย์ บริษัทยังมีการแสดงเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยย่นระยะเวลาทำงาน จากแต่เดิมพนักงานจะต้องใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดที่กล่องพัสดุ เทคโนโลยีใหม่จะทำให้พนักงานแค่เพียงถือพัสดุยืนหน้าระบบกล้องสแกนพัสดุ ระบบจะทราบทันทีว่าเป็นพัสดุชิ้นไหน

บริษัทไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเครื่องนี้ทำงานได้อย่างไร แต่คาดกันว่าน่าจะเป็นเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิ่งร่วมกับกล้องแบบ 120 fps ซึ่งใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ตของ Amazon ที่ทำให้ลูกค้าสามารถหยิบของแล้วเดินออกได้เลย ไม่ต้องมีแคชเชียร์แสกนสินค้า

มีมุมบวกแล้วก็มีมุมลบ เมื่อมีการคิดค้นหุ่นยนต์ที่ทำงานแทนมนุษย์ได้ และเทคโนโลยีที่ทำให้มนุษย์หนึ่งคนทำงานได้มากขึ้น ก็ทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีการลดใช้แรงงานคนเกิดขึ้น แต่ประเด็นนี้ Amazon ยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ต้องการจะใช้หุ่นยนต์แทนคนโดยสิ้นเชิง เพราะ “การใช้เครื่องจักรแทนคนนั้นเป็นเพียงแค่ความเข้าใจแบบผิดๆ” ซึ่งจะนำไปสู่การสิ้นสุดธุรกิจของบริษัทได้

อย่างไรก็ดี การมีหุ่นยนต์มาช่วยงานน่าจะทำให้เกิดความคาดหวังว่ามนุษย์จะต้องทำงานเร็วขึ้น อย่างเช่นระบบสแกนบาร์โค้ดแบบใหม่ก็จะทำให้พนักงานต้องเคลื่อนไหวทำงานให้เร็วยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

ทั้งนี้ ประเด็นความกังวลเรื่อง Amazon จะลดใช้แรงงาน บางทีแรงงานอาจไม่ต้องตื่นเต้นตกใจไปก็ได้ เพราะก่อนหน้านี้บริษัทเองอยู่ในช่วงขาดแคลนแรงงานอยู่แล้ว

Source