“ลามิน่า” ปรับตัวเร็วเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ “ฟิล์มกรองแสง” เพื่อรถยนต์ไฟฟ้า-ยานยนต์อัจฉริยะ

อุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มปรับตัวจากรถยนต์สันดาปไปเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” และ “ยานยนต์อัจฉริยะ” กันมากขึ้น มองเผินๆ อาจดูเหมือนว่า “ฟิล์มกรองแสง” ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับการปรับระบบภายในของรถยนต์ แต่สำหรับ “ลามิน่า” เล็งเห็นความต้องการที่แตกต่างของลูกค้า นำไปสู่การพัฒนาฟิล์มกรองแสงในเซ็กเมนต์ใหม่ เป็นการขยับที่รวดเร็วกว่าคู่แข่งจนสามารถชิงตลาดได้ก่อนใคร

“ลามิน่า” ขึ้นชื่ออยู่ในตลาดฟิล์มกรองแสงมานานกว่า 27 ปี เน้นคุณสมบัติด้านการป้องกันความร้อน ทัศนวิสัยมองผ่านฟิล์มได้ชัดเจน ทนทานใช้ได้นาน โดยมีรุ่นที่เป็นที่นิยม เช่น Pop Series, Genius Series, Executive Series และ Special Series

อย่างไรก็ตาม ฟิล์มกรองแสงเหล่านี้แต่เดิมจะได้รับการออกแบบมาเพื่อรถยนต์สันดาป ขณะที่ระยะหลังอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ “รถยนต์ไฟฟ้า” มีรุ่นเด่นๆ ที่นิยมกัน เช่น BMW iX, Audi E-Tron, Tesla Model 3, Nissan Leaf, MG EP, Ora Good Cat เป็นต้น

กระแสตอบรับของคนไทยต่อรถยนต์ไฟฟ้าถือว่าเป็นบวก ปี 2565 มียอดจองรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อน และมีการคาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้จะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนท้องถนนมากกว่า 20,000 คัน รวมถึงแนวโน้มอนาคต ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยจะเปลี่ยนตามเทรนด์โลก นั่นคือเปลี่ยนจากการเป็นตลาดนิชมาร์เก็ตสู่การเป็นตลาด “แมส” ยานยนต์ส่วนใหญ่บนถนนจะกลายเป็นรถอีวีในที่สุด

“ฟิล์มกรองแสง” สำคัญกับรถอีวี-ยานยนต์อัจฉริยะอย่างไร

เมื่อตลาดเปลี่ยน คนทั่วไปอาจจะมองว่า “ฟิล์มกรองแสง” ไม่น่าเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนระบบรถยนต์จากสันดาปสู่ระบบไฟฟ้า แต่ทีมงาน “ลามิน่า” ไม่คิดเช่นนั้น จึงได้ร่วมมือกับ CPFilms.,inc By Eastman Chemical Group, USA และเริ่มตั้งโจทย์สำรวจ คิดค้น วิจัยว่า “ในตลาดฟิล์มกรองแสงเมืองไทย มีฟิล์มที่ตอบโจทย์ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ Smart Car แล้วหรือยัง?”

ทีมงานลามิน่าเข้าสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้จริงของรถยนต์ไฟฟ้าและรถกลุ่มยานยนต์อัจฉริยะ (Smart Car) ทำให้พบ pain point สำคัญของผู้ใช้รถกลุ่มนี้ นั่นคือ ฟิล์มกรองแสงไม่เพียงแต่ต้องลดความร้อนในห้องโดยสารได้ดี ให้ทัศนวิสัยเคลียร์ชัด แต่ต้องไม่ขัดขวางการทำงานของ “สัญญาณดิจิทัล” ด้วย เพราะสิ่งนี้เปรียบเสมือน “ลมหายใจ” ของ Smart Car

เนื่องจากรถยนต์ยุคใหม่โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้านั้นมักจะเป็น Smart Car มีการออกแบบให้เชื่อมต่อสัญญาณ 5G/Wi-Fi ไว้ตลอดเวลา และมีซอฟต์แวร์หรือเฟิร์มแวร์ต่างๆ ติดตั้งมากับตัวรถซึ่งต้องได้รับการอัปเดตสม่ำเสมอ หลายรุ่นเป็นการ Auto Update Software & Firmware On The Air

ที่สำคัญคือยานยนต์อัจฉริยะมักจะมีระบบขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance System) ระบบนี้จะรับสัญญาณจากกล้อง 360 องศาที่ติดรอบรถซึ่งส่งมาเป็นสัญญาณ Radar / Lidar จากนั้นนำมาประมวลผลด้วยโค้ดหรืออัลกอริธึ่ม สามารถทำงานได้แบบเรียลไทม์ เพราะใช้ความเร็วรับส่งข้อมูลจากตัวรับสัญญาณกับระบบประมวลผลสูงถึง 1 Gbps

ถ้าสัญญาณเหล่านี้สะดุด หน่วง หรืออัปเดตซอฟต์แวร์ไม่ได้ การทำงานของรถอัจฉริยะก็จะบกพร่อง อาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ปัญหาที่เกิดอาจจะมีตั้งแต่อย่างเบาๆ เช่น เชื่อมต่อกับ Google Maps ไม่ได้จนผู้ขับขี่ขับรถหลงทาง ไปจนถึงปัญหาไม่สามารถปลดล็อกรถได้ สตาร์ทรถไม่ได้ ซึ่งสร้างความเสียหายทำให้เจ้าของรถไม่สามารถใช้รถได้

ดังนั้น ฟิล์มกรองแสงที่อยู่ระหว่างทางในการรับส่งสัญญาณเหล่านี้จึงสำคัญมากกับ Smart Car และทำให้ทีมลามิน่าเล็งเห็นว่านี่คือโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์เซ็กเมนต์ซึ่งกำลังจะ ‘บูม’ ในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ

ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์รถยนต์ไฟฟ้า

หลังจากพบ pain point ของลูกค้า ลามิน่าฟิล์มจึงร่วมมือกับ CPFilms.,inc USA โรงงานผลิตฟิล์มรายใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก คิดค้นเทคโนโลยีฟิล์มกรองแสงที่เนื้อฟิล์มทำจากวัสดุเซรามิคแท้ 100% เท่านั้น ผนวกกับการใช้เทคโนโลยี DigitalBoost® ซึ่งเหมาะกับฟิล์มกรองแสงในยานยนต์อัจฉริยะโดยเฉพาะ

ฟิล์มกรองแสงเทคโนโลยี DigitalBoost® จะเพิ่มคุณสมบัติฟิล์มที่ไม่เพียงแต่กันความร้อนสูง ทนทาน ทัศนวิสัยเคลียร์ชัด ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ยังมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการใช้งานดิจิทัลของรถยนต์ ซึ่งลามิน่าให้นิยามว่าเป็นฟิล์มที่ “เร็ว แรง ลื่น เสถียร” หมายถึง เร็ว…ตอบสนองทุกฟังก์ชันดิจิทัลในรถ แรง…รับส่งข้อมูลดิจิทัลแรงเต็มประสิทธิภาพ ลื่น…ออนไลน์หลายอุปกรณ์พร้อมกันได้ลื่นไม่มีสะดุด เสถียร…ให้สัญญาณดิจิทัลเสถียร หมดปัญหาสัญญาณค้าง หลุด หาย

ลามิน่าได้เปิดตัวฟิล์มเทคโนโลยี DigitalBoost® ทั้งหมด 5 ซีรีส์ ที่ช่วยตอบโจทย์เซ็กเมนต์ย่อยๆ ลงไป ได้แก่

• Lamina Digital EV Boost ฟิล์มดิจิทัลบูสต์ เอไอเซรามิค 100% เพื่อยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
• Lamina Digital Ceramatrix  ฟิล์มดิจิทัลบูสต์ เซรามิคแท้ตัวจริงคุณภาพอันดับ 1
• Lamina Digital CM Icon ฟิล์มดิจิทัลบูสต์ เพื่อผู้ใช้รถยุค 5G
• Lamina Digital CM One  ฟิล์มดิจิทัลบูสต์ เพื่อรถสมาร์ทคาร์ใหม่ป้ายแดง
• Lamina Digital Mystery  ฟิล์มดิจิทัลบูสต์ ถนอมดวงตาเพื่อสุขภาพ

ฟิล์มทั้ง 5 รุ่นได้รับการการันตีคุณภาพจากสหรัฐอเมริกา สามารถส่งเสริมให้รถยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์อัจฉริยะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะช่วยบูสต์สัญญาณ 5G และ Wi-Fi ได้ “เร็ว แรง ลื่น เสถียร” ทำให้การใช้รถสามารถ Auto Software & Firmware Update on the air ได้อย่างราบรื่น รวมถึงการใช้งานประเภท Infotainment เช่น Netflix, YouTube บนรถยนต์ ไม่มีปัญหาสะดุดอีก

เกาะกลุ่มนิชมาร์เก็ตเพื่อไปสู่ตลาด “แมส” ก่อนใคร

จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ธุรกิจของ “ลามิน่า” มีการใช้ Segmentation เร่งเจาะเซ็กเมนต์นิชมาร์เก็ตให้ได้ก่อน เพื่อที่จะเป็นแบรนด์ Top of Mind ของกลุ่มเฉพาะมาตั้งแต่แรกๆ และทำให้กลุ่มผู้ใช้กลุ่มนี้มีการบอกต่อ เกิดรีวิวลูกค้าก่อนแบรนด์อื่นๆ จากนั้นหากว่าในอนาคต นิชมาร์เก็ตนี้ได้ขยายตัวไปในระดับตลาด “แมส” ลามิน่าจะเป็นแบรนด์แรกที่ลูกค้านึกถึงเพราะได้ปูพื้นฐานไว้ก่อนแล้ว

วิธีคิดของลามิน่าที่ทำให้เล็งเห็นโอกาสแบบนี้ได้ มาจากการ “เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง” ทันเกมในการจับความเปลี่ยนแปลงในตลาด เข้าใจเรื่อง ‘Niche is the New Mass’ รวมถึงไม่ชะล่าใจกับความสำเร็จเดิมๆ ที่ตนเองมีในตลาดรถยนต์สันดาป พร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดเซ็กเมนต์ใหม่ จนกลายเป็นฟิล์มกรองแสงแบรนด์แรกในไทยที่มีภาพลักษณ์ล้ำสมัย (Tech Film) ที่สามารถจับตลาดฟิล์มกรองแสงสำหรับ Smart Car ได้ในที่สุด

สำหรับลูกค้าที่ต้องการจะติดตั้งฟิล์มลามิน่า ฟิล์มเทคโนโลยี DigitalBoost® สามารถคลิกไปที่ลิงก์นี้ >> https://www.laminafilms.com/lamina7surprise ตอนนี้เขามีโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อรับสิทธิ์ของแถมและส่วนลด มูลค่ารวมสูงสุด 9,000 บาท (จำกัดเพียง 70 สิทธิ์ หมดเขต 31 สิงหาคม 2565) หรือหากต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิล์มลามิน่า ติดต่อได้ที่ โทร. 02-422-2345 LINE OA : @laminafilms หรือ Facebook : @LaminafilmsHQ