บริษัท Panasonic จากญี่ปุ่น เดินหน้าลงทุนโรงงานผลิต “แบตเตอรี่” รถอีวี ใช้เงินลงทุน 4,000 ล้านเหรียญ เมื่อสร้างเสร็จจะถือเป็นหนึ่งในโรงงานแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยบริษัทนี้เป็นพันธมิตรดั้งเดิมของ Tesla ในการผลิตแบตฯ ที่โรงงาน Gigafactory
Panasonic Energy ประกาศการลงทุนโรงงานผลิต “แบตเตอรี่” ในเมืองเดอ โซโท ชานเมืองแคนซัส ซิตี้ ใช้เม็ดเงินลงทุน 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.46 แสนล้านบาท) ถือเป็นหนึ่งในโครงการโรงงานแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ และเป็นการลงทุนเอกชนครั้งใหญ่ที่สุดของแคนซัส ซิตี้ที่เคยมีมา
เมื่อมีการเปิดโรงงานครั้งแรก คาดว่าจะมีการจ้างงานถึง 4,000 คน และในระยะยาวจะเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของรัฐมิสซูรี เกิดการสร้างงานระดับสูง 8,000 ตำแหน่ง จากการประเมินของ ลอร่า เคลลี่ ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี
บริษัท Panasonic นั้นเป็นพันธมิตรยาวนานของ Tesla บริษัทนี้เป็นรายแรกๆ ที่ร่วมลงทุนด้วย แม้จะขายหุ้นออกมาเมื่อปีก่อน แต่ความเป็นพันธมิตรยังคงเหนียวแน่น เนื่องจากเป็นพาร์ตเนอร์ที่ลงทุนร่วมกันในโรงงานผลิตรถยนต์ Gigafactory ของ Tesla ที่รัฐเนวาดา
- Panasonic เทขายหุ้น Tesla เกลี้ยงพอร์ต ฟาดกำไร ‘เเสนล้าน’ ลดการพึ่งพา ได้เงินลงทุนธุรกิจใหม่
- เนื้อหอม! LG นำทีมเซ็นดีลบริษัทเหมือง “นิกเกิล” อินโดฯ ผลิต “แบตเตอรี่” รถอีวี
อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องการจะสร้างโรงงานแบตเตอรีของตนเองในสหรัฐฯ ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้น ขณะนี้บริษัทยังไม่ประกาศว่าโรงงานที่แคนซัสจะซัพพลายแบตเตอรี่ให้แบรนด์ไหนบ้าง ทั้งนี้ นอกจาก Tesla แล้วบริษัทยังมีการทำงานใกล้ชิดกับ Toyota แบรนด์รถยนต์จากญี่ปุ่นด้วยกัน
กระแสการลงทุนโรงงานแบตเตอรี่ในสหรัฐฯ นั้นบูมมาตั้งแต่ปี 2021 มีรายใหญ่ๆ ที่จะลงทุนโครงการผลิตแบตฯ ขนาดยักษ์ เช่น Hyundai Motor จากเกาหลีใต้ที่จะลงทุน 5,500 ล้านเหรียญ (ประมาณ 2.01 แสนล้านบาท) ในรัฐจอร์เจีย หรือพันธมิตร่วมทุนระหว่าง General Motors และ LG Chem ที่จะเปิดโรงงานแบตฯ 2,600 ล้านเหรียญ (ประมาณ 95,000 ล้านบาท) ที่รัฐมิชิแกน
ส่วนโครงการยักษ์ใหญ่มากที่สุดที่มีการประกาศคือ โรงงานของ Ford ร่วมกับ SK Innovation จากเกาหลีใต้ ที่จะสร้างโรงงานแบตฯ มูลค่า 11,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 4.02 แสนล้านบาท) ที่รัฐเคนตักกี้และเทนเนสซี
ด้านดีมานด์การซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่ารถอีวีจะยังมีราคาแพงกว่าพอสมควรเมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาป แถมยังขึ้นราคาเร็วมากก็ตาม แต่ผู้บริโภคอเมริกันก็มีความต้องการ โดยข้อมูลจาก Kelley Blue Book ระบุว่าราคารถอีวีเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 ขึ้นไปถึงเฉลี่ย 66,997 เหรียญต่อคัน (ประมาณ 2.45 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 14% เทียบกับมิถุนายนปีก่อน
เจ้าตลาดก็ยังคงเป็น Tesla แต่รายอื่นๆ ก็กำลังเพิ่มรถรุ่นใหม่และเร่งการผลิต เช่น Ford, Hyundai, Kia, General Motors, Volkswagen คาดว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100% ปีนี้น่าจะทำยอดขายแตะ 700,000 คันในสหรัฐฯ และจะเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 2.5 ล้านคันภายในปี 2027 ตามการคาดการณ์ของ AutoPacific