มีรายงานว่า อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอ เทสลา เทขายหุ้นบริษัทเพิ่มอีก 5.2 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ โดยหลายคนมองว่า ที่มัสก์ขายหุ้นก็เพื่อระดมทุนปิดดีล Twitter ที่มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่ในปัจจุบันนี้
หลังจากที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีเกินคาด อีกทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากร่างกฎหมายด้านสภาพอากาศของฝ่ายบริหารของไบเดน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มขีดจำกัดเครดิตภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้หุ้นของเทสลาเพิ่มขึ้นเกือบ 15%
ล่าสุด ซีอีโอของบริษัทและผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอย่าง อีลอน มัสก์ ได้ขายหุ้นจำนวน 5.2 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ รวมกับในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มัสก์ได้ขายหุ้นไปแล้ว 4.4 ล้านหุ้น คิดมูลค่าประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์ โดยรวมแล้วมัสก์ขายหุ้นรวมแล้วเกือบ 9.5 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8.5 พันล้านดอลลาร์
การเทขายหุ้นครั้งนี้ นับเป็นการขายที่ใหญ่ที่สุดของมัสก์ โดยเขากล่าวว่า เขาต้องการเงินสดในกรณีที่เขาถูกบังคับให้ดำเนินการตามข้อตกลงที่ยกเลิกเพื่อซื้อ Twitterอย่างไรก็ตาม มัสก์ยังเป็นเจ้าของหุ้นในเทสลาถึง 155.04 ล้านหุ้น
สำหรับดีลซื้อ Twitter นั้นต้องถูกล้มไปเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม มัสก์ได้ยื่นฟ้องศาลเพื่อถอนตัวจากข้อตกลงในดีลดังกล่าว โดยอ้างว่า Twitter ไม่เปิดเผยจำนวนบัญชีปลอมที่แท้จริง และในวันที่ 12 กรกฎาคม Twitter ก็ฟ้องมัสก์เพื่อบังคับให้เขาซื้อแพลตฟอร์มนี้ด้วยเงินประมาณ 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากยอมรับข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการเมื่อปลายเดือนเมษายน โดยการพิจารณาคดีได้รับคำสั่งให้เริ่มในวันที่ 17 ตุลาคม เพื่อตัดสินว่ามัสก์จะสามารถยกเลิกข้อตกลงได้หรือไม่
