ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ปิดปรับปรุงไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 และกำลังจะเปิดบริการใหม่อีกครั้งวันที่ 12 กันยายน 2565 โดย บริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ใช้งบลงทุนไปกว่า 15,000 ล้านบาทในการพลิกโฉมใหม่ทั้งหมด
- ศูนย์ฯ สิริกิติ์ถือเป็นศูนย์การประชุมแห่งแรกของไทย เปิดบริการครั้งแรกปี 2534 เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมประจำปีของธนาคารโลก จากนั้นก็ได้รองรับงานสำคัญของประเทศต่อเนื่อง เป็นส่วนสำคัญในธุรกิจ MICE ของประเทศไทย
- อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดบริการมาเกือบ 30 ปี พื้นที่โครงการก็เริ่มรองรับผู้เยี่ยมชมหรือผู้เข้าประชุมได้ไม่เพียงพอ และต้องอัปเดตโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัยขึ้น จึงจำเป็นต้องปิดปรับปรุงไปกว่า 3 ปี
- คอนเซ็ปต์ของโครงการปรับปรุงใหม่นั้นยังมีจิตวิญญาณเดิมของศูนย์ฯ สิริกิติ์ คือ สืบสาน รักษา ต่อยอดความเป็นไทย แต่มีการผสมผสานให้เข้ากับความเป็นสากลมากขึ้น และเน้นการตกแต่งภายในด้วยลายผ้าไทยจาก “ฉลองพระองค์” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
- ในแง่โครงสร้างพื้นฐาน พื้นที่โครงการศูนย์ฯ สิริกิติ์มีการปรับให้ใหญ่ขึ้นเกือบ 5 เท่า ปัจจุบันมีพื้นที่ 300,000 ตร.ม. และเพิ่มที่จอดรถเป็น 3,000 คัน พร้อมกับมีทางเชื่อมใต้ดินกับสถานีรถไฟฟ้า MRT สามารถรองรับการจัดงานได้ทุกรูปแบบ
- ขณะนี้ศูนย์ฯ สิริกิติ์มีการจองจัดงานเข้ามาแล้วถึง 160 งานจนถึงสิ้นปี 2566 โดยมีไฮไลต์งานสำคัญที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เช่น
– Huawei Connect งานใหญ่ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี จัดวันที่ 18-21 กันยายน 65 (ปกติจัดที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน)
– Asia Pacific Leather Fair หรือ APLF งานแสดงสินค้าเครื่องหนังระดับโลก จัดวันที่ 19-21 ตุลาคม 65 (ปกติงานจะจัดที่ฮ่องกง)
– T-Pop Concert Fest งานคอนเสิร์ตรวมศิลปินเพลงป๊อปชั้นนำของไทย จัดวันที่ 29-30 ตุลาคม 65
– Asia Fruit Logistica งานแสดงสินค้านานาชาติด้านผักและผลไม้แห่งเอเชีย จัดวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 65 (ปกติงานจะจัดที่ฮ่องกง)
– Jewellery & Gem ASEAN Bangkok (JGAB) งานแสดงสินค้าอัญมณี รวบรวมการค้าขาย สัมมนา กิจกรรมความรู้เพื่อผู้ซื้อและซัพพลายเออร์ จัดวันที่ 2-5 พฤศจิกายน 65 (ปกติงานจะจัดที่สิงคโปร์)
– งานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC 2022) ที่จะจัดวันที่ 13-18 พฤศจิกายน 65
เห็นได้ว่าศูนย์ฯ สิริกิติ์ใหม่จะรองรับงานได้ทุกประเภท ตั้งแต่งานประชุมระดับโลก งานเทรดแฟร์ คอนเสิร์ต และงานจำหน่ายสินค้าต่างๆ สามารถดึงดูดงานที่เคยจัดในประเทศอื่นเข้ามาสร้างเศรษฐกิจ MICE ในประเทศไทยได้
งานที่เป็นซิกเนเจอร์ของศูนย์ฯ สิริกิติ์จะกลับมาทั้งหมด เช่น Book Expo (งานหนังสือ), Thailand Game Show, Mobile Expo โดยงานหนังสือถือเป็นงานพิสูจน์ศักยภาพการรองรับผู้เยี่ยมชม เชื่อว่าหลังปรับโฉมใหม่แล้วจะทำให้รองรับคนได้เพิ่มขึ้นเป็น 200,000 คนต่อวัน จากเดิม 100,000 คนต่อวัน
- จากการปรับปรุงทั้งหมด ศูนย์ฯ สิริกิติ์เชื่อว่าจะทำให้สามารถรองรับงานอีเวนต์เพิ่มได้เป็น 300-400 งานต่อปี จากที่เคยรองรับได้กว่า 100 งานต่อปี มากขึ้นกว่าเดิม 3-4 เท่า
- สำหรับราคาค่าเช่านั้นจะสูงกว่าศูนย์ประชุมอื่นรอบนอกเมืองประมาณ 20% เพราะศูนย์ฯ สิริกิติ์ถือว่ามีโลเคชันใจกลางเมือง และเป็นศูนย์ฯ ที่ใหม่และทันสมัยที่สุด ณ ขณะนี้
ชมภาพทั้งหมดบน Facebook Page @Positioningmag ที่นี่