เว็บค้นหาอสังหาฯ เปิดใหม่ “Property Mall” ใช้ AI เสนอขาย เก็บค่าคอมฯ แทนค่าโฆษณา

โบรกเกอร์ “วีบียอนด์” เปิดตัวธุรกิจใหม่ แพลตฟอร์มค้นหาอสังหาฯ “Property Mall” สร้างความต่างด้วยการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและเสนอสินค้าที่น่าจะโดนใจ วางโครงสร้างธุรกิจเก็บ “ค่าคอมมิชชั่น” เมื่อขายได้ แทนการเก็บค่าโฆษณาเหมือนเว็บอื่นๆ คาดหวังธุรกิจใหม่ช่วยดันกำไรบริษัทขึ้นแตะ 600 ล้านบาทภายในปีหน้า

“วรเดช รุกขพันธ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด เปิดตัวธุรกิจใหม่ในเครือ แพลตฟอร์ม “Property Mall” แหล่งค้นหาเพื่อซื้อขาย เช่า ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทย ขณะนี้สามารถค้นหาได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ แต่จะพัฒนาแอปพลิเคชันต่อเนื่อง คาดใช้งานแอปฯ ได้ไม่เกินมกราคม 2566

ความแตกต่างของ Property Mall จากเว็บไซต์ค้นหาอสังหาฯ อื่นๆ วรเดชกล่าวว่ามาจากการใช้ AI เข้ามาช่วยประเมินความต้องการลูกค้า และเสนอสินค้าที่น่าจะเหมาะสมให้ จากปกติเว็บไซต์อื่นจะเป็นการเข้าไปค้นหาเอง โดยอาจมีให้เลือกเฉพาะทำเล ประเภทอสังหาฯ และราคา จากนั้นลูกค้าต้องเลื่อนหาเองไปทีละรายการ

“ในขั้นตอนสมัครสมาชิก ลูกค้าสามารถกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตนเองลงไปได้อย่างละเอียด จากนั้นเมื่อค้นหาอสังหาฯ AI จะหาสินค้าที่ดีกับเรามากที่สุดมาเสนอ เช่น ใกล้ทั้งออฟฟิศ ใกล้โรงเรียนลูก และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราที่ชอบช้อปปิ้งด้วย” วรเดชกล่าว

“วรเดช รุกขพันธ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด

รวมถึงการลงทุนในอสังหาฯ ก็สามารถปรึกษาเบื้องต้นกับแพลตฟอร์มได้เช่นกัน โดยระบบสามารถแนะนำแพ็กเกจการลงทุนที่เหมาะกับลูกค้าว่าควรลงทุนที่ไหน จากการประเมินผลตอบแทน (yield) ที่ลูกค้าเลือกและความเสี่ยงที่รับได้

ปัจจุบัน Property Mall มีดีเวลอปเปอร์ร่วมเป็นพันธมิตรแล้วกว่า 50 ราย มีทรัพย์ที่อยู่ในแพลตฟอร์มแล้วกว่า 100 โครงการ ดีเวลอปเปอร์เจ้าใหญ่ที่ลงขายกับแพลตฟอร์มนี้ เช่น แสนสิริ, เสนาฯ, เอสซี แอสเสท, ณุศาศิริ, CMC เป็นต้น

“เราวางเป้าว่าภายใน 5 ปีจะดึงดีเวลอปเปอร์ครึ่งหนึ่งของตลาดมาขายกับเรา” วรเดชกล่าว ทั้งนี้ ประเมินว่าขณะนี้มีดีเวลอปเปอร์รวมกว่า 700 รายในตลาด รวมทั้งรายใหญ่ไปจนถึงรายเล็กที่ทำโครงการระดับท้องถิ่น

Property Mall
หน้าเว็บไซต์ Property Mall

อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ Property Mall ต่างออกไปคือ ธุรกิจหลักของบริษัทแม่มาจากการเป็นเอเย่นต์/โบรกเกอร์ขายอสังหาฯ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2555 ทำให้ฟีเจอร์ในเว็บไซต์จะเพิ่มเรื่อง “โปรโมชัน” ที่ลูกค้าต้องการ เนื่องจากทรัพย์ที่นำมาขายในแพลตฟอร์มนั้นเอเย่นต์วีบียอนด์เป็นผู้ดูแลการขายอยู่แล้ว ทำให้ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อเอเย่นต์เพื่อต่อรองโปรโมชันกลับไปที่ผู้ประกอบการได้

รวมถึงโครงสร้างธุรกิจจะต่างจากเว็บไซต์ค้นหาอสังหาฯ อื่นซึ่งมีรายได้หลักจากค่าโฆษณา (ผู้ประกอบการหรือเอเย่นต์จ่ายค่าโฆษณาเพื่อให้ทรัพย์ของตนเองอยู่ในลำดับแรกๆ เมื่อลูกค้าค้นหา) เมื่อ Property Mall เป็นโบรกเกอร์เองด้วย ทำให้จะได้รายได้จาก “ค่าคอมมิชชั่น” เมื่อขายทรัพย์รายการนั้นสำเร็จ โดยคิดค่าคอมฯ ตั้งแต่ 3% จนถึงสูงสุด 20%

วรเดชกล่าวต่อว่า สำหรับวีบียอนด์ เมื่อปี 2564 ทำกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท เป้าปี 2565 จะทำกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท คาดหวังปี 2566 จากการเปิด Property Mall น่าจะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นไปถึง 600 ล้านบาท

ส่วนเป้าหมายระยะกลางของแพลตฟอร์มนี้ ภายใน 3 ปีหวังว่าจะทำยอดขายได้ 50,000 ล้านบาทต่อปีสำหรับทรัพย์มือหนึ่ง และยอดขาย 10,000 ล้านบาทต่อปีสำหรับทรัพย์มือสองที่จะนำมาขายในแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน