นักวิชาการฮาร์วาร์ดชี้ ‘มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก’ กำลังพา ‘Meta’ ดิ่งเหวเพราะเป็น ‘ผู้นำ’ ยอดแย่!

Bill George ศาสตราจารย์ผู้อาวุโสที่ Harvard Business School (HBS) และเป็นอดีตซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีทางการแพทย์ Medtronic ที่ใช้เวลากว่า 20 ปีเพื่อศึกษาถึง ความล้มเหลวในการเป็นผู้นำในการทำงาน พร้อมกับออกหนังสือใหม่ชื่อ “True North: Leading Authentically in Today’s Workplace, Emerging Leader Edition” โดย George ได้ออกความเห็นถึงสถานการณ์ของ Facebook ว่าจะ ตกขบวน หากยังมี มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เป็นซีอีโอ

Bill George ให้ความเห็นว่า จากการที่เขาค้นคว้าข้อมูลการล่มสลายของบริษัทที่มีชื่อเสียงมาหลายทศวรรษ เขาเห็นความคล้ายคลึงในหลายด้านที่แสดงให้เห็นว่า ทักษะความเป็นผู้นำที่ย่ำแย่ ของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) กำลังดึง Meta ไปสู่ความล้มเหลวอย่างช้า ๆ โดย George ให้ 3 เหตุผล ว่าทำไม Meta จะต้องล้มเหลว ตราบใดที่ Zuckerberg ยังคงเป็นผู้กำหนดทิศทางบริษัท

โทษแต่คนอื่นไม่โทษตัวเอง

George กล่าวว่า Zuckerberg เป็นคนหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง เป็นประเภทของ เจ้านายที่ไม่เต็มใจที่จะรับรู้หรือเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง โดยพวกเขามักหาเหตุผลเข้าข้างตนเองในความผิดพลาด พร้อมกับโยนความผิดนั้นให้ผู้อื่น

อย่างในเดือนกุมภาพันธ์ Meta สูญเสียมูลค่าตลาดกว่า 2.3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดของหุ้นสหรัฐฯ ในหนึ่งวัน โดยทาง Zuckerberg และผู้บริหารของเขาแทนที่จะโทษตัวเอง กลับโทษถึงปัญหาอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ Apple เปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัว ทำให้กำหนดเป้าหมายโฆษณาไปยังผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้ยากขึ้น รวมถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งอย่าง TikTok

แน่นอนปัจจัยเหล่านั้นอาจมีส่วน แต่ก็มีปัจจัยอื่น ๆ ที่เกิดจากวิสัยทัศน์ที่จะไปสู่ Metaverse โดยลงทุนวิจัยและพัฒนาในเรื่องดังกล่าวอย่างมหาศาล ซึ่งแผนกดังกล่าวของ Meta ขาดทุนแล้วกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2021 เพียงปีเดียว และขาดทุนอีก 2.8 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2022 นอกจากนี้ เขายังคาดว่าบริษัทของเขาจะสูญเสียเงินในอีก 3-5 ปีข้างหน้ากับการลงทุนใน Metaverse

“ตราบใดที่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ยังอยู่เป็นซีอีโอ ผมไม่คิดว่า Meta จะกลับมาดีขึ้น เขาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนจำนวนมากหันหลังให้กับบริษัท เขาหลงทางจริง ๆ”

Metaverse
Photo : Shutterstock

ไม่รับฟังใคร

Zuckerberg เป็นเจ้านายที่มักไม่ยอมรับความช่วยเหลือ คำแนะนำ หรือคำติชม ซึ่งทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะผิดพลาด ในช่วงแรก ๆ ที่เขาสร้าง Facebook ให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์นั้น เขาได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้ เช่น

Roger McNamee ผู้ร่วมก่อตั้ง Elevation Partners บริษัทไพรเวทอิควิตี้ และนักลงทุนรายแรกใน Facebook ในปี 2006 โดย McNamee แนะนำให้ Zuckerberg ปฏิเสธข้อเสนอของ Yahoo ในการซื้อ Facebook ในราคา 1 พันล้านดอลลาร์ ในเวลาต่อมา McNamee สนับสนุนให้ Zuckerberg จ้างอดีต COO Sheryl Sandberg ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างธุรกิจโฆษณาและการดำเนินงานภายในของบริษัท

จะเห็นว่าหาก Zuckerberg เชื่อการตัดสินใจของตัวเองโดยไม่ฟัง McNamee แพลตฟอร์ม Facebook อาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ และการตัดสินใจของ McNamee ได้พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่เมื่อ Meta เติบโตขึ้น ในที่สุด Zuckerberg ก็หยุดฟัง McNamee

โดยในปี 2016 McNamee พยายามเตือน Zuckerberg เกี่ยวกับผลกระทบของการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งของสหรัฐฯ บนแพลตฟอร์มของ Facebook แต่ Zuckerberg ปฏิเสธคำเตือนโดยไม่สนใจ McNamee เป็นเวลาหลายเดือน จนหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปตั้งแต่นั้นมาว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มหลักในความพยายามแทรกแซงของรัสเซีย ซึ่งอาจมีส่วนทำให้ได้ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี

ให้ความสำคัญกับผลกำไร

ข้อสุดท้าย George ระบุว่า เป็นเพราะ Zuckerberg แสวงหาแต่ความรุ่งโรจน์เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มีอยู่จริง ๆ และอยากจะไปสู่จุดสูงสุดเพื่อรับมากขึ้น โดย Zuckerberg ให้ความสำคัญกับผลกำไรและการเติบโตของ Meta แม้จะ เสียผู้ใช้หลายพันล้านคน ก็ตาม

โดยแพลตฟอร์มของ Meta มีข่าวเกี่ยวกับผลกระทบในเรื่องความเป็นส่วนตัวและสุขภาพของผู้ใช้มาเป็นเวลานาน อย่างในกรณีที่เกิดจากการสืบสวนของ Wall Street Journal เมื่อปีที่แล้วที่พบว่าแพลตฟอร์ม Instagram ที่ Meta เป็นเจ้าของนั้นมีส่วนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตของผู้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กผู้หญิงวัยรุ่น การตรวจสอบพบว่าผู้นำ Meta เลือกที่จะเพิกเฉยต่อปัญหาเพื่อให้แพลตฟอร์มยังเติบโต การตัดสินใจชี้ให้เห็นว่า Zuckerberg ให้ความสำคัญกับรายได้เหนือสิ่งอื่นใด

สุดท้าย George แนะนำ Zuckerberg ว่า หากอยากการกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องควร ใช้เวลาว่างจากงานและตั้งสมองใหม่ โดยต้องถอยออกมาใช้เวลาช่วงวันหยุดเพื่อให้ตัวเอง กลับมาคิดถึงแบรนด์ Purpose และ Values จากนั้นนำทีมและคณะกรรมการของคุณเข้ามาร่วมกันเพื่อสร้าง Facebook ขึ้นใหม่

Source