“รพ.กรุงเทพ” ก้าวสู่ยุค Digital Transformation พัฒนานวัตกรรมรองรับไลฟ์สไตล์ ไปไกลกว่าการรักษา


พื้นฐานของโรงพยาบาลคือมาตรฐานการรักษาได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่ “รพ.กรุงเทพ” ขอตั้งเป้าไปไกลกว่านั้น เพราะนอกจากความเชี่ยวชาญของแพทย์แล้ว ยังต้องการเป็นโรงพยาบาลที่สามารถบริการคนไข้ได้อย่างรอบด้าน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ทำให้โรงพยาบาลกรุงเทพประกาศสร้าง ‘Digital Transformation’ พัฒนาเทคโนโลยี-นวัตกรรมใหม่เพื่อผู้ป่วย การพบแพทย์ของผู้ป่วยหรือคนในครอบครัวจึงเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายและอุ่นใจมากขึ้น จากแคมเปญ “Your Healthcare Intelligence” ปีนี้

เมื่อโลกเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล แม้แต่ธุรกิจสุขภาพก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน “พญ.เมธินี ไหมแพง” รองประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 1 และผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวถึงที่มาของการสร้าง Digital Transformation ในโรงพยาบาลกรุงเทพ ว่าองค์กรเล็งเห็นความเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของผู้มารับบริการ ประกอบกับนโยบายหลักของโรงพยาบาลกรุงเทพ คือ “การให้ความสำคัญกับผู้ป่วยหรือผู้รับบริการเป็นที่ตั้ง” (Patient Centric Approach) ทำให้โรงพยาบาลกรุงเทพมีเป้าหมายในการปรับตัวไปสู่โลกดิจิทัลมานาน 4-5 ปีแล้ว แต่ช่วงที่ผ่านมาได้มุ่งเน้นเข้มข้นขึ้นเพราะแรงขับเคลื่อนจากสถานการณ์โควิด-19

“เทคโนโลยีดิจิทัลส่งผลให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะเป็นสิ่งที่เข้ามาอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้พวกเราทุกคน” พญ.เมธินีกล่าว

“องค์กรของเราจึงเริ่มเน้นการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนในยุคปัจจุบัน เช่น ช่วยให้ผู้ป่วยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ผู้ป่วยสามารถค้นหาข้อมูลสุขภาพและติดต่อแพทย์หรือโรงพยาบาลได้ผ่านทางอุปกรณ์ดิจิทัล หรือในกรณีที่ต้องมารับการรักษาในโรงพยาบาล ก็สามารถนัดหมายวันเวลาที่ตรงใจได้ผ่านทางดิจิทัลเช่นกัน”

แนวคิดเหล่านี้ทำให้ปีนี้โรงพยาบาลกรุงเทพมีแคมเปญ “Your Healthcare Intelligence”  เกิดขึ้น และสร้างนวัตกรรมต่างๆ ทั้งหมด 5 หัวข้อที่ผู้รับบริการจะได้สัมผัส ดังนี้

1) นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตรวจวินิจฉัยโรคขั้นสูง

ปัจจุบันเราได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยทางการแพทย์ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น AI หรือ Robot ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ เรามั่นใจในความชำนาญและประสบการณ์ของทีมแพทย์ แต่หากมีเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาและความสะดวกสบายให้กับลูกค้าหรือผู้รับบริการ เราพร้อมที่จะนำมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เช่น Inspectra CXR เทคโนโลยีนี้สามารถวิเคราะห์ความผิดปกติจากภาพรังสีทรวงอกได้ละเอียด รวดเร็ว ชัดเจน ไม่เพียงช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ตรงจุด ยังช่วยให้ผู้ป่วยมั่นใจในคุณภาพการตรวจรักษาที่มีประสิทธิภาพ

2) B At Home Services ไม่ว่าที่ไหนเราพร้อมดูแลคุณ บริการนี้เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดแนวทางการบริการผู้ป่วยผ่านดิจิทัลหรือบริการถึงบ้าน ได้แก่

– บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์

– บริการจัดส่งยาทั่วประเทศไทย

– บริการเจาะเลือดที่บ้าน

– บริการฉีดวัคซีนถึงบ้าน โดยบริการวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันปอดอักเสบในผู้ใหญ่ และอื่นๆ

– บริการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ที่บ้าน

3) B With You มั่นใจทุกความเคลื่อนไหวการผ่าตัด

เพื่อความสบายใจของผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยเมื่อจะต้องเข้ารับการผ่าตัด ระบบ B With You จะทำให้ครอบครัวหรือผู้ใกล้ชิดสามารถติดตามสถานะการผ่าตัดของผู้ป่วยได้ผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่การเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด อยู่ระหว่างทำหัตถการ เข้าสู่ห้องพักฟื้น และสิ้นสุดกระบวนการผ่าตัด รวมถึงให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยในการเตรียมตัวผ่าตัดและข้อควรระวังหลังผ่าตัดเสร็จสิ้น พร้อมทั้งติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านระบบนี้ได้ทันทีหากมีข้อสงสัย

4) B In Touch อุ่นใจทุกการดูแลจากโรงพยาบาลกรุงเทพ เช่นเดียวกับการติดตามการผ่าตัด หากผู้ป่วยต้องพักรักษาในโรงพยาบาล B In Touch จะทำให้ผู้ป่วยในและผู้ใกล้ชิดสามารถติดตามสถานะการรักษาได้ แสดงรายละเอียดกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วยในและสามารถเลือกเวลางดเยี่ยมเองได้ ในระบบยังมีรายชื่อทีมแพทย์และพยาบาลที่ดูแลทั้งหมดโดยสามารถให้คะแนนแสดงความเห็นได้ รวมถึงสามารถตรวจสอบค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นได้ในระบบ

5) My B+ Application คลิกเดียวครบทุกข้อมูลสุขภาพของคุณ

แอปพลิเคชันรวมทุกข้อมูลสุขภาพไว้ในมือถือ ทำให้ผู้รับบริการของ โรงพยาบาลกรุงเทพ สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเองได้ทั้งหมด เช่น ประวัติสุขภาพ ข้อมูลผลแล็บ ผลตรวจโควิด-19 ข้อมูลยา การนัดหมายแพทย์ด้วยตนเอง ใบรับรองแพทย์ เป็นต้น รวมถึงคนไข้สามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ผ่านแอปฯ และชำระเงินด้วยระบบ e-Payment

แคมเปญ Your Healthcare Intelligence ยังสร้างสรรค์หนังโฆษณาชุดนี้เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นว่า การนำเทคโนโลยีมาใช้บริการจะช่วยอำนวยความสะดวกอย่างไร



อนาคต “รพ.กรุงเทพ” ไม่หยุดการพัฒนา

พญ.เมธินีกล่าวต่อว่า สำหรับอนาคตของ โรงพยาบาลกรุงเทพ ก็จะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาการดูแลและบริการให้ “ไปไกลกว่าการรักษา” ต่อไป เพื่อให้เป็น “บริการที่ไร้รอยต่อ สะดวก รวดเร็ว แต่ยังอยู่ในมาตรฐานความปลอดภัย”

“เราอยากสร้างความประทับใจและอยากให้ลูกค้าได้รับการดูแลรักษาที่ดีที่สุด ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการ เราจึงไม่หยุดที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเข้ามาพัฒนาบริการทางการแพทย์ในทุกมิติ มีการวางแผนอย่างรอบคอบ มีกระบวนการที่พิถีพิถันและผ่านการคิดมาเพื่อลูกค้าและผู้รับบริการของเราอย่างรอบด้าน” พญ.เมธินีกล่าว

เมื่อถามถึง “เทรนด์อนาคต” ที่ทางโรงพยาบาลกรุงเทพเล็งเห็น พญ.เมธินีกล่าวถึง “การดูแลเชิงป้องกัน” (Proactive Care/Predictive Care) ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพก่อนจะเจ็บป่วย เทรนด์นี้จะเป็นสิ่งที่ทางโรงพยาบาลมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมเพื่อดูแลผู้รับบริการให้มากขึ้น

“เราจะมุ่งเน้นการดูแลเชิงป้องกันเพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดีในระยะยาว ตรงนี้เป็นโจทย์ของเราที่จะต้องค้นหาว่าวิธีการใดที่จะช่วยให้ลูกค้ามีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงในทุกมิติและทุกช่วงวัย ไม่ควรรอให้เจ็บป่วยแล้วถึงมารักษา แต่คือการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องในทุกช่วงของชีวิต” พญ.เมธินีกล่าวปิดท้าย