กลุ่ม “เจียอาภา” เปิดโรงแรม “แอนดาซ” แห่งแรกในไทย ที่พักหรูแพงสุดคืนละ 5 แสนบาท!

เจียอาภา แอนดาซ พัทยา
ตระกูล “เจียอาภา” ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทอาหารทะเลส่งออก “ซีเฟรช” เปิดธุรกิจส่วนตัวบนที่ดินสะสม “แอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช” โดยแบรนด์แอนดาซเป็นแบรนด์ในเครือไฮแอท เปิดตัวที่นี่เป็นแห่งแรกในไทย หวังปั้นเป็นแม่เหล็กดึงกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์เข้าสู่พัทยา ไฮไลต์โรงแรมเป็นเรือนไทย 6 ห้องนอน รีโนเวตรับแขกเข้าพักสนนราคาคืนละ 5 แสนบาท

ธุรกิจหลักคืออาหารทะเลส่งออก บริษัท ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) แต่ธุรกิจส่วนตัวที่เป็น ‘แพสชัน’ ของตระกูล “เจียอาภา” คืออสังหาริมทรัพย์ โดยทั้งเจน 1 “ณฤทธิ์ เจียอาภา” และเจน 2 “ชินทัต เจียอาภา” ร่วมกันปั้นผ่าน บริษัท ชาร์เตอร์ สแควร์ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทที่เริ่มจากการลงทุนอาคารสำนักงาน ชาร์เตอร์ สแควร์ บนถ.สาทรเหนือ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน

“ณฤทธิ์” เริ่มเล่าถึงที่มาของการเข้าลงทุนในพัทยาว่า เกิดจากครอบครัวสะสมที่ดินไว้ในพัทยามานาน รวมแล้วมีมากกว่า 1,000 ไร่ และเมื่อพัทยาเจริญขึ้นจากเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ทำให้ต้องการจะพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่เป็น ‘แลนด์มาร์ก’ ขึ้น

เจียอาภา
เจน 1 “ณฤทธิ์ เจียอาภา” และเจน 2 “ชินทัต เจียอาภา”

เริ่มจากเมื่อปี 2561 เจียอาภาเปิดบริการ “สนามกอล์ฟ ชีจรรย์ กอล์ฟ รีสอร์ท”  ทำเลบริเวณเขาชีจรรย์ ใช้พื้นที่ 500 ไร่ ปัจจุบันเป็นสนามกอล์ฟที่ดีในระดับแถวหน้าของเมืองไทย

ตามด้วยการพัฒนาที่ดินอีกแปลงหนึ่งติดหน้าหาดนาจอมเทียน-บางเสร่ โดยใช้ที่ดิน 38 ไร่ พัฒนาเป็นโรงแรม “แอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช” จำนวนห้องพัก 204 ห้อง มูลค่าการลงทุน 5,300 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดแกรนด์โอเพนนิ่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566

 

แพงสุดที่ “เรือนไทย” สนนราคาคืนละ 5 แสนบาท

รายละเอียดของโรงแรม “แอนดาซ” เป็นแบรนด์ในเครือไฮแอทที่เปิดมาแล้ว 25 แห่งใน 16 ประเทศทั่วโลก คอนเซ็ปต์แบรนด์เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวลักชัวรีที่มีสไตล์ มีความเป็นตัวของตัวเอง และเน้นดีไซน์ที่เข้ากับท้องถิ่น เช่นที่แอนดาซ พัทยาฯ จะเน้นสถาปัตยกรรมสไตล์ไทย ตกแต่งด้วยเครื่องหัตถกรรมไทย และยังใช้สถาปนิกไทยในการออกแบบคือ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49)

แอนดาซ พัทยา
แอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช หน้ากว้างติดหาด 170 เมตร

โรงแรมแอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช จะเปิดที่เมืองไทยเป็นที่แรกที่นี่ ใช้คอนเซ็ปต์ทรอปิคอล เนื่องจากต้องการจะเก็บบรรยากาศความร่มรื่นเดิมของที่ดินที่มีต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก บางต้นมีอายุร่วมร้อยปี และยังเก็บเรือนไทยโบราณในที่ดินไว้เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมด้วย แต่นำมารีโนเวตให้ทันสมัยและบางหลังต่อเติมให้ใหญ่ขึ้น ได้แก่

  • President Heritage House ขนาด 1,000 ตร.ม. 6 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว
  • Manor House 4 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว
  • เรือนน้ำชา คาเฟ่บนเรือนไทยไม้สักแบบดั้งเดิม
เรือนไทย 6 ห้องนอน President Heritage House สนนราคาคืนละ 5 แสนบาท

President Heritage House นี้จะเปิดจองในราคาคืนละ 500,000 บาท นับว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดในพัทยา ส่วนห้องพักปกติราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 8,000 บาทต่อคืน แต่ในช่วงไฮซีซันเชื่อว่าจะทำราคาขึ้นไปได้ถึง 10,000-15,000 บาทต่อคืน

เป้าหมายของเรือนไทยราคาระยับขนาดนี้ไม่ได้มองเฉพาะแขกผู้เข้าพัก แต่สามารถดัดแปลงเป็นสถานที่จัดอีเวนต์ ถ่ายทำภาพยนตร์/โฆษณาได้เช่นกัน

 

เปลี่ยนพัทยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว “ไฮเอนด์”

ด้วยทำเลของแอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช นั้นขยับออกมาจากกลางเมืองพัทยาที่เป็นแหล่งไนต์ไลฟ์ ทำให้เป้าหมายของที่นี่ต้องการจะดึงนักท่องเที่ยวด้วยมุมใหม่ เป็นพัทยาในโซนที่ยังคงเงียบสงบ

บริเวณทางเข้าล็อบบี้

“แพสชันของเราในการสร้างทั้งสนามกอล์ฟและโรงแรม เราต้องการจะสร้างตำนานมากกว่าธุรกิจ เพราะสนามกอล์ฟและโรงแรมแบบนี้ ถ้าคิดเรื่องเงินเป็นที่ตั้งจะไม่มีใครอยากทำ เพราะจริงๆ เนื้อที่ 38 ไร่เราทำ 3,000 ห้องก็ได้ แต่เราทำแค่ 204 ห้องเพราะเราต้องการความงาม ความสงบ เป็นสิ่งที่ยกระดับพัทยาได้ในทางอ้อมว่าพัทยาเรามีโรงแรมระดับโลก และดึงดูดคนระดับไฮเอนด์เข้ามา” ณฤทธิ์กล่าว

ในเชิงความเป็นไปได้นั้น เครือไฮแอทให้ข้อมูลว่า โรงแรมระดับลักชัวรีในพัทยาทั้งที่เปิดแล้วและกำลังก่อสร้างมีราว 10 แห่ง ที่เปิดบริการแล้วปัจจุบันมีอัตราเข้าพักอยู่ที่ 72% จะเห็นได้ว่าเทรนด์โรงแรมหรูราคา 10,000 บาทต่อคืนขึ้นไปนั้นกำลังมาแรง

Positioning สำรวจตลาดโรงแรมหรูพัทยา พบว่าแบรนด์ใหญ่ๆ ที่มาปักหมุดทำเลแล้ว เช่น ฮิลตัน พัทยา, อินเตอร์คอนติเนนตัล พัทยา, เรเนซองส์ พัทยา, ยู พัทยา เป็นต้น

ตัวอย่างห้องพักแบบ Deluxe

ณฤทธิ์กล่าวว่า โรงแรมหรูกำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นเพราะเจ้าของธุรกิจ/ซีอีโอบริษัทที่มีโรงงานในพื้นที่อีอีซี กลุ่มนี้จะต้องการที่พักระดับลักชัวรี แต่โรงแรมหรูในพัทยาไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะบินเข้ามาจากทั่วโลก ทำให้เชื่อว่าปี 2566 อัตราเข้าพักโรงแรมแอนดาซ พัทยาฯ น่าจะแตะ 70%

 

ที่ดินเหลือรอบสนามกอล์ฟ รอจังหวะปลูกบ้านเดี่ยว

ด้านชินทัตกล่าวต่อว่า โครงการอสังหาฯ แห่งต่อไปยังไม่ได้ตัดสินใจแน่ชัด แต่ที่เล็งเห็นศักยภาพคือ ที่ดินรอบสนามกอล์ฟชีจรรย์ ปัจจุบันคุณพ่อนำไปลงทุนสวนทุเรียนอีก 100 ไร่ แต่ก็ยังเหลืออยู่ถึง 400 ไร่ที่มองว่าสามารถพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรรอบสนามกอล์ฟได้

เป้าหมายคล้ายกับโรงแรมแอนดาซ พัทยาฯ คือเห็นว่ามีนักธุรกิจ ผู้บริหารระดับสูง ต้องการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ในพัทยามากขึ้น

เจียอาภา
สนามกอล์ฟชีจรรย์

สำหรับสนามกอล์ฟชีจรรย์ ชินทัตกล่าวว่าช่วงโควิด-19 ถือเป็นช่วงที่ท้าทายมากเพราะจะมีระยะที่ถูกรัฐสั่งปิดเพื่อป้องกันโรคระบาด แต่ปัจจุบันลูกค้ากลับมาเป็นปกติแล้ว จากช่วงปี 2562 มีนักกอล์ฟเข้าสนาม 20,000 กว่าคน ปี 2565 นี้เชื่อว่าจะมีนักกอล์ฟแตะ 30,000 คน โดย 70% เป็นชาวต่างชาติ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น โดยเป้าหมายสูงสุดต้องการให้มีนักกอล์ฟเข้าสนามปีละ 35,000 คน ทำให้ใกล้จะถึงเป้าหมายแล้ว

ที่ดินของตระกูลเจียอาภายังมีอีกหลายแปลง รวมถึงในกรุงเทพฯ ด้วย แปลงหนึ่งในซอยคอนแวนต์เพิ่งตัดขายให้กับกลุ่มพราวด์หลังครอบครัวตัดสินใจพับโครงการโรงแรมไป อย่างไรก็ตาม ชินทัตเล็งทำเลที่ดิน 4 ไร่ของตระกูลบน ถ.เชื้อเพลิง ที่อนาคตอาจจะพัฒนาเป็นโครงการอสังหาฯ ได้เช่นกัน