ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.00% เป็น 1.25% ต่อปี และในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจมีการขึ้นดอกเบี้ยต่อในปีหน้า
การขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้สอดคล้องกับ ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg จำนวน 21 รายนั้น 20 รายได้มองเห็นตรงกันว่า กนง. จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% มีเพียงนักเศรษฐศาสตร์รายเดียวที่มองว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยไว้ และตรงกับผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของสำนักข่าว Reuters ทั้งหมด 21 รายนั้นมีนักเศรษฐศาสตร์ 19 รายมองว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ขณะที่เหลืออีก 2 รายมองว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย
รายงานของ กนง. ได้กล่าวถึงเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้ผลดีจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคของภาคเอกชน ซึ่งจะช่วยลดทอนผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงได้ นอกจากนี้ กนง. ยังชี้ว่าการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังเป็นแนวทางการดําเนินนโยบายที่สอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและ แนวโน้มเงินเฟ้ออีกด้วย
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยนั้น กนง. คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 3.2% ปรับลดลงจากการประชุมในเดือนกันยายนที่คาดไว้ 3.3% ขณะที่ในปี 2023 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโตได้ 3.7% ปรับลดลงจาก 3.8%
นอกจากนี้ในรายงาน กนง. ยังกล่าวถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ต้องติดตาม และถ้าหากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อไทยเปลี่ยนไปจากที่ประเมินไว้ กนง. ก็พร้อมที่จะปรับขนาดและ เงื่อนเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ดีความน่าสนใจในการประชุม กนง. ครั้งนี้มีคณะกรรมการ 1 ท่านที่เสนอให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้มากถึง 0.5%
มุมมองของ UOB สถาบันการเงินของสิงคโปร์ได้ออกบทวิเคราะห์หลังจากการประชุมดังกล่าว โดยมองว่าทาง กนง. จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีหน้า และจะคงดอกเบี้ยยาวไปถึงปี 2024 ขณะที่เรื่องเงินเฟ้อนั้นมองว่าเงินเฟ้อของไทยน่าจะลดลงเข้าตามเป้าของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ในปีหน้า