Goldman Sachs เตรียม “เลย์ออฟ” พนักงานอีกหลายพันคน หวั่นเศรษฐกิจปี 2023 แย่ลง

กระแสการปลดพนักงานยังไม่จบ ล่าสุด ‘Goldman Sachs’ เตรียม “เลย์ออฟ” พนักงานเพิ่มอีกหลายพันคน เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจปีหน้าที่อาจจะย่ำแย่ลงมากกว่านี้

การเลย์ออฟครั้งนี้เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าตลาดแรงงานของ Wall Street แหล่งธุรกิจการเงินของสหรัฐฯ กำลังเป็นขาลง รายได้ของกลุ่มวาณิชธนกิจตกต่ำลงมากในปีนี้เนื่องจากการควบรวมกิจการที่น้อยลง เป็นภาพมุมกลับของสถานการณ์ในปี 2021 ที่ธุรกิจธนาคารทำกำไรสูง

สำหรับ Goldman Sachs มีพนักงานทั้งหมด 49,100 คนเมื่อสิ้นไตรมาส 3/2022 โดยบริษัทมีการเพิ่มพนักงานเป็นจำนวนมากในระหว่างเกิดโรคระบาด อย่างไรก็ตาม แม้จะเลย์ออฟอีกหลายพันคนแต่จำนวนพนักงานก็จะยังเหลือมากกว่าที่เคยมีในช่วงสิ้นปี 2019 (ก่อนเกิดโรคระบาด) เพราะขณะนั้นบริษัทมีจำนวนพนักงาน 38,300 คน

จำนวนพนักงานที่จะถูกปลดนั้นยังอยู่ระหว่างพิจารณา โดยคาดว่ารายละเอียดชัดเจนจะออกมาในช่วงต้นปี 2023 แต่ก่อนหน้านี้มีรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า จำนวนพนักงานที่ถูกเลย์ออฟน่าจะอยู่ที่ราวๆ 4,000 คน

ขณะที่โบนัสสิ้นปีนี้ก็คาดว่าจะถูกตัดสูงมาก แหล่งข่าววงในกล่าวกับ Reuters ว่า เทียบกับปี 2021 นายธนาคารที่ทำผลงานได้ในระดับสูงในปีนั้นเคยได้รับโบนัสสูงกว่าปกติถึง 40-50% ปีนี้คงได้เห็นโบนัสตรงข้ามกับเมื่อปีที่แล้ว

ด้านราคาหุ้นของ Goldman ปีนี้ลดลงไปเกือบ 10% แล้ว แต่ก็ยังถือว่าดีกว่าค่าเฉลี่ยรวมของดัชนี S&P 500 ซึ่งลดลง 24% นับตั้งแต่ต้นปี

 

แผนกลูกค้ารายย่อยต้องดิ้นรน

ในแผนการเลย์ออฟครั้งนี้ คาดว่าส่วนหนึ่งจะกระทบพนักงานแผนก ‘Marcus’ ซึ่งเป็นธนาคารสำหรับลูกค้ารายย่อยของ Goldman เนื่องจากเห็นสัญญาณมาสักพักแล้วว่า วิสัยทัศน์การเข้าสู่ตลาดธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยนั้นไม่สามารถทำกำไรได้ คาดกันว่า Marcus น่าจะถูกปลดพนักงานออกไปหลักหลายร้อยคน

แผนกลูกค้ารายย่อยนั้นเกิดจากวิสัยทัศน์ของ เดวิด โซโลมอน ซีอีโอบริษัท เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2018 เพื่อกระจายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจให้หลากหลาย จากปัจจุบัน Goldman ทำรายได้หลัก 65% มาจากธุรกิจวาณิชธนกิจ

สัญญาณการปลดพนักงานของบริษัท Goldman นั้นเริ่มมาพักใหญ่แล้ว โดยเมื่อเดือนกันยายน 2022 บริษัทมีการเลย์ออฟพนักงานไป 500 คน และถ้าย้อนไปถึงเดือนกรกฎาคม 2022 บริษัทเคยเอ่ยถึงนโยบายการจ้างงานที่จะเริ่มชะลอการจ้างเพิ่ม เพื่อลดต้นทุนบริษัท

ไม่ใช่แค่ Goldman Sachs ที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารที่เป็นสถาบันการเงินระดับโลก เช่น Morgan Stanley, Citigroup ต่างก็เริ่มปลดพนักงานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์ภาคการเงินไม่สู้ดีนัก ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ความตึงเครียดของสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง ไม่ใช่สัญญาณที่ดีกับเศรษฐกิจโลก

Source