คุยกับผู้บริหาร Qatar Airways ถึงอุตสาหกรรมการบิน และเทรนด์นักท่องเที่ยวที่กลับมาเติบโตอีกรอบ

ภาพจาก Shutterstock

Positioning ได้รับเกียรติพูดคุยกับ เบนเน็ต สตีเฟ่นส์ (Bennet Stephens) ผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีนของ Qatar Airways คนใหม่ ซึ่งมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการบินมาเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 20 ปี กับสายการบินต่างประเทศหลายแห่ง

ก่อนหน้าที่เขาจะย้ายมาเป็นผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีนนั้น เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำภูมิภาคตะวันออกของออสเตรเลีย และผู้จัดการอาวุโสประจำภูมิภาคแอฟริกามาก่อน

เขาได้เล่าถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด การปรับธุรกิจ ความท้าทายของสายการบิน และความมั่นใจต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทย

ผลจากโควิดและการปรับตัวของสายการบิน

ผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีนของ Qatar Airways ได้เล่าถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบต่อสายการบินทั่วโลก และแน่นอนว่าสายการบินจากประเทศกาตาร์รายนี้ก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน ซึ่งสายการบินได้ปรับตัวโดยได้ผู้โดยสารที่จองตั๋วกับสายการบินสามารถขอเลื่อนการเดินทางได้นานถึง 2 ปี หรือแม้แต่ถ้าหากต้องการขอเงินคืนก็สามารถทำได้เช่นกัน

เขาได้เล่าว่าสิ่งที่ Qatar Airways ทำไปนั้นเพื่อต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของสายการบินในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้

ขณะเดียวกันสายการบินเองก็ยังดำเนินธุรกิจอยู่แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาด โดยยังมีเที่ยวบินที่ให้บริการในหลายทวีป แต่ทางสายการบินเองก็ได้ปรับธุรกิจมาเน้นการขนส่งคาร์โก้ทางอากาศมากขึ้นด้วย โดยเขาเล่าว่าปัจจุบันการขนส่งคาร์โก้ของสายการบินเองก็ยังเติบโตอยู่ หรือแม้แต่การจ้างสายการบินให้ขนคาร์โก้โดยเฉพาะก็เติบโตเช่นกัน

เบ็นเน็ต สตีเฟ่นส์ – ผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน กาตาร์ แอร์เวย์ส (คนกลางของรูป)

คนไทยไปแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ มากขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวก็มาไทยเยอะเช่นกัน

เบนเน็ต ยังได้กล่าวถึงเทรนด์ของนักท่องเที่ยวไทยที่ไปแหล่งท่องเที่ยวที่มีฟรีวีซ่าอื่นๆ มากขึ้น โดยเขาได้ยกตัวอย่างประเทศจอร์เจียที่สายการบินมีเส้นทางการบินอยู่แล้ว ซึ่งคนไทยรวมถึงเหล่าบล็อกเกอร์นิยมไปเที่ยวประเทศนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้เขายังเห็นปริมาณนักท่องเที่ยวไทยในประเทศอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย ส่งผลทำให้สายการบินได้ทยอยเพิ่มเที่ยวบินจากกรุงเทพและภูเก็ตไปยังกรุงโดฮา โดยล่าสุดมีเที่ยวบินจากประเทศไทยไปกาตาร์แล้วกว่า 7 เที่ยวบินต่อวัน แม้ว่าจะยังต่ำกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดซึ่งอยู่ที่ 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ก็ตาม

เขาย้ำว่าถ้าหากปริมาณนักท่องเที่ยวยังเพิ่มมากขึ้น สายการบินจะเพิ่มเที่ยวบินทันที ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเขากล่าวว่าปริมาณนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาไทยก็เพิ่มสูงมากเช่นกัน

ประเทศอื่นๆ ในละแวกอินโดจีน ช่องทางขายตั๋วออนไลน์ และความท้าทายหลังจากนี้

ผู้บริหารรายนี้ยังได้กล่าวว่าไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่ปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่เขาได้กล่าวถึงประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างเวียดนาม ซึ่งสายการบินนั้นมีเที่ยวบินให้บริการเช่นกันนั้น เขาชี้ว่าความต้องการที่จะเดินทางนั้นเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน (Pent Up Demand) ในช่วงที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันเขาได้ชี้ว่าหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ช่องทางการขายตั๋วออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Qatar Airways มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น จากเดิมก่อนการแพร่ระบาดอยู่ที่ 20% เท่านั้น แต่ปัจจุบันมีสัดส่วนมากถึง 35% ที่เหลือนั้นเป็นสัดส่วนของช่องทางจัดจำหน่ายผ่านเอเย่นต์ต่างๆ

ทางด้านความท้าทายของสายการบินนั้นเขาได้กล่าวถึงราคาน้ำมันนั้นเป็นปัจจัยสำคัญมากที่สุดของปี 2023 แต่เขาก็ชี้ว่า Qatar Airways สามารถรับมือในเรื่องดังกล่าวได้ และเขายังทิ้งท้ายว่ามั่นใจว่าอุตสาหกรรมการบินนั้นจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง รวมถึงมั่นใจว่าสายการบินจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยกลับมาเติบโตได้